สัมผัสเสน่ห์ของ Yakiniku Omakase ที่ผ่านการผสมผสานศาสตร์และศิลป์ ตามแบบฉบับของญี่ปุ่นแท้ ๆ ทั้งฝีมือ ความประณีต พิถีพิถันในทุกขั้นตอน รวมถึงการสร้างสรรค์รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งยังถ่ายทอดเรื่องราวและคาแรคเตอร์ของเนื้อแต่ละส่วนออกมาได้เป็นอย่างดี พร้อมด้วยการเสิร์ฟทุกประสบการณ์ที่น่าประทับใจ โดยทั้งหมดนี้เป็นความโดดเด่นของเชฟ เคนทาโร่ นากาฮาร่า ที่บอกเลยว่าเหล่าคนรักเนื้อต้องมาลองสักครั้งในชีวิต
ซึ่งเคนทาโร่ นากาฮาร่า เป็นเชฟชาวญี่ปุ่นที่ยึดมั่นและยึดถือเรื่อง "ความสมดุล" ในการทำอาหารด้วย ทั้งการคัดสรรวัตถุดิบ การปรุงเนื้อ และการเลือกใช้ไฟที่เหมาะสม
เริ่มจาก การเลือกใช้วัตถุดิบที่เป็นเนื้อวัวคุณภาพพรีเมียม ซึ่งเชฟจะเป็นผู้คัดเลือกเนื้อด้วยตัวเองเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าลักษณะรูปร่างของเนื้อ สี และไขมันแทรกบนเนื้อ อยู่ในระดับมาตรฐานที่เชฟวางไว้และมั่นใจในคุณภาพที่ดีที่สุด
ที่สำคัญคือเชฟให้ความสำคัญในเรื่องของเทคนิคและความละเอียดในการใช้มีดอย่างระมัดระวัง แค่เพียงการเปลี่ยนมุมในการหั่นเนื้อ หรือความหนาของเนื้อที่แตกต่างกันแค่ 0.2 มิลลิเมตร ก็สามารถเปลี่ยนเนื้อสัมผัสและรสชาติของเนื้อไปได้อย่างสิ้นเชิง เพราะฉะนั้นจึงมีเชฟและทีมที่ถูกเลือกให้ประจำในส่วนของการหั่นเนื้อโดยเฉพาะ ทำให้เนื้อที่นำมาทำยากินิกุที่ร้านของเชฟจึงมีเนื้อสัมผัสที่ชุ่มฉ่ำ มีรูปร่างที่เหมาะสม และรสชาติของเนื้อที่อร่อยลงตัว
การปรุงเนื้อ ที่ช่วยคงสภาพของเนื้อไว้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเกลือและซอสที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเชฟ
การเลือกใช้ไฟที่เหมาะสม ลักษณะของการย่างเนื้อด้วยถ่านจะช่วยเพิ่มความหอมให้กับตัวเนื้อ และทำให้เนื้ออร่อยมากยิ่งขึ้น ผสมผสานกับเทคนิคและความเชี่ยวชาญในการควบคุมไฟของเหล่าทีมเชฟที่ผ่านการฝึกฝนในระดับมืออาชีพ พร้อมการย่างให้กับลูกค้าทุกโต๊ะ
สามสิ่งนี้เป็นสิ่งที่นากาฮาร่ายึดมั่น จนร้านอาหารที่ญี่ปุ่นของเขา มีคิวจองยาวข้ามปี เพราะลูกค้าที่ได้ลองทานกล่าวขานกันปากต่อปาก
โดยเคนทาโร่ นากาฮาร่า เจ้าของร้าน Sumibiyakiniku Nakahara กล่าวไว้ว่า "ผมภูมิใจที่ได้เสิร์ฟเนื้อคุณภาพดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกคน ผมเชื่อมั่นในการปรุงเนื้อแบบพื้นฐานและดั้งเดิม เพราะอยากให้ทุกคนเข้าถึงและเข้าใจพื้นฐานความเป็นเนื้อย่างอย่างแท้จริง พร้อมทั้งการสร้างประสบการณ์ผ่านความอร่อยของอาหารที่น่าจดจำ รวมถึงบรรยากาศในการรวมตัวของกลุ่มคนรักเนื้อที่มาร่วมพูดคุยกันภายในร้าน ดังนั้นทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาของการรังสรรค์ Yakiniku Omakase นี้ ให้เป็นรูปแบบที่เรียบง่าย แต่ยังมีความ Authentic ของญี่ปุ่นแท้ ๆ อยู่ด้วย"
และตอนนี้เชฟเคนทาโร่ นากาฮาร่า กำลังเดินทางมามีอีเวนท์เปิดคอร์สพิเศษที่ประเทศไทย โดยจะขนทีมงานมาจากญี่ปุ่น ลงมือทำด้วยตัวเองทั้ง 14 คอร์ส ที่ชูวัตถุดิบและรสชาติ ร้อยเรียงเส้นทางในการดื่มด่ำรสสัมผัส ผ่านศิลปะในการปรุงอาหารอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เริ่มแรกจนจานสุดท้าย
สำหรับในปีนี้ความพิเศษพบกับ เมนูใหม่ Niku Somen เนื้อวากิวดิบ ที่หั่นเป็นเส้นบาง ๆ ทานคู่กับซอสสูตรพิเศษของเชฟ ให้ความสดชื่นและรสชาติที่ละเอียดอ่อน โรยด้วยสาหร่าย ต้นหอมซอย หนึ่งในเมนูพิเศษที่ห้ามพลาด
ส่วนเมนูไฮไลท์ของเชฟที่ทุกคนตั้งตาอยากลิ้มรสอีกครั้ง ก็ยังคงมีในคอร์สที่เสิร์ฟของปีนี้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น
ยุกเกะ (Yukhoe - Korean-Style Steak Tartare) รสชาติของเนื้อวากิวสีแดงแบบดิบ หั่นเป็นเส้นยาวเท่า ๆ กัน คลุกเคล้าซอสที่หอมน้ำมันงา ให้รสชาติที่มีมิติทั้งหวาน เค็มมัน เป็นการเปิดประสาทสัมผัสเตรียมรับคอร์สสุดพิเศษ
อื่น ๆ ที่จะตามมา, เซอร์ลอย (Sirloin) เนื้อคุณภาพพรีเมียมนำมาแล่เป็นแผ่นบาง ปรุงด้วยซอสสูตรเฉพาะของเชฟ รสชาติเข้มข้น จัดวางพาดบนไม้ไผ่ที่เป็นซิกเนเจอร์ เวลาได้ย่างบนเตาถ่านจะได้กลิ่นหอมของเนื้ออย่างชัดเจน พร้อมกับเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่ม เพราะไขมันที่แทรกอย่างละเอียดบนชิ้นเนื้อ เรียกได้ว่าแทบจะละลายในปากก็ว่าได้, วากิว คัตสึ แซนวิช (Original Wagyu Katsu Sandwich) แซนวิชที่นำเนื้อวากิวชิ้นหนาไปทอด แต่ยังคงความนุ่มชุ่มฉ่ำของเนื้อ และรสชาติกลมกล่อม ประกบด้วยขนมปังที่มีความกรอบกำลังดีเข้ากันอย่างลงตัว และเมนูอื่น ๆ ที่เตรียมพิเศษสำหรับนักชิมตัวยงโดยเฉพาะ
ใครอยากมาลองสัมผัสความพิเศษที่มาได้ที่ TETSU ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ อีเว้นท์มีแค่เพียง 4 วันเท่านั้น ตั้งแต่ 14 - 17 กันยายน 2566 ในราคาเพียง 7,500++ บาทต่อท่าน
โดยแบ่งเป็น 2 รอบต่อวัน
สำรองที่นั่งได้ที่ Line@ tetsuyakiniku หรือคลิก https://lin.ee/tHMl0P9 จำนวนจำกัดเพียง 50 ที่นั่ง/รอบ เท่านั้น! รายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/tetsu.embassy/ หรือโทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
064-587-2421
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit