ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน พฤศจิกายน 2565 ปรับลดลงเมื่อเทียบกับเดือน ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา จากระดับ 57.15 จุด มาอยู่ที่ระดับ 53.44 ลดลง 3.71 จุด หรือคิดเป็น 6.50% โดยปัจจัยที่ทำให้ดัชนีฯ ปรับลดลงมานั้น มีสาเหตุมาจาก ความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED), อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น, แรงขายเก็งกำไรของกองทุน และเศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณการฟื้นตัว ตามลำดับ
คาดการณ์ความต้องการซื้อทองคำในช่วงเดือน พฤศจิกายน 2565 จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 322 ราย ในจำนวนนี้มี 168 ราย หรือเทียบเป็น 52% จะซื้อทองคำ ส่วนจำนวน 112 ราย หรือเทียบเป็น 35% ไม่แน่ใจว่าจะซื้อทองคำ ในเดือนนี้ หรือไม่ และจำนวน 42 ราย หรือเทียบเป็น 13% ไม่ซื้อทองคำ
สรุปกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ และ ผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 13 ราย ในจำนวนนี้มี 6 ราย หรือเทียบเป็น 46% เชื่อว่าราคาทองคำในเดือน พฤศจิกายน 2565 จะลดลง ส่วนจำนวน 4 ราย หรือเทียบเป็น 31% คาดว่าใกล้เคียงกับราคาทองคำในเดือน ตุลาคม 2565 และ จำนวน 3 ราย หรือเทียบเป็น 23% คาดว่าจะเพิ่มขึ้น
สำหรับการคาดการณ์ราคาทองคำในเดือน พฤศจิกายน 2565 ของผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่มีมุมมอง ดังนี้ Gold Spot ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 1,602 - 1,732 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 29,100 - 30,500 บาทต่อน้ำหนัก 1 บาททองคำ และด้านค่าเงินบาท ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 37.23 - 38.31 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ
การลงทุนทองคำในเดือน พฤศจิกายน 2565 ผู้ค้าทองคำรายใหญ่ให้ความเห็นว่า ราคาทองเคลื่อนไหวในกรอบโดยพยายามทรงตัวรักษาระดับไว้ ในระยะสั้นหากราคาทองสามารถผ่านแนวต้านที่ระดับ 1,735 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ได้ (ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของเดือน กันยายน ที่ผ่านมา) อาจเห็นการฟื้นตัวของราคาทองคำได้อีกครั้ง จึงแนะนำการลงทุนซื้อขายเป็นรอบสั้น ๆ และติดตามข้อมูลข่าวสารการลงทุนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการบริหารพอร์ตการลงทุน เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เงินเฟ้อ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit