ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางด้านงานวิจัยและพัฒนา และงานบริการที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อมและการตรวจติดตามการประกอบกิจการพลังงาน เพื่อพัฒนางานวิจัย พร้อมทั้งให้คำปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อมและการตรวจติดตามกิจการการพลังงาน โดยมี ดร.ประทีป วงศ์บัณฑิต รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาด้านพัฒนาอย่างยั่งยืน วว. นายเฉลิมชัย จีระพันธุ์ ผู้อำนวยการศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมพลังงานสะอาดและสิ่งแวดล้อม วว. นายกัลย์ แสงเรือง รองเลขาธิการสำนักงาน กกพ. และนางสาวธิดารัตน์ สุวรรณชัยโฆษิต ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงาน กกพ. ร่วมเป็นสักขีพยาน โอกาสนี้ นายสมพร มั่งมี กรรมการบริหาร วว. ร่วมเป็นเกียรติด้วย
ความร่วมมือของทั้งสองหน่วยงานในครั้งนี้มีขอบเขตการดำเนินงานมุ่งสนับสนุนทรัพยากรด้านบุคลากร เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เพื่อบูรณาการข้อมูลที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้เชื่อมโยงกับด้านสิ่งแวดล้อมและการตรวจติดตามการประกอบกิจการพลังงาน การแลกเปลี่ยนข้อมูล การให้คำแนะนำทางวิชาการ งานบริการทดสอบวิเคราะห์ผล รวมทั้งการตรวจติดตามการประกอบกิจการพลังงาน ได้แก่ การตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม เช่น การตรวจวัดคุณภาพอากาศ การตรวจวัดคุณภาพน้ำ และการตรวจวัดระดับเสียงที่เกิดจากโรงไฟฟ้า เป็นต้น
ศ .(วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมของไทยและทั่วโลก เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งทรัพยากรดิน ทรัพยากรน้ำ ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่ารวมถึงพลังงาน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนั้นได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตเป็นอย่างมาก ดังนั้นควรมีการจัดการทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัดให้สามารถใช้ได้ยาวนาน ด้วยกระบวนการที่มีประสิทธิภาพและเป็นระบบ โดยการวางแผน ดำเนินงาน ติดตามประเมินผล และปรับปรุงแก้ไขพัฒนาให้ดีขึ้น เพื่อประโยชน์โดยรวมให้มากที่สุด ซึ่ง วว. มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการวิจัยและพัฒนา รวมถึงการให้บริการวิจัยด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานมาเป็นเวลากว่า 40 ปี มีศักยภาพและความพร้อมทั้งด้านบุคลากร องค์ความรู้ เทคโนโลยี โครงสร้างพื้นฐานและผลงานเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศและนานาชาติ โดยมีความพร้อมในการขับเคลื่อนและการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม อย่างครบวงจร (Total Solution) ตามแนวทางโมเดลเศรษฐกิจ BCG
"...ความร่วมมือของ วว. และ กกพ. ครั้งนี้ เป็นการประสานความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนงานวิจัยและบริการที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม การตรวจติดตาม การตรวจสอบ ทดสอบ และวิเคราะห์การปลดปล่อยมลพิษ จากการประกอบกิจการพลังงาน อันจะส่งผลให้การดูแลการใช้พลังงานมีความสมดุล ก่อให้เกิดระบบพลังงานที่มั่นคงมีเสถียรภาพ โดยการนำผลการวิเคราะห์ ทดสอบ มาใช้ประโยชน์ร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนการจัดการพลังงานและสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม มีการนำองค์ความรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม มาประยุกต์ใช้จริงให้เกิดประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม และส่งผลให้เกิดพัฒนาประเทศได้อย่างมั่นคง และยั่งยืนสืบไป..." ผู้ว่าการ วว. กล่าว
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงาน กกพ. กล่าวว่า ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานของสำนักงาน กกพ. เพื่อยกระดับศักยภาพการกำกับและตรวจติดตามกิจการพลังงาน รวมถึงป้องกันผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากการพัฒนาโครงการให้มีมาตรฐานและประสิทธิภาพสูงสุด โดยทาง วว. จะให้การสนับสนุนทั้งบุคลากร ที่มีความเชี่ยวชาญ พร้อมทั้งเครื่องมือ อุปกรณ์ สำหรับการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม เช่นมลพิษทางอากาศ มลพิษทางเสียง และมลพิษทางน้ำ รวมถึงให้ความเห็นเชิงวิชาการ ในการป้องกัน แก้ไขข้อร้องเรียน และเหตุอื่นๆ ที่เกิดจากการประกอบกิจการพลังงานภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) "กกพ. หวังว่าความร่วมมือดังกล่าว นอกจากจะเป็นการเพิ่มขีดสมรรถนะกระบวนการตรวจติดตามกิจการพลังงาน ยังจะนำไปสู่ความร่วมมือในการวิจัย พัฒนา การสนับสนุนและการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการเพื่อพัฒนากระบวนการทำงานของทั้งสองฝ่ายได้เป็นอย่างดีในอนาคต" เลขาธิการสำนักงาน กกพ. กล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit