บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก อุปกรณ์ตกแต่งทรงผม อุปกรณ์เสริมความงาม ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์เครื่องครัว แบรนด์ดัง อาทิ SNAILWHITE, NAMU LIFE, OXE'CURE, SPARKLE, LESASHA, JASON, EMJOI, BEAR และ @HOME พบนักลงทุนในกิจกรรม Opportunity Day เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2565 และพร้อมแผนปี 2566 ตั้งเป้ารายได้โตร้อยละ 20
นางสาวนันทวรรณ สุวรรณเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD กล่าวถึงรายงานผลการดำเนินงานในปี 2565 ว่า "ในปี 2565 บริษัทฯมีรายได้จากการขาย 1,603 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 13.57 สืบเนื่องจากการที่บริษัทฯได้มีการปรับแผนการดำเนินงานหลายด้านเพื่อให้เหมาะสมสอดคล้องกับสภาวะความผันผวนของเศรษฐกิจ โดยเป็นรายได้จากผลิตภัณฑ์บำรุงผิวร้อยละ 50.90 และผลิตภัณฑ์เสริมความงามร้อยละ 49.10 ซึ่งเติบโตทั้ง 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ในอัตราร้อยละ 15.93 และ ร้อยละ 11.22 ตามลำดับ รายได้จากการขายในประเทศยังเป็นสัดส่วนหลักคิดเป็นร้อยละ 65.31 และตลาดต่างประเทศมีการขยายตัวจากปีก่อนร้อยละ 88.69 ตามวิสัยทัศน์ของบริษัทฯที่มุ่งเป็น "บริษัทชั้นนำที่มุ่งดำเนินธุรกิจด้านสุขภาพ ความงาม สุขภาวะและคุณภาพชีวิตที่ดี สอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินชีวิต โดยมีโครงข่ายครอบคลุมทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้"
ในขณะที่ต้นทุนสินค้าและบริการสำหรับปี 2565 มีมูลค่า 557 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 34.72 ของรายได้จากการขาย โดยลดลงร้อยละ 4.90 point เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีต้นทุนสินค้าและบริการ 559 ล้านบาท หรือร้อยละ 39.62 ของรายได้จากการขาย ผลสืบเนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้น การรักษาประสิทธิภาพในการลดต้นทุนการผลิต รวมไปถึงการรับจ้างผลิตสินค้าให้กับบุคคลภายนอก (OEM) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสำหรับปี 2565 มีมูลค่า 896 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 55.92 ของรายได้จากการขาย โดยลดลงร้อยละ 2.35 point เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสเดียวกันในปี 2564 ที่มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 822 ล้านบาท หรือร้อยละ 58.27 ของรายได้จากการขาย โดยสอดคล้องกับแผน Synergy Roadmap ภายในกลุ่มบริษัทเพื่อลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานภายในกลุ่มของบริษัทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือว่าเป็นปีที่บริษัทฯ มีผลประกอบการที่เติบโตจาก Core business และยังมีกระแสเงินสดจากกิจกรรมการดำเนินงานที่กลับมาเป็นบวกด้วย
สำหรับปี 2566 จากการประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2566 มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง นโยบายการเปิดประเทศที่ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาท่องเที่ยวอย่างปกติวิสัย โดยภาคการท่องเที่ยวจะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษกิฐที่สำคัญของประเทศไทยที่จะช่วยเพิ่มการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน รวมไปถึงการเติบโตของภาคการส่งออกที่จะผลักดันเศรษฐกิจไทยปีนี้ให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าตามแผนการดำเนินงาน โดยตั้งเป้าปี 2566 รายได้เติบโตร้อยละ 20 สอดคล้องกับกลยุทธ์ 4 ด้าน ประกอบด้วยกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมสินค้า ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ด้านการขยายธุรกิจ และด้านการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการธุรกิจ โดยกลยุทธดังกล่าวจะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของบริษัทฯ เพื่อไปสู่การเติบโตอย่างยังยืนในระยะยาว
โดยกลยุทธ์ด้านการขยายธุรกิจ ถือเป็นหัวใจหลักที่จะทำให้ DDD Group เติบโตแบบก้าวกระโดด บริษัทฯมีแนวทางการขยายธุรกิจครอบคลุมถึงการเติบโตด้วยทรัพยากรภายใน (Organic Growth) และการเติบโตจากภายนอก (Inorganic Growth) รวมไปถึงการหาพันธมิตรทางธุรกิจ การควบรวมกิจการ การซื้อลิขสิทธิ์แบรนด์สินค้าและเครื่องหมายการค้าเพื่อนำเข้าและจัดจำหน่ายหรือผลิตและจัดจำหน่ายภายในประเทศ (Authorized Distributor) การขายลิขสิทธิ์แบรนด์สินค้าเพื่อผลิตและจัดจำหน่ายในต่างประเทศ (Brand Principal) และรูปแบบการดำเนินธุรกิจในรูปแบบอื่น (New Business Model) ภายใต้การพิจารณาความเสี่ยงและความคุ้มค่าอย่างรอบคอบก่อนการลงทุน
นอกจากนี้ แนวทางการขยายธุรกิจของบริษัทจะครอบคลุมสินค้า 5 กลุ่มหลักได้แก่ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (Skin Care) ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว (Personal Care) ผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์เสริมความงาม (Beauty Equipment) ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ (Sports and Wellness) และ ธุรกิจค้าปลีกและผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องกับไลฟ์สไตล์ (Retail and Lifestyle) โดยอาศัยจุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญและเข้าใจตลาด ซึ่งสอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินชีวิตที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและศักยภาพของตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit