หลัง NRF ประกาศกลยุทธ์ในปีนี้ที่จะกระโดดเข้ามาแข่งขันในธุรกิจร้านค้าปลีก พร้อมต่อยอดสู่ Omni-Channel ได้รับสัญญาณที่ดีขึ้นจากภาพรวมของรายได้ของร้านค้าปลีกใน UK มีการเติบโตอยู่ที่ 11.3% ทางด้านร้านค้าออนไลน์ส่งผลรายได้เติบโตราว 12.46% จากอานิสงส์ของโรคระบาด ภาคการท่องเที่ยวที่มีภาพรวมที่ดีขึ้น รวมทั้งแนวโน้มการขยายตัวของผู้บริโภค
แดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NRF กล่าวว่า คณะกรรมการบริหารของบริษัทฯ ได้อนุมัติในการลงทุนธุรกิจค้าปลีกที่เราจะนำมาเป็นกลยุทธ์ในปีนี้ เนื่องจากบริษัทมีการส่งออกกว่า 30 ประเทศ และยังมีจุดแข็งทางด้านอาหารท้องถิ่น (Ethnic food) โดยกลยุทธ์ที่เราได้วางไว้คือการพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ของแบมบู มาร์ท (Bamboo Mart) ดังนั้นร้านค้าดังกล่าวจะรองรับทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ ซึ่งอุตสาหกรรมค้าปลีกโดยเฉพาะร้านจำหน่ายอาหารเอเชียของ UK มีมูลค่า 190,800,000 ดอลลาร์สหรัฐ มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 11.3% ต่อปี ยิ่งกว่านั้นบริษัทฯ ได้วางแผนขยายสาขาของ Bamboo Mart ตามหัวเมืองที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของ UK ซึ่งจะประกอบไปด้วยกลุ่ม International Community ที่เป็นกลุ่มสำคัญในการขับเคลื่อนโครงสร้างทางเศรษฐกิจ-สังคม ในขณะที่แพลตฟอร์มออนไลน์ยังคงมีแนวโน้มการใช้งานเติบโตอย่างต่อเนื่อง สอดรับกับขยายตัวของร้านค้าออนไลน์ที่มีสัดส่วนตลาดถึง 12.6% และมีแนวโน้มเติบโตถึง 12.46% การพัฒนาร้านค้าออนไลน์นี้ยังนับว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของเราอีกด้วยให้ตอบโจทย์กับกลุ่มผู้บริโภคที่ยังคงช้อปออนไลน์ ซึ่งเรามีความมั่นใจในกลยุทธ์ที่วางเอาไว้
"การต่อยอดสู่ Omni-channel นับก้าวสำคัญของNRF ที่จะกระโดดเข้าไปอยู่ในกระดานใหม่อย่างธุรกิจค้าปลีก โดยจะมุ่งพัฒนาเพื่อรองรับเทรนด์ผู้บริโภค เพื่อมุ่งสร้างประสบการณ์ร่วมกัน ซึ่งกลุ่มคนเอเชียที่เป็น นักศึกษา แรงงานทักษะสูง ที่อาศัยอยู่ในUK มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง สอดรับกับอัตราของผู้บริโภค ที่ชื่นชอบการซื้ออาหารท้องถิ่นกลับไปทานที่บ้านราว 90% บวกกับสื่อการเรียนรู้ทางออนไลน์ ที่ทำให้ทุกคน สามารถประกอบอาหารเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน โดยหลังจากเราได้มีการประกาศกลยุทธ์ทำให้เราได้เร่งพัฒนาและดำเนินงาน โดยเราตั้งเป้าว่า Bamboo Mart แห่งแรกจะเริ่มขึ้นที่ UK" นายแดน กล่าวปิดท้าย
แม้สถานการณ์ธนาคาร จะแผ่ขยายอิทธิพลมาถึงสหราชอาณาจักร แต่สำหรับธุรกิจร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เอเชีย และการบริโภคอาหารเอเชีย ไม่ได้รับผลกระทบในวิกฤตดังกล่าว เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวและการผ่อนคลายหลังวิกฤตโรคระบาดที่ดีขึ้น อีกทั้งจากการคาดการณ์ของอุตสาหกรรม ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เอเชียจะมีสัดส่วนประมาณ 42%ของมูลค่าตลาดค้าปลีกทั้งหมดในสหราชอาณาจักรจนถึงปี 2026
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit