เฟดเอ็กซ์ คอร์ปอเรชั่น ZNYSE: FDX) ประกาศ ผลสำรวจจากรายงานประจำปี 2565 เกี่ยวกับผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกของบริษัทในภูมิภาคสำคัญทั่วโลกเพื่อ เป็นการสรุปผลประกอบการ ประจำปีงบประมาณ 2565 โดยการจัดทำรายงานนี้ได้รับการแนะนำจาก ดัน & แบรด สตรีต (NYSE: DNB) บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจชั้นนำของโลกซึ่งเป็นครั้งแรกที่เฟดเอ็กซ์ได้ทำการศึกษา ผลกระทบของบริษัทต่อเศรษฐกิจในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก กว่า 49 ปีที่เฟดเอ็กซ์ได้ขยายการบริการไปยัง กว่า 220 ประเทศ และได้ลงทุนในการสร้างเครือข่ายการขนส่งเพื่อช่วยให้ทุกภาคธุรกิจ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่สามารถเชื่อมต่อกัน เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเติบโตให้เศรษฐกิจโลก
รายงานฉบับนี้ชี้ว่าเฟดเอ็กซ์มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือภาคธุรกิจต่าง ๆ ให้ฟื้นตัวได้จากวิกฤต โรคระบาดที่ผ่านมาด้วยการเอาชนะความท้าทายทางเศรษฐกิจและวิกฤตห่วงโซ่อุปทานครั้งใหญ่ ในปี 2565 นี้ เฟดเอ็กซ์มีพนักงานเกือบ 550,000 คนทั่วโลกที่ทำการขนส่งพัสดุกว่า 16 ล้านชิ้นต่อวัน ผ่านศูนย์กระจายสินค้า 5,000 แห่ง พร้อมความมุ่งมั่นในการขยายเครือข่าย การขนส่งและการลงทุนด้านต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าของเฟดเอ็กซ์ ได้รับบริการที่ดียิ่งขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ด้วยการบริการที่ครอบคลุมทั่วโลก เฟดเอ็กซ์ได้ช่วยให้ลูกค้ารายบุคคล ธุรกิจต่าง ๆ และชุมชนฟื้นตัวจาก วิกฤตโรคระบาด ผ่านการขนส่งสินค้าและมอบบริการที่ช่วยเชื่อมต่อและขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก โดยในรายงาน ฉบับล่าสุดได้แสดงให้เห็นว่าการทำงานในแต่วันของเรามีความสำคัญในการช่วยสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและเล็ก ซึ่งเป็นเสมือนกระดูกสันหลังของชุมชนต่าง ๆ และเราขอเรียกสิ่งนี้ว่า 'FedEx Effect' " นายราจ สุบรามาเนียม ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเฟดเอ็กซ์ คอร์ปอเรชั่น กล่าว
เครื่องบ่งชี้ถึง FedEx Effect
เฟดเอ็กซ์ในฐานะบริษัทขนส่งมีบทบาทสำคัญต่อนวัตกรรมด้านพลังงาน การส่งเสริมการจ้างงาน ในชุมชนต่าง ๆ และช่วยสนับสนุนนผู้คนในท้องถิ่นและชุมชนในระดับภูมิภาคในหลายประเทศทั่วโลก
ผลกระทบต่อภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (AMEA)
บริษัทต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ใน 100 กว่าประเทศและพรมแดนแถบภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง อนุภูมิภาคอินเดีย และแอฟริกาซึ่งมีความเชื่อมโยงถึงกันสูง แสดงให้เห็นถึงบทบาทที่สำคัญและโดดเด่นอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าระดับโลก และเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ข้อมูลจากรายงานพบว่าเฟดเอ็กซ์ได้ลงทุนเชิงกลยุทธ์ซึ่งส่งผลให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นถึง 13% โดยสนับสนุนให้เกิดตำแหน่งงานเพิ่มขึ้นกว่า 58,000 ตำแหน่ง นอกเหนือจากจำนวนของพนักงานเดิม 37,000 คน ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และ แอฟริกา (AMEA)
"ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสานต่อพันธกิจของเราที่เคยให้ไว้ต่อภูมิภาคนี้ เฟดเอ็กซ์จึงได้สนับสนุนเพื่อช่วยเหลือธุรกิจและชุมชนกว่าแสนรายให้รอดพ้นและสามารถฟื้นฟูจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19ได้" กล่าวโดย คาวาล พรีท ประธานภูมิภาค AMEA ของเฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส และเสริมว่า "การลงทุนพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าในโอซาก้า และดูไบ ช่วยให้เราสามารถตอบสนองต่อความต้องการและเพิ่มประสิทธิภาพของเส้นทางการบินสำหรับลูกค้าของเราได้ในช่วงที่สถานการณ์ของห่วงโซ่อุปทานมีความผันผวน นอกจากนี้การลงทุนและการปรับปรุงในสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ เช่น การปรับปรุง Clark Gateway ในประเทศฟิลิปปินส์ รวมถึงการรวมศูนย์กลางของศูนย์กระจายสินค้าที่กรุงเดลี ยังช่วยให้เราสามารถเข้าถึงตลาดเกิดใหม่ได้มากขึ้น ตามมาด้วยประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น"
การดำเนินธุรกิจของเฟดเอ็กซ์ในภูมิภาคนี้ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เฟดเอ็กซ์ยึดมั่นในพันธะสัญญาทางด้านความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการไม่แบ่งแยกในที่ทำงาน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บริษัทได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในบริษัทข้ามชาติที่น่าทำงานด้วยที่สุดในโลก เป็นลำดับที่ 21 โดย Fortune Magazine อีกทั้งได้รับรางวัลหนึ่งในบริษัทที่น่าทำงานด้วยมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟฟริกา (AMEA) ซึ่งรวมถึงประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์และไทย นอกจากนี้ในปี 2021 คาวาล พรีท ได้ลงนามในแถลงการณ์ของประธานบริษัทในวาระการสนับสนุนหลักการเสริมสร้างศักยภาพสตรี จัดทำขึ้นโดยองค์การเพื่อการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศและเพิ่มพลังของผู้หญิงแห่งสหประชาชาติ (UN Women) และเครือข่ายกรอบความร่วมมือการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (UN Global Compact)
สร้างแรงกระเพื่อม
ข้อมูลจากรายงานแสดงให้เห็นว่าในปีงบประมาณ 2022 เฟดเอ็กซ์ได้บริจาคเงินมากกว่า 3 พันล้านบาทให้กับองค์กรการกุศลและองค์กรไม่แสวงหากำไรในท้องถิ่นและชุมชนที่สมาชิกในทีมอาศัยและทำงานอยู่ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงโครงการด้านสิ่งแวดล้อม การศึกษา การสนับสนุนการเป็นผู้ประกอบการสำหรับเยาวชน และโครงการริเริ่มด้านการดูแลสุขภาพเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟฟริกา (AMEA) นอกจากนี้บริษัทยังทำหน้าที่เป็นกำลังสำคัญสำหรับการจัดส่งความช่วยเหลือด้านอาหารให้กับผู้อยู่อาศัยในเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ในช่วงล็อคดาวน์ภายใต้การควบคุมโรคระบาดโควิด-19 และส่งมอบวัคซีนรวมถึงเวชภัณฑ์ที่สำคัญไปยังอินเดีย เกาหลี และเวียดนามเป็นต้น
เฟดเอ็กซ์ มุ่งมั่นที่จะเชื่อมต่อโลกอย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้สำหรับการดำเนินงานที่สร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2040 และเพิ่มการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนในการขับเคลื่อนการดำเนินงานขององค์กร
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit