มิตซูบิชิ พาวเวอร์ แบรนด์โซลูชันด้านพลังงานของบริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ จำกัด (MHI) เริ่มเดินเครื่องกังหันก๊าซ M701JAC ตัวแรกของโครงการโรงไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติที่จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา นับเป็นการตอกย้ำถึงความพร้อมของกังหันก๊าซ M701JAC ตัวที่ห้าจากทั้งหมดแปดตัวที่จะส่งมอบให้เป็นส่วนหนึ่งของสัญญาโรงไฟฟ้าพร้อมสรรพเต็มรูปแบบขนาด 5,300 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่ง มิตซูบิชิ พาวเวอร์ ลงนามไว้ในปี 2561
โรงไฟฟ้าที่ระยองอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครทางตะวันออกเฉียงใต้เป็นระยะทางประมาณ 130 กิโลเมตร โดยมีบริษัท กัลฟ์ พีดี จำกัด* เป็นเจ้าของและผู้ดำเนินงาน ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการร่วมทุนระหว่างบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้ผลิตกระแสไฟฟ้าอิสระรายใหญ่ที่สุดของไทย กับบริษัท มิตซุยแอนด์คัมปนี จำกัด ไฟฟ้าที่ผลิตจากโรงไฟฟ้าแห่งนี้จะจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยจะช่วยทำให้การผลิตไฟฟ้าของไทยมีความน่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพสูง
เป้าหมายในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของสัญญาโรงไฟฟ้าพร้อมสรรพที่ลงนามไว้ในปี 2561 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังความร้อนจากกังหันก๊าซสองแห่งในจังหวัดชลบุรีและจังหวัดระยอง โดยโรงไฟฟ้าแต่ละแห่งจะมีกังหันก๊าซ M701JAC จำนวนสี่ตัวที่มีกำลังการผลิต 2,650 เมกะวัตต์ มิตซูบิชิ พาวเวอร์ ได้ส่งมอบกังหันก๊าซแล้วจำนวนห้าตัวในช่วงระยะเวลาการส่งมอบตามสัญญา ซึ่งคาดว่าโรงไฟฟ้าทั้งสองแห่งนี้จะจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ได้ภายในเดือนตุลาคม 2567 โดยกังหันทั้งสี่ตัวของโรงไฟฟ้าที่ชลบุรีเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ในเดือนตุลาคม 2565 ซึ่งมีชั่วโมงการเดินเครื่อง (AOH) มากกว่า 25,000 ชั่วโมง แสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือของกังหันก๊าซ JAC ที่ล้ำสมัย
โครงการทั้งหมดประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมกังหันก๊าซ (GTCC) สองแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งมีระบบขับเคลื่อนสี่ชุด อันประกอบด้วย กังหันก๊าซ กังหันไอน้ำ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าไอน้ำแบบหมุนเวียนความร้อน และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า แม้ว่าจะ
เกิดการหยุดชะงักในช่วงที่มีการก่อสร้างเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โครงการยังคงมีความคืบหน้าตามกำหนดเวลาเดิม ซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ความสามารถ และความพยายามของทีมงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
เพื่อเป็นการฉลองให้กับการประสบความสำเร็จในครั้งนี้ จึงได้มีการจัดพิธีเฉลิมฉลองการเสร็จสิ้นการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเสร็จสิ้นที่จังหวัดระยอง โดยมีนายเรียว ทาคุโบะ ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ เพาเวอร์ (ประเทศไทย), นายบุญชัย ถิราติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และนายจุนตะ ซาซาจิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตรพาวเวอร์ แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทในเครือของมิตซุย ให้เกียรติเข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลองในครั้งนี้ด้วย
โดยบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ได้แสดงความชื่นชมในความสามารถด้านการก่อสร้างและด้านวิศวกรรมของ มิตซูบิชิ พาวเวอร์ ว่า "เราขอขอบคุณ มิตซูบิชิ พาวเวอร์ สำหรับความพยายามอันยิ่งใหญ่ของบริษัทที่ทำให้เราสามารถเริ่มเดินเครื่องกังหันก๊าซตัวแรกของโรงไฟฟ้าที่ระยองตามกำหนดเวลา แม้ว่าจะเกิดสถานการณ์ที่ท้าทายจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ตาม เราตระหนักดีว่าการดำเนินโครงการนี้เป็นงานที่ซับซ้อน แต่เรามั่นใจในความสามารถของทีมงานในการฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ และทำให้โรงไฟฟ้าทั้งหมดเสร็จสิ้นตามกำหนดเวลา เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ร่วมมือกับ มิตซูบิชิ พาวเวอร์ และบริษัทคู่ค้าอื่น ๆ ต่อไปเพื่อให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จ"
นายเรียว ทาคุโบะ ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ เพาเวอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ความสำเร็จในการส่งมอบกังหันก๊าซตัวแรกในช่วงระยะเวลาตามสัญญา เป็นเครื่องยืนยันถึงความเชี่ยวชาญที่มีร่วมกัน ในระหว่างการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่ชลบุรี ตลอดจนความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ในการทำงานร่วมกันระหว่างบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ บริษัท มิตซูบิชิ เพาเวอร์ และทีมงานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในขณะที่เรากำลังดำเนินการก่อสร้างกังหันที่เหลืออยู่ และเราจะยังคงทำงานอย่างใกล้ชิดกับบริษัทคู่ค้าของเราอย่างต่อเนื่องในการช่วยจัดหาพลังงาน ที่มีเสถียรภาพเพื่อคนไทย"
ในอนาคตอันใกล้นี้ มิตซูบิชิ พาวเวอร์ จะยังคงเดินหน้าสร้างโรงไฟฟ้าในระยองอย่างเต็มกำลังความสามารถต่อไป และมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการส่งเสริมการใช้กังหันก๊าซซีรีส์ JAC เพื่อช่วยเพิ่มเสถียรภาพด้านพลังงานที่จำเป็นต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจทั่วโลก และช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการผลิตกระแสไฟฟ้า