สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ บริษัท ทีทีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จัดงานสถาปนิก'66 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมและผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน ครั้งที่ 35 ดึงผู้ประกอบการไทยและต่างประเทศร่วมงานกว่า 800 บริษัท โชว์ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง นวัตกรรมสุดล้ำ ภายใต้แนวคิด "ตำถาด : Time of Togetherness" พร้อมผสมผสานรสชาติจากสถาปนิกทุกแขนงในการรวมตัวกันครั้งแรกขององค์กรวิชาชีพทั้ง 5 อย่าง สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมมัณฑนากรแห่งประเทศไทย สมาคมภูมิสถาปนิกประเทศไทย สมาคมสถาปนิกผังเมืองไทย และสภาสถาปนิก โดยมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-30 เมษายน 2566 ที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งเป้ามีผู้เข้าร่วมงานตลอด 6 วันกว่า 3.25 แสนคน กระตุ้นตลาดวัสดุก่อสร้าง โต 2.2 หมื่นล้านบาท ย้ำเทรนด์ SDGs ความยั่งยืนมาแรง พร้อมเสวนาหัวข้อ Cultural Sustainability เพื่อสร้างคุณค่าสถาปัตยกรรมไทย
คุณปุยฝ้าย คุณาวัฒน์ ประธานจัดงานสถาปนิก'66 เปิดเผยว่า งานสถาปนิก'66 จะเป็นเวทีสำหรับการนำผู้คนมารวมตัวกันเพื่อพูดคุย ตั้งคำถาม ช่วยกันหาคำตอบ และปรับเปลี่ยนคุณลักษณะหรือวิธีการทำงานเพื่อเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน โดยในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "ตำถาด : Time of Togetherness" เพื่อแสดงแนวความคิดของการผสมผสานกันของวิชาชีพสถาปนิกทุกแขนง รวมถึงเพื่อนๆ ต่างสาขาอาชีพที่ทำงานร่วมกัน และนับเป็นครั้งแรกที่มีประธานจัดงาน 5 ท่านจาก 5 องค์กรวิชาชีพ ได้แก่ สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์, สมาคมมัณฑนากรแห่งประเทศไทย, สมาคมภูมิสถาปนิกประเทศไทย, สมาคมสถาปนิกผังเมืองไทย และสภาสถาปนิก ซึ่งการรวมกันครั้งสำคัญของวิชาชีพทั้ง 4 ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะต่อการออกแบบสิ่งแวดล้อม เพื่อภารกิจสำคัญในการสร้างสังคมและโลกที่ยั่งยืนกว่าเดิม เปรียบเสมือน 'ตำ' ที่เลือกเครื่องปรุง วัตถุดิบ คลุกเคล้าให้รสชาติถูกปากคนทาน ที่ครั้งนี้คนทานคือโลกและสังคมที่ต้องการการเปลี่ยนแปลง ท่ามกลางความท้าทายมากมายของยุคสมัย
สำหรับไฮไลท์ภายในงานครั้งนี้คือ 'Human Library' หรือห้องสมุด "มนุษย์" ที่เรารับรู้เรื่องราวในหนังสือผ่านการฟังและพูดคุยกับนักเขียนตัวจริง พบกับเหล่า "หนังสือมนุษย์" หลากหลายหมวดหมู่ ที่จะมาถ่ายทอดเรื่องราวจากชีวิตจริง ประสบการณ์จริง อาทิ อมตะ หลูไพบูลย์, บูม ธริศร, จูน เซคิโน, ป๋าเต็ด - ยุทธนา บุญอ้อม และอีกมากมายตลอด 6 วัน
และ 'All Member : Design Showcase' นิทรรศการที่จัดแสดงผลงานการออกแบบของเหล่าสถาปนิกและนักออกแบบ ของทั้ง 4 สมาคมวิชาชีพทางด้านสถาปัตยกรรม ประกอบด้วย สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมมัณฑนากรแห่งประเทศไทย สมาคมภูมิสถาปนิกประเทศไทย และสมาคมสถาปนิกผังเมืองไทย
ด้านคุณเมษา นพคุณ กรรมการ (วิชาชีพ) ตัวแทนจากสมาคมมัณฑนากรแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เราได้นำพื้นที่จัดแสดง 'TIDA Salone' Designer Showcase ที่เคยจัดขึ้นภายในงานสถาปนิกเมื่อหลายปีก่อนกลับมาจัดอีกครั้ง โดยเป็นการจับมือระหว่างดีไซเนอร์กับซัพพลายเออร์วัสดุ และผู้รับเหมา ทำห้องต่างๆ ขึ้นมา โดยครั้งนี้จะเป็นการ Collaboration กันระหว่าง Designer ชั้นนำ / BCG Hero Product / Sustainable Material และ Contractor อีกทั้งยังมีการมอบรางวัล TIDA Thesis Awards ประกวดผลงานธีสิสของนิสิตนักศึกษา และแสดงผลงาน TIDA Awards สำหรับมืออาชีพอีกด้วย สำหรับคนทั่วไป TIDA ได้เตรียมกิจกรรม TIDA Talk ให้ผู้ที่สนใจได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานการออกแบบภายใน เรื่องมุมมองหรือวิธีดำเนินการที่น่าสนใจ ในโซน TIDA SOCIETY และยังมีสัมมนาทางวิชาการสำหรับนักออกแบบในทุกประเภทงานอีกด้วย นอกจากนี้ทาง TIDA ยังได้จัดเตรียมพื้นที่พักผ่อนและอาหารว่างไว้บริการ พร้อมโซนจำหน่ายของที่ระลึกสำหรับผู้ที่สนใจ
คุณมังกร ชัยเจริญไมตรี ประธานร่วม จากสมาคมภูมิสถาปนิกประเทศไทย เปิดเผยว่า ภูมิสถาปัตยกรรมเป็นสาขาวิชาของสถาปัตยกรรมศาสตร์ที่ทำงานกับพื้นที่ภายนอกอาคาร นอกเหนือจากการจัดพื้นที่ธรรมชาติรอบๆ อาคารแล้ว ยังมีมิติอื่นที่มีความสำคัญต่อความเป็นอยู่ของทุกคน ภายในพื้นที่จัดแสดงของ TALA เป็นการโชว์เคสที่สำคัญทางด้านวิชาชีพสถาปัตยกรรมของเมืองไทยและภูมิภาค ซึ่งจะทำให้เห็นภาพและเข้าใจงานภูมิสถาปนิกมากยิ่งขึ้น โดยได้เตรียมพื้นที่ 'TALA CLASSROOM' ให้นั่งคุย นั่งเล่น นั่งฟัง ในรูปแบบอารีน่า ที่นำเสนอประเด็นเกี่ยวกับภูมิสถาปนิก เช่น Chef อาหารกับภูมิสถาปนิก, Certified Arborist, ความรู้พื้นฐานและความสำคัญของดินกับงานภูมิทัศน์ โดยจัดในรูปแบบอารีน่าที่คนนั่งอยู่รอบๆ เพื่อให้มีความรู้สึกผ่อนคลาย ไม่เป็นทางการมากนัก นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสนุกๆ เช่น การสนทนาเกษตรกรกับภูมิสถาปนิก, การถ่ายภาพในงานภูมิทัศน์จาก Professional Photographer สำหรับคนทั่วไปที่สนใจอีกด้วย
ผศ.คมกริช ธนะเพทย์ ประธานร่วม จากสมาคมสถาปนิกผังเมืองไทย เปิดเผยว่า พื้นที่การจัดแสดงของ TUDA จะเน้นเรื่องของการพัฒนาเมือง ทั้งในแง่ปัญหาและโอกาสในการแก้ไขพัฒนาให้มีความชัดเจนขึ้น เช่น ปัญหาน้ำ และสิ่งแวดล้อม รวมถึงเรื่องโอกาสการพัฒนาในด้านต่างๆ โดยได้แบ่งพื้นที่เป็น 5 โซน ได้แก่ 1. TUDA ZEB (แซบ) ที่รวบรวมผลงานวิทยานิพนธ์และผลงานออกแบบ รวมถึงการศึกษาวิจัยจากสถาบันการศึกษา 2. TUDA x Muang (เมือง) จัดแสดงผลงานแบบเมืองที่ TUDA ร่วมเป็นเจ้าภาพ เช่น การประกวดเมืองพัทยา 3. TUDA X Mhu (หมู่) หรือ TUDA and Friends จัดแสดงผลงานของบริษัทที่มีความโดดเด่น ด้านการออกแบบและพัฒนาเมือง 4. TUDA Khak (คัก) จัดแสดงผลงานการออกแบบเมืองของสมาชิก TUDA และ 5. TUDA Muan (ม่วน) พื้นที่พักผ่อน พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน
คุณกรกช คุณาลังการ ประธานร่วม จากสภาสถาปนิก เปิดเผยว่า สภาฯ ในฐานะ "ถาด" ที่รวมทุกสาขาเอาไว้ งานสถาปนิกปีนี้ จะเป็นจุดเปลี่ยนของการทำงานตลอดจนกิจกรรมต่างๆ ในงานอีกด้วย มุ่งเน้นการทำงานประสานกันเป็นหนึ่งเดียว สำหรับกิจกรรมที่สภาสถาปนิกเตรียมไว้คือ ASA ACT Forum'23 หรืองานประชุมสัมมนานานาชาติทางสถาปัตยกรรม ในปีนี้พิเศษอย่างยิ่งที่เชิญเหล่านักออกแบบครอบคลุมทั้ง 4 สาขาวิชาชีพสถาปัตยกรรม ทั้งสถาปนิก มัณฑนากร ภูมิสถาปนิก นักออกแบบผังเมือง ที่มีชื่อเสียงระดับโลกทั้งในและต่างประเทศ มาแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ด้านการออกแบบ เพื่อสร้างมุมมองแนวคิดและแนวทางการทำงานร่วมกันกับวิชาชีพอื่นๆ อาทิ Wong Mun Summ จาก WOHA (Singapore), Damian Thompson จาก LatStudios (Australia), Jakob Dunkl จาก querkraft architects (Austria) เป็นต้น
ด้านคุณศุภแมน มรรคา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีทีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในฐานะออแกไนเซอร์จัดงานสถาปนิก'66 เปิดเผยว่า งานสถาปนิก'66 ถือได้ว่าเป็นการกลับมาจัดงานอย่างเต็มรูปแบบเหมือนก่อนช่วงโควิด-19 บนพื้นที่ 75,000 ตารางเมตร โดยได้รวบรวมนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการด้านการออกแบบและก่อสร้างครบวงจร จากภายในประเทศและต่างประเทศไว้กว่า 800 บริษัท โดยมีสัดส่วนผู้แสดงสินค้าจากต่างประเทศมากกว่าการจัดงานปีที่ผ่านมาถึง 7 เท่า หรือคิดเป็น 21.33% อาทิ ออสเตรเลีย จีน ฟินแลนด์ ฮ่องกง อินเดีย อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม อินโดนีเซีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่างานสถาปนิกเป็นเวทีจัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการก่อสร้างที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล
โดยตลอดระยะเวลาการจัดงานทั้ง 6 วันคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานราว 325,000 ราย และสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มวัสดุก่อสร้างได้กว่า 22,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน ซึ่งปัจจัยที่สำคัญคือสถานการณ์โควิด-19 มีทิศทางที่ดีขึ้น ทำให้มีผู้แสดงสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาร่วมงานมากยิ่งขึ้น อีกทั้งทางผู้จัดงานยังมีการทำความร่วมมือกับผู้จัดงานแสดงสินค้าด้านสถาปัตยกรรมและวัสดุก่อสร้างในภูมิภาคเอเชียอย่างประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และไต้หวัน ซึ่งเป็นโอกาสที่จะได้ประชาสัมพันธ์งานไปยังกลุ่มพันธมิตรที่อยู่ต่างประเทศ นอกจากนี้ไฮไลท์และกิจกรรมในส่วนพื้นที่จัดแสดงสินค้าในงานครั้งนี้ถือว่าโดดเด่นไม่แพ้งานปีที่ผ่านมา อาทิ
ทั้งนี้ภายในงานแถลงข่าวจะมีการเสวนาในหัวข้อ Cultural Sustainability การสร้างความยั่งยืนทางวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงงานสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมท้องถิ่นเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มมูลค่าและคุณค่าของผลงาน ผ่านมุมมองของทั้ง 5 องค์กรวิชาชีพ ซึ่งเป็นแนวทางในการพัฒนางานสถาปัตยกรรมไทยให้ก้าวไปอีกระดับด้วย
ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงาน สถาปนิก'66 ได้ระหว่างวันที่ 25-30 เมษายน 2566 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี และสามารถติดตามข่าวสารและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ArchitectExpo.com และ Facebook page : ASA Expo
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit