นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงาน "มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ : มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน" ครั้งที่ 5 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดย รมว. ได้แสดงความห่วงใยต่อปัญหาหนี้ ว่า "ปัญหาโควิด ปัญหาความขัดแย้งในยุโรป ส่งผลต่อต้นทุนพลังงาน ต้นทุนการเงิน พุ่งสูงขึ้น นำมาซึ่งปัญหาเงินเฟ้อ ต้นทุนดอกเบี้ยสูง ทำให้หนี้ครัวเรือน และ หนี้ภาคประชาชนพุ่งสูงขึ้นถึง 89% รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาหนี้ เป็น "วาระแห่งชาติ" และเป็นภารกิจของกระทรวงการคลัง และสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาหนี้ โดยมีทั้งสถาบันการเงินของรัฐทั้ง 7 แห่ง และธนาคารพาณิชย์ ซึ่งมีข้อตกลงที่จะร่วมมือกันแก้ไขหนี้ ประนอมหนี้ "
"นอกจากนี้ ต้องสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงิน ทั้งการให้ความรู้ทางการเงิน การออม ซึ่งจะเป็นหลักประกันการดำเนินชีวิตหลังเกษียณ โดยประเทศไทยมีกลุ่มผู้ประกอบการอาชีพอิสระ 19 ล้านราย โดยรัฐร่วมสมทบการออมเข้ากองทุน ในช่วงการทำงาน ตามเป้าหมายกระทรวงการคลัง และ ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อลดปัญหาภาระหนี้สินของภาคประชาชน" ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ให้เกียรติเยี่ยมชมบูธบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) โดยมี นายเอด วิบูลย์เจริญ ประธานกรรมการ บสย. นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย. ให้การต้อนรับ ซึ่งงานจะจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 27-29 มกราคม 2566 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ภายในงาน บสย. ยกทีมที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs หรือ บสย. F.A. Center ร่วมให้คำปรึกษาเชิญผู้ประกอบการ SMEs ทั้งลูกค้าและลูกหนี้ ร่วมงาน โดยเตรียมแพคเกจ บสย. พร้อมช่วย "ผ่อนน้อย เบาแรง" บรรเทาภาระการผ่อนชำระ 3 ระดับ ภายใต้มาตรการ 3 สี ตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ อาทิ ตัดต้นก่อนตัดดอก ที่ช่วยให้หนี้ลด หมดหนี้เร็วขึ้น หรือ ดอกเบี้ย 0% เน้นตัดเงินต้น และ ระยะเวลาผ่อนนาน 7 ปี ช่วยให้ลูกหนี้กลับมาตั้งตัวและพยุงธุรกิจต่อไปได้ โดย บสย. ได้เปิดช่องทางลงทะเบียน ขอรับคำปรึกษาล่วงหน้าและขอตรวจสุขภาพการเงิน ได้ที่ LINE TCG First