BRR ท็อปฟอร์ม!! ปี 65 กำไร 760 ลบ. โตสนั่น 498% แจกปันผลหุ้นละ 0.20 บาท ชูธุรกิจ Wood Pellet เริ่มปั๊มรายได้ Q3 พร้อมรุกคาร์บอนเครดิต

28 Feb 2023

"บมจ.น้ำตาลบุรีรัมย์ หรือ BRR" ประกาศผลงานปี 65 บุ๊คกำไร 760.56 ลบ. เติบโต 498.67% โกยรายได้ 7,352.68 ลบ. เพิ่มขึ้น 94.08% จากปีก่อน รับผลบวกจากราคาน้ำตาลเพิ่มสูงขึ้น ค่าเงินบาทที่อ่อนค่า และการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้กลุ่มธุรกิจมีกำไรเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมแจกปันผลหุ้นละ 0.20 บาท ตอบแทนผู้ถือหุ้น ประเมินปี 66 เติบโตต่อเนื่องในทุกกลุ่มธุรกิจ ชูโครงการเชื้อเพลิงชีวมวลสุดฮอต เป็นที่ต้องการของญี่ปุ่น พร้อมลงทุนเพิ่ม รับเจรจานักลงทุนพร้อมขอสัมปทาน ส่วนเฟสแรกในสปป.ลาว ผลิตแสนตัน ญี่ปุ่นเซ็นเหมาซื้อระยะยาว 15 ปี จ่ายปีละ 17 ล้านดอลล์ ราว 590 ล้านบาท เริ่มรับรู้รายได้ไตรมาส 3 ปีนี้

BRR ท็อปฟอร์ม!! ปี 65 กำไร 760 ลบ. โตสนั่น 498% แจกปันผลหุ้นละ 0.20 บาท ชูธุรกิจ Wood Pellet เริ่มปั๊มรายได้ Q3 พร้อมรุกคาร์บอนเครดิต

นายอนันต์ ตั้งตรงเวชกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BRR เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ งวดปี 2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 760.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 633.51 ล้านบาท โต 498.67% ซึ่งเติบโตจากงวดปี 2564 ที่มีกำไร 127.04 ล้านบาท สาเหตุที่กำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้รับผลบวกจากราคาน้ำตาลเพิ่มสูงขึ้น และค่าเงินบาทที่อ่อน ตลอดจนการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 7,352.68 ล้านบาท รายได้เพิ่มขึ้น 3,564.26 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 94.08% เทียบกับปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,788.42 ล้านบาท

จากผลประกอบการที่มีกำไรดังกล่าว และเพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ยังคงเชื่อมั่น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติเสนอผู้ถือหุ้นจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท/หุ้น คิดเป็นเงินรวม 162,419,969 บาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 12 พฤษภาคม 2566 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 25 พฤษภาคม 2566

ด้านธุรกิจน้ำตาลในปี 2566 ยังสดใส เนื่องจากราคาน้ำตาลในตลาดโลกยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564 จากประมาณการผลผลิตทั่วโลกปีนี้ไม่เกินดุลอย่างที่คาดการณ์ไว้ จึงเป็นเหตุให้ราคาตลาดโลกยังคงปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่ 20-22 เซนต์/ปอนด์ สำหรับศักยภาพการเติบโตของกลุ่มธุรกิจ BRR บริษัทวางเป้าหมายรายได้เติบโต 8,000 กว่าล้านบาท ในอีก 3 ปี จากแผนขยายกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์ชานอ้อย 7,000 ตัน/ปี โดยลงทุนเครื่องจักรอีก 14 เครื่อง รวมเป็น 28 เครื่อง ด้านโครงการ Wood Pellet ในสปป.ลาว ในนามบริษัท สีพันดอน - ราชลาว จำกัด กำลังการผลิต 100,000 ตันต่อปีนั้น บริษัทมีสัญญาจองซื้อระยะยาว 15 ปี จากบริษัทในประเทศญี่ปุ่นแล้ว ที่ราคาเฉลี่ย 170 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน คิดเป็นรายได้มูลค่า 17 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือราว 590 ล้านบาท จะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาในไตรมาส 3 ปี 2566 และจากโนว์ฮาวด้านการผลิตและการจัดการวัตถุดิบที่มี บริษัทฯได้เริ่มเจรจากับนักลงทุนเพื่อขยายโครงการถัดไป

โดยโครงการ Wood Pellet มีพื้นที่สัมปทาน 40,000 ไร่ ล่าสุดได้รับการรับรองมาตรฐาน FSC (Forest Stewardship Council) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ยอมรับจากผู้ซื้อในตลาดระดับสากล และการันตีได้ว่าผลิตภัณฑ์ได้รับการตรวจสอบตลอดห่วงโซ่อุปทาน และมั่นใจได้ว่ามาจากป่าปลูกเชิงพาณิชย์ที่มีการบริหารจัดการอย่างมีความรับผิดชอบ

นายอนันต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การปลูกไม้เพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิต Wood Pellet ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และยังสร้างรายได้ให้แก่บริษัทด้วยการขายคาร์บอนเครดิตอีกด้วย จากการปลูกไม้ในพื้นที่ จะสามารถดูดซับการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้เฉลี่ย 6 ตันคาร์บอนต่อไร่ ซึ่งราคาซื้อขายปัจจุบันอยู่ที่ 50-100 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันคาร์บอน หรือราว 1,700-3,500 บาทต่อตันคาร์บอน โดยบริษัทตั้งเป้าหมายสร้างรายได้จากการขายคาร์บอนเครดิตอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมจัดทำเอกสารเพื่อขอรับรองและขึ้นทะเบียนการขายคาร์บอนเครดิตตามมาตรฐานสากล พร้อมทั้งได้หารือกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องของสปป.ลาว

HTML::image(