ปฏิวัติภาคอสังหาฯ เข้าถึงพลังงานสะอาดสู่เป้าหมาย NET-ZERO วางเป้าติดตั้ง 10,000 หลัง ลดคาร์บอน 42,000 ตัน ภายใน 5 ปี
อุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เผยว่า "การปฎิวัติการเข้าถึงพลังงานสะอาดของภาคอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะระดับครัวเรือน ถือเป็นเป้าหมายสำคัญที่แสนสิริต้องการผลักดันให้เกิดขึ้นจริงและยั่งยืน เนื่องจากการเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงานในที่อยู่อาศัย คือ แรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายในการก้าวไปสู่ Net Zero ในระดับประเทศและระดับโลกต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการเข้าถึงพลังงานสะอาดในที่อยู่อาศัย ยังคงมีข้อจำกัดในการเข้าถึง ทั้งอุปกรณ์และการติดตั้งยังมีต้นทุนที่ราคาสูงถึงแม้ว่าต้นทุนเหล่านี้จะเริ่มมีการปรับราคาลดลงแต่ก็ยังเป็นอุปสรรคในการเข้าถึงด้านแหล่งเงินทุน เพื่อเป็นการปลดล็อกการเข้าถึงพลังงานสะอาดของครัวเรือน ล่าสุด แสนสิริ ได้ร่วมมือกับบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) จำกัด และ บริษัท ไอออน เอนเนอร์ยี จำกัด ผนึกกำลังในการมอบบริการสินเชื่อเพื่อบ้านรักษ์โลก เพื่อให้ลูกบ้านได้ติดตั้งโซลาร์ด้วยสินเชื่อเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 0%* ที่ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันครั้งแรกในประเทศไทย ผ่านแคมเปญ "SOLAR to ZERO" ปลดล็อกการเข้าถึงพลังงานสะอาดได้มากขึ้นและง่ายขึ้น โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นบ้านในโครงการของแสนสิริทั้งหมด โดยเฉพาะบ้านในโครงการแสนสิริ ที่ยังไม่เคยติดแผงโซลาร์ และมีนิติดูแล โดย พลัส พร็อพเพอร์ตี้ กว่า 300 โครงการ และนอกจากนี้บ้านในทุกโครงการใหม่แสนสิริ ทุกระดับเซ็กเมนท์ ที่ต้องการติดตั้งแผงโซลาร์เพิ่มจากเดิมที่แสนสิริติดตั้งให้ เพื่อรองรับการใช้งานและช่วยประหยัดค่าไฟฟ้ามากขึ้น โดยความร่วมมือครั้งนี้ ตั้งเป้าติดตั้งแผงโซลาร์ 100% จำนวน 10,000 ครัวเรือน ภายใน 5 ปี คาดว่าจะช่วยลดคาร์บอนได้ 42,000 ตันคาร์บอนต่อปี"
ความร่วมมือในแคมเปญ SOLAR to ZERO ครั้งนี้ สอดคล้องกับพันธกิจของแสนสิริ บริษัทอสังหาฯ รายแรกของไทยที่ตั้งเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) ภายในปี 2050 เพื่อมุ่งสร้างจุดเปลี่ยนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ปัจจุบัน แสนสิริ ได้ติดตั้ง Solar Roof ไปแล้วกว่า 800 หลัง เทียบเท่าการลดคาร์บอนแล้วกว่า 1,145 ตันคาร์บอน ติดตั้ง EV Charger ไปแล้ว 400 หลัง เทียบเท่าการลดคาร์บอนแล้วกว่า 537 ตันคาร์บอน กำจัดของเสียในอยู่อาศัยแล้ว 1.7 ล้านกิโลกรัม เทียบเท่าการลดปริมาณคาร์บอนแล้วกว่า 1,174 ตันคาร์บอน เพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยการปลูกต้นไม้แล้ว 73,661 ต้น เทียบเท่าการลดคาร์บอนกว่าแล้ว 700 ตันคาร์บอน ซึ่งการร่วมมือกับพันธมิตรในครั้งนี้จะช่วยผลักดันให้ลูกบ้านทุกหลังเข้าถึงพลังงานสะอาดได้อย่างเท่าเทียม โดยปัจจุบัน แสนสิริมีพอร์ตลูกค้าแนวราบรวมทั้งสิ้น 249 โครงการหรือคิดเป็นกว่า 79,000 ยูนิต ซึ่งได้เปิดโอกาสให้ลูกบ้านทุกกลุ่มและลูกบ้านจากพลัส พร็อพเพอร์ตี้เข้าร่วมแคมเปญได้อย่างเท่าเทียม ซึ่งแสนสิริมองว่าการเปลี่ยนแปลงระดับครัวเรือน จะสร้างแรงกระเพื่อมได้อย่างมหาศาล เนื่องจากที่อยู่อาศัย คือ จุดเริ่มต้นของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาใช้พลังงานสะอาด และส่งต่อแนวคิดนี้ไปสู่ภาคอื่นๆของสังคมที่ใหญ่ขึ้น เช่น สังคมที่ทำงาน สถานศึกษา จนไปถึงระดับประเทศ
โลแกน ยู กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจ พลังงานดิจิทัล บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "อนาคตสีเขียว เป็นเป้าหมายร่วมกันของทั่วโลก และการขับเคลื่อนสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนกลายเป็นกุญแจสำคัญของเศรษฐกิจที่ยั่งยืน และเป็นพื้นฐานของวิถีชีวิตสังคมใหม่ ซึ่งเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้บรรลุในวิสัยทัศน์นี้ หัวเว่ย ดิจิทัล พาวเวอร์ (Huawei Digital Power) ได้มุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีมาผสานกับพลังงานไฟฟ้า พลังงานสะอาด ปฏิวัติพลังงานดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อนอนาคตที่ดีกว่าและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับแผนแม่บทด้านการพัฒนาความยั่งยืนของประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียนที่เดินหน้าผลักดันสู่นโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2050 ซึ่งสอดคล้องกับการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ในภาคครัวเรือน ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญ โดยระบบโซลาร์เซลล์อัจฉริยะนี้จะแปลงพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะพลังงานดังกล่าวนำมาเก็บไว้ในอุปกรณ์จัดเก็บพลังงานอัจฉริยะ จะช่วยให้ครัวเรือนที่จะใช้พลังงานสีเขียวได้ตลอดทั้งวัน ปัจจุบัน หัวเว่ย ดิจิทัล พาวเวอร์ ได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ มีความน่าเชื่อถือ มีความเสถียรและความปลอดภัยให้กับลูกค้าและพันธมิตรไปแล้วมากกว่า 1,000 ราย และติดตั้งให้กับผู้ใช้งานตามบ้านไปแล้วกว่า 40,000 ครัวเรือนในไทย ในฐานะตัวแทนในนามของหัวเว่ย ดิจิทัล พาวเวอร์ ประเทศไทย ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ร่วมมือกับแสนสิริ, ICBC และ ION ในการเปิดตัวแคมเปญ 'SOLAR to ZERO' โดยแคมเปญจะนี้นำเสนอสินเชื่อระบบพลังงานแสงอาทิตย์แบบ 'ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน' ซึ่งจะทำให้ทุกครัวเรือนสามารถเข้าถึงได้ในราคาย่อมเยา ประหยัดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจที่ยั่งยืน สร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมและการใช้พลังงานอย่างรับผิดชอบอีกด้วย"
ธีรพงศ์ หิรัญญาพรพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและรักษาการผู้บริหารฝ่ายบริหารความเสี่ยงและรักษาการผู้บริหารสำนักพัฒนาธุรกิจและ
กลยุทธ์ บริษัท ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) จำกัด กล่าวว่า "ยินดีที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายผลักดันให้ภาคอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะระดับที่อยู่อาศัยได้เข้าถึงพลังงานสะอาด ความร่วมมือครั้งนี้จึงถือเป็นการปลดล็อกปัญหาสำคัญของการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานที่เริ่มจากภาคครัวเรือน และจะเป็นจุดเริ่มต้นให้สร้างการเปลี่ยนแปลงระดับประเทศได้ โดยคาดว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกบ้านอย่างดีเยี่ยม ความร่วมมือแคมเปญสินเชื่อ SOLAR to ZERO ครั้งนี้ บริษัทให้การสนับสนุนสินเชื่อภายใต้เงื่อนไขที่บริษัทกำหนดโดยมีระยะเวลาผ่อนชำระนานสูงสุด 84 เดือน ถือว่าเป็นบริการด้านการเงินที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยลูกบ้านไม่ต้องนำบ้านมาค้ำประกัน จึงถือว่าเป็นการยื่นโอกาสที่ดีที่สุดที่มอบให้กับลูกบ้านแสนสิริทั้งโครงการที่ปิดการขายและโครงการใหม่ที่อยากติดเพิ่มเพื่อช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า"
พีรกานต์ มานะกิจ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไอออน เอนเนอร์ยี่ จำกัด หรือ ION ผู้จัดหาโซลูชั่นพลังงานโซลาร์ครบวงจร สำหรับอยู่อาศัยและองค์กรธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กล่าวว่า "ปัจจุบัน ION ถือว่าเป็นผู้นำในการติดตั้งโซลาร์สำหรับบ้านที่อยู่อาศัย โดยได้มีการติดตั้งแล้วมากกว่า 1,500 หลัง เทียบเท่าการลดคาร์บอนแล้วกว่า 3,000 ตันคาร์บอนต่อปี โดยจากความร่วมมือในแคมเปญ SOLAR to ZERO ครั้งนี้ ทำให้คาดการณ์ว่า จะสามารถติดตั้งให้ลูกค้าครอบคลุมกว่า 10,000 ครัวเรือนภายใน 5 ปี คาดว่าจะช่วยลดคาร์บอนได้ 42,000 ตันคาร์บอนต่อปี นอกจากนี้ ION ได้จัดทำโปรโมชั่นพิเศษอัตราดอกเบี้ย 0%* นาน 4 เดือน สิทธิพิเศษสำหรับลูกบ้านแสนสิริ โดยผู้ที่สนใจร่วมแคมเปญสามารถติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-114-3488 หรือ Line Official: @ionenergy ทั้งนี้ การติดตั้งโซลาร์เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดก๊าซเรือนกระจกที่สามารถวัดและประเมินผลได้ ซึ่งการติดตั้งแผงโซลาร์ ขนาด 5.5 กิโลวัตต์ สามารถผลิตไฟฟ้าต่อปีได้ถึง 7,016 กิโลวัตต์ จะสามารถช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 29,000 บาทต่อปี สามารช่วยลดคาร์บอนได้ 4 ตันคาร์บอนต่อปี เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้เป็นจำนวนปีละ 280 ต้น"
*โปรโมชั่นพิเศษจากทาง ION ENERGY มอบให้แก่ลูกบ้านแสนสิริเท่านั้น
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit