บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG เข้าร่วมดัชนี S&P ESG กลุ่ม B เป็นครั้งแรก โดยมีผลคะแนนดีขึ้นจากปีก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ

13 Mar 2023

แนวปฏิบัติในการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความยั่งยืนมีความสำคัญสูงสุดสำหรับแนวทางในการดำเนินธุรกิจของเรา

บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG เข้าร่วมดัชนี S&P ESG กลุ่ม B เป็นครั้งแรก โดยมีผลคะแนนดีขึ้นจากปีก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ

ด้วยความมุ่งมั่นในการดำเนินงานของบริษัทให้สอดคล้องกับเป้าหมายความยั่งยืนในระยะยาว CBG ได้เข้าร่วมตอบแบบประเมินดัชนี S&P ESG Index Group B ซึ่งเป็นการประเมินประสิทธิภาพในการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจและธรรมาภิบาลของของบริษัท ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มนักลงทุนและผู้มีส่วนได้เสีย โดยในปีแรก CBG ได้ปรับปรุงคะแนนโดยรวม ในมิติต่างๆ โดยลำดับของบริษัทดีขึ้นจากอันดับ 36 เป็น 83 ในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม จากบริษัทที่เข้าร่วมตอบแบบประเมินมากกว่า 90 ที่ร่วมตอบแบบประเมินทั่วโลก

CBG ได้รับการยอมรับจากการปรับปรุงการดำเนินการในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจและธรรมาภิบาลหลายประการ โดยมีคะแนนรวม 56 จาก 100 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 10 คะแนน โดยในปี 2564 CBG ทำคะแนนสูงสุดคือ 100 คะแนน ในหมวดการรายงานด้านสิ่งแวดล้อมและการรายงานทางสังคม และได้มากกว่า 90 คะแนน ใน 5 หมวด ได้แก่ การระบุและประเมินประเด็นสาระสำคัญด้านความยั่งยืน การจัดการความเสี่ยงและวิกฤต กลยุทธ์ภาษี นโยบายและระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม และอาชีวอนามัยและความปลอดภัย โดยคะแนนของบริษัทเปิดเผยในช่องทางสาธารณะและสามารถเข้าถึงได้ผ่านทางลิงค์นี้

นาย เสถียร เสถียรธรรมะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า CBG ได้ดำเนินการตามพันธกิจขององค์กรอย่างแข็งขันและยังคิดริเริ่มอย่างต่อเนื่องในการดำเนินงานด้านความยั่งยืนซึ่งสอดคล้องกับแนวทางด้านความยั่งยืนที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลเพื่อดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมตอบสนองต่อความท้าทายที่เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งนี้ความยั่งยืนมีความสำคัญต่อธุรกิจและการดำเนินงานของบริษัทเสมอมา ซึ่งสอดคล้องไปตามแผนปฏิบัติการด้านความยั่งยืนในอนาคตที่เป็นหัวใจหลักของกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจระยะยาวของบริษัท

S&P Global CSA ประเมินประสิทธิภาพด้านความยั่งยืนของบริษัทชั้นนำโดยพิจารณาจากประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ รวมถึงตัวชี้วัดที่คาดการณ์ล่วงหน้า ซึ่งช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถสร้างพื้นฐานสำหรับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนและดำเนินการเปรียบเทียบการแข่งขันได้ ช่วยให้บริษัทต่างๆ ได้เรียนรู้จากบริษัทที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของตนเอง รวมทั้งมีข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดพร้อมกับกลยุทธ์ที่เหมาะสมซึ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว