บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA โดยนาย ชัยพิพัฒน์ แก้วไตรรัตน์ กรรมการผู้จัดการ รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาสที่ 1/2566 บริษัทฯมีผลขาดทุนสุทธิลดลง 84.59% QoQ หรือ + 48.59 ล้านบาท เหลือเพียง 8.85 ล้านเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1/2565 เท่ากับ 57.44 ล้านบาท และ EBITDA เติบโตกว่า 60.81% มูลค่าเท่ากับ 69.94 ล้านบาท จากเดิม 43.49 ล้านบาท หลังจากบริษัทมีรายได้รวมเท่ากับ 92.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.88 ล้านบาท หรือคิดเป็น 29.25% QoQ โดยไร้ผลขาดทุนของธุรกิจสื่อหลังการจำหน่ายกิจการสื่อนอกบ้านในปี 2565
AQUA เตรียมรับอานิสงส์บวกจากบริษัทย่อยที่ได้เข้าไปลงทุนคือ "บริษัท ไทยพาร์เซิล จำกัด (มหาชน)" หรือ TPL เมื่อปี 2565 ปัจจุบันบริษัทฯถือหุ้น 34.67 % อยู่ระหว่างรออนุมัตินับถอยหลังเข้าตลาดฯปลายมิถุนายน 2566 ซึ่ง TPL ประกอบธุรกิจด้านโลจิสติกส์ (Logistic) หรือการขนส่งสินค้า ส่งตั้งแต่สินค้าขนาดเล็ก-กลาง-ใหญ่ทั่วประเทศไทย หากแต่มีความโดดเด่นด้านการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่และมีรูปแบบพิเศษ หรือ Odd size/Oversize ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. นับถอยหลังเพื่อนับ 1 ไฟลิ่งจะเข้าสู่ตลาดฯเข้าจดทะเบียนในตลาดในเดือนหน้ามิถุนายน 2566 นี้ โดยไตรมาสที่ 1/2566 บริษัท TPL มีรายได้รวมจำนวน 134.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.04 ล้านบาท หรือคิดเป็น 14.52% QoQ ปรากฏเป็นผลกำไรสุทธิ 9.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.71 ล้านบาท หรือ 278.40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
นอกจากนี้เพื่อขยายพอร์ต Logistic ให้มั่นคงและเพิ่มโอกาสเติบโตในอนาคตอย่างต่อเนื่อง บริษัท AQUA ยังได้เข้าถือหุ้นใน "บริษัท เฉลิมภัทร คอร์ปอเรชั่น จำกัด" หรือ CPC สัดส่วน 78.90 % ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมด ซึ่งเป็นธุรกิจ Logistic ที่ต่างกับ TPL คือให้บริการขนส่งคนผ่านบริการรถโดยสารแบบไม่ประจำทาง ปัจจุบัน CPC อยู่ระหว่างการแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor : FA) เพื่อจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดฯ ในปี 2567 เป็นลำดับถัดไป โดยเชื่อมั่นว่าจะมีกำไร EBITDA ขั้นต่ำปีละ 100 ล้านบาท
ด้านธุรกิจ FinTech เชื่อว่าธุรกิจนี้จะสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินให้กับทางบริษัทฯ ได้อย่างแน่นอน โดยบริษัทเริ่มดำเนินธุรกิจ "Stock Lending" แล้วในช่วงต้นไตรมาสที่ 2/2566 เตรียมพร้อมทำแผนการตลาดเพื่อให้ความรู้และสร้างกลุ่มผู้ใช้บริการใหม่ ซึ่งบริษัทคาดว่าพอร์ตสินเชื่อจะเพิ่มขึ้นเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ในส่วนกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ยังคงสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงจากการรับรู้รายได้ให้เช่าและบริการตามสัญญาเช่าระยะยาว โดยที่ EBITDA ในไตรมาส 1/2566 เพิ่มขึ้น +25.99% เท่ากับมูลค่าเพิ่มขึ้น +77.12 ล้านบาท จาก 61.21 ล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากบริษัท Mantra และการต่อสัญญาใหม่ระยะยาวของบริษัท TCDC ซึ่งคาดว่าจะต่อสัญญาเช่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้
ด้านกลุ่มธุรกิจพลังงานบริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EP ที่บริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ 40.15% นั้น ในไตรมาส 1/566 บริษัทฯรับรู้ผลขาดทุนจากการลงทุนมูลค่า 42.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าเนื่องจากผลกระทบขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง ในขณะที่รายได้จากธุรกิจไฟฟ้า เพิ่มขึ้น 17.59 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 84.02 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายได้จากการติดตั้ง Solar rooftop ทั้งนี้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ณ ประเทศเวียดนาม รวม 160 เมกะวัตต์ ได้ดำเนินการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการขอเชื่อมต่อเพื่อดำเนินการจ่ายไฟฟ้ากับทางการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) ทั้งนี้การขายไฟฟ้าจากพลังงานลม 160 MW ซึ่งอยู่ระหว่างสรุปค่าไฟกับรัฐบาลเวียดนาม ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลบวกด้านผลตอบแทนจากเงินลงทุนของ AQUA
โดยรวมผลประกอบการในไตรมาสแรก 2566 AQUA มีผลการดำเนินงาน ที่เพิ่มขึ้น เช่น รายได้เพิ่มขึ้นกว่า 29.25% , EBITDA เพิ่มขึ้น 60.81% และขาดทุนสุทธิลดลง 84.59% ทั้งนี้เพื่อการลงทุนที่แข็งแกร่ง AQUA ยังมุ่งเพื่อกระจายความเสี่ยงในธุรกิจ และพัฒนาแผนงานกลยุทธ์การลงทุน MEGA TREND อย่างต่อเนื่อง
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit