ผู้ถือกรมธรรม์เก้าในสิบราย (93%) ยินยอมเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติมกับบริษัทประกันภัย เพื่อแลกกับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ รวมถึงบริการที่มีความเฉพาะตัวมากขึ้น
ความคุ้มค่ากับเงินที่จ่าย เบี้ยประกันไม่แพง และความไว้วางใจในแบรนด์ ยังคงเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อประกันภัยมากที่สุด
ผลการสำรวจตลาดประกันภัยไทยประจำปี 2566 ของแคปโค (Capco) พบว่า ผู้ถือกรมธรรม์ที่ร่วมตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ยินยอมเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติมกับบริษัทประกันภัย เพื่อให้ได้รับบริการที่มีความเฉพาะตัวมากขึ้น (56%) เพื่อปรับปรุงขั้นตอนการเรียกร้องค่าสินไหม (52%) และเพื่อสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ผลการสำรวจล่าสุดนี้แสดงให้เห็นถึงโอกาสอย่างชัดเจนหากบริษัทประกันภัยนำข้อมูลและการวิเคราะห์ไปใช้ปรับแต่งผลิตภัณฑ์และบริการให้ตรงตามความต้องการและความคาดหวังของลูกค้าได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
ผลสำรวจพบว่า ผู้ถือกรมธรรม์ในประเทศไทยหลายรายจากจำนวน 1,000 รายที่ร่วมตอบแบบสำรวจ อาจเลือกวิธีการใดวิธีการหนึ่ง หรือมากกว่าหนึ่งวิธี ในการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การตรวจสุขภาพและทดสอบสมรรถภาพ (46%) สมาร์ทวอชและอุปกรณ์สวมใส่ไร้สายอื่น ๆ (44%) ข้อมูลบนโซเชียลมีเดีย (43%) และอุปกรณ์อัจฉริยะในบ้าน (33%)
จำนวนผู้ตอบแบบสอบถามในประเทศไทยที่ยินดีแบ่งปันข้อมูลบนโซเชียลมีเดียนั้นสูงที่สุดในตลาดเอเชียแปซิฟิก 5 ตลาดที่เป็นส่วนหนึ่งของรายงานการสำรวจตลาดประกันภัยทั่วโลกประจำปี 2566 ของแคปโค ซึ่งผลสำรวจในข้อนี้เน้นย้ำให้เห็นถึงบทบาทของประเทศไทยในฐานะผู้บ่มเพาะนวัตกรรมดิจิทัล อย่างไรก็ตาม ในการซื้อประกันภัยนั้น ผู้ถือกรมธรรม์ในประเทศไทยยังคงตัดสินใจโดยพิจารณาจากปัจจัยเดิม ๆ โดยเฉพาะความคุ้มค่ากับเงินที่จ่าย (52%) เบี้ยประกันราคาไม่แพง (38%) และความไว้วางใจในแบรนด์ (37%)
ผลสำรวจของแคปโคในประเทศไทยได้จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างผู้ถือกรมธรรม์ที่มีอายุระหว่าง 18-65 ปี เพื่อรวบรวมความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อการประกันภัยและบริษัทประกันภัย รวมถึงช่องทางในการเลือกซื้อประกัน ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อประกันภัย มุมมองเกี่ยวกับขั้นตอนการเรียกร้องค่าสินไหมและแอปประกันภัย ความต้องการผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะกับแต่ละบุคคล และความยินยอมเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
รายงานที่เกี่ยวข้องเน้นย้ำให้เห็นถึงแนวโน้มนวัตกรรมที่สำคัญ พร้อมทั้งเสนอแนะแนวทางสำหรับบริษัทประกันภัยที่ต้องการคว้าโอกาส อาทิ ประสบการณ์ที่แตกต่างกันของลูกค้า ผลิตภัณฑ์ที่ปรับให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละรายมากขึ้น และการปรับปรุงการเสนอขายผลิตภัณฑ์อื่นที่เกี่ยวข้อง (cross-selling) ซึ่งคำแนะนำเหล่านี้ได้มาจากมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการยินยอมเปิดเผยข้อมูลในรายงานวิจัยผู้บริโภคของแคปโค
แลนซ์ เลวี (Lance Levy) ซีอีโอของแคปโค กล่าวว่า "ธุรกิจประกันภัยของประเทศไทยกำลังเติบโต และปริมาณข้อมูลที่บริษัทประกันเก็บรวบรวมนั้นมีแนวโน้มเติบโตเร็วยิ่งกว่า ผลการสำรวจของเราแสดงให้เห็นว่า ผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัยจำนวนมากยินดีที่จะแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลจากโซเชียลมีเดียและแหล่งข้อมูลอื่น ๆ เพื่อแลกกับผลิตภัณฑ์และบริการที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ชุดข้อมูลที่ปรับปรุงแล้วเหล่านั้น เมื่อรวมกับการจัดการข้อมูลในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมและเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ จะช่วยให้บริษัทประกันภัยของไทยได้รับข้อมูลเชิงลึกใหม่ ๆ ที่มีคุณค่าเกี่ยวกับความต้องการ พฤติกรรม และบัญชีความเสี่ยงของลูกค้า"
คุณนิกกี้ ยศวดี หงส์ชุมแพ Managing Principal บริษัท แคปโค ประเทศไทย กล่าวว่า "การที่ผู้ถือกรมธรรม์ยินยอมเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติมถือเป็นโอกาสที่ชัดเจนสำหรับบริษัทประกันภัย แต่ผู้ให้บริการก็จะต้องมีการจัดการข้อมูลและการกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาความไว้วางใจของลูกค้าเอาไว้ให้ได้ บริษัทประกันภัยที่สามารถทำเช่นนี้ได้ จะต้องสามารถให้คำแนะนำแก่ลูกค้าด้วยข้อมูลที่ครบถ้วนและตรงตามความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ขณะเดียวกันก็สามารถเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรม พร้อมทั้งตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น"
ผลการสำรวจที่สำคัญอื่น ๆ ในรายงานของแคปโค ประเทศไทย ได้แก่:
ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอย่างมากต่อผลิตภัณฑ์ประกันภัยประเภทต่าง ๆ ที่ตรงตามความต้องการเฉพาะบุคคลมากขึ้น อาทิ ประกันชดเชยรายได้ ประกันสุขภาพ และประกันชีวิต
ผู้ถือกรมธรรม์มีแรงจูงใจที่แตกต่างกันในการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม
ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ (90%) ที่เคลมประกันได้รู้สึกพอใจกับขั้นตอนการเรียกร้องค่าสินไหม โดย 41% ในจำนวนนี้ ระบุว่า "พอใจอย่างมาก"
ผู้ถือกรมธรรม์ใช้แอปประกันภัยเพื่อจัดการเรื่องต่าง ๆ นอกเหนือจากการจัดการกรมธรรม์ โดย 90% ใช้แอปเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ
การเพิ่มฟีเจอร์อื่น ๆ ในแอปเป็นที่สนใจของผู้ใช้เหล่านี้ โดยเฉพาะการเข้าถึงแหล่งข้อมูลด้านสุขภาพออนไลน์ (49%) และการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ (33%)
สามารถดาวน์โหลดผลการสำรวจตลาดประกันภัยไทยประจำปี 2566 ของแคปโคได้ที่นี่ นอกจากนี้ยังมีรายงานธุรกิจประกันภัยของประเทศอื่น ๆ และจะมีการเผยแพร่รายงานอีกหลายตลาดตามมาในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า การสำรวจตลาดประกันภัยทั่วโลกปีล่าสุดของแคปโคจัดทำขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2566 และรวบรวมคำตอบจากผู้ถือกรมธรรม์อายุ 18-65 ปี จำนวน 13,750 ราย ทั่วประเทศไทย สิงคโปร์ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง เขตเศรษฐกิจอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า (ยกเว้นฮ่องกง) มาเลเซีย สหราชอาณาจักร สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี เบลเยียม โปแลนด์ อิตาลี สหรัฐอเมริกา แคนาดา และบราซิล
เกี่ยวกับแคปโค
แคปโค (Capco) บริษัทในเครือวิปโพร (Wipro) เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีและการจัดการระดับโลกที่เชี่ยวชาญการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในอุตสาหกรรมบริการทางการเงิน โดยมีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น ประกอบไปด้วยองค์กรระดับโลกกว่า 100 แห่ง แคปโคดำเนินงานที่จุดบรรจบกันของธุรกิจและเทคโนโลยีโดยการผสานความคิดเชิงนวัตกรรมเข้ากับความรู้ในอุตสาหกรรมที่ไม่มีใครเทียบได้ เพื่อเร่งผลักดันแผนงานริเริ่มด้านดิจิทัลสำหรับภาคการธนาคารและการชำระเงิน ตลาดทุน การบริหารความมั่งคั่งและสินทรัพย์ การประกันภัย และภาคพลังงาน ความเฉลียวฉลาดและก้าวล้ำของแคปโคได้รับการสนับสนุนจากวัฒนธรรมองค์กร Be Yourself At Work หรือเป็นตัวของตัวเองในที่ทำงาน ซึ่งได้รับรางวัลการันตีมาแล้ว และเกิดขึ้นได้ด้วยบุคลากรที่มีความสามารถและหลากหลายของบริษัท เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ www.capco.com หรือติดตามเราบนลิงก์อิน อินสตาแกรม เฟซบุ๊ก และยูทูบ
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit