YOFC เข้าร่วมงานประชุมใยแก้วและเคเบิลนำแสงระดับโลก ประจำปี 2565

15 Nov 2022

ใช้ประโยชน์จากขุมพลังผลิตภัณฑ์และโซลูชันซีรีส์ "ไบรท์ส" คว้าโอกาสการเติบโตใหม่ของเศรษฐกิจดิจิทัล

YOFC เข้าร่วมงานประชุมใยแก้วและเคเบิลนำแสงระดับโลก ประจำปี 2565

บริษัทร่วมหุ้น แยงซี ออปติคัล ไฟเบอร์ แอนด์ เคเบิล จำกัด (Yangtze Optical Fibre and Cable Joint Stock Limited Company) หรือวายโอเอฟซี (YOFC) บริษัทการสื่อสารด้วยระบบนำแสงชั้นนำของโลก ซึ่งเป็นพันธมิตรและผู้สนับสนุนรายใหญ่ของงานประชุมใยแก้วและเคเบิลนำแสงระดับโลก (World Optical fibre & Cable Conference) มาเป็นเวลาหลายปี ได้เข้าร่วมงานประชุมระดับโลกนี้ประจำปี 2565 ซึ่งจัดขึ้นที่มิลานระหว่างวันที่ 7 ถึง 9 พฤศจิกายน 2565 ด้วยการเชิญของผู้จัดงาน กรรมการบริหารและประธานของวายโอเอฟซี คุณจวง ตัน (Zhuang Dan) เข้าร่วมการประชุมโต๊ะกลมซึ่งจัดขึ้นระหว่างงานประชุมนี้ในวันที่ 8 พฤศจิกายน โดยได้อภิปรายเกี่ยวกับสถานภาพปัจจุบันของอุตสาหกรรมเส้นใยและเคเบิลร่วมกับผู้บริหารรายอื่น ๆ จากบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเคเบิลหลายแห่ง รวมถึงพริสเมียน กรุ๊ป (Prysmian Group) จากยุโรป และคอร์นิง อินคอร์ปอเรทเต็ด (Corning Incorporated) จากสหรัฐ นอกจากนี้ รองประธานอาวุโสของวายโอเอฟซี คุณแจน บอนแกร์ตส์ (Jan Bongaerts) ได้กล่าวบรรยายหลักในหัวข้อ 'ใช้ประโยชน์จากขุมพลังไบรท์ส (BRIGHTS) คว้าโอกาสการเติบโตใหม่ของเศรษฐกิจดิจิทัล'

เมื่อทุกหมวดธุรกิจในทุกที่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล และเร่งให้เกิดขึ้นเร็วกว่าเดิมด้วยผลกระทบของวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 เศรษฐกิจดิจิทัลกำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ทำให้โลกดำเนินไปอย่างรวดเร็วขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ การทำงานระยะไกล การเรียนการสอนออนไลน์ และการวินิจฉัยทางการแพทย์ออนไลน์กำลังกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ ด้วยเหตุนี้ การเข้าถึงบรอดแบนด์ความเร็วสูงที่เชื่อถือได้ได้กลายเป็นหนึ่งความจำเป็นของชีวิตประจำวัน ด้วยการพัฒนาจากผู้คนเชื่อมต่อกันสู่สิ่งต่าง ๆ เชื่อมต่อกัน จากข้อมูลมหาศาลสู่ปัญญาประดิษฐ์ และจากการบริโภคสู่การผลิตอัจฉริยะ การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลได้กลายเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของการพัฒนาเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในประเทศสำคัญทั่วโลก ซึ่งกระตุ้นให้รัฐบาลต่าง ๆ พัฒนาสมรรถภาพด้านการเติบโตดิจิทัล ด้วยการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของโครงสร้างพื้นฐานทางสารสนเทศอย่างต่อเนื่อง

จีนมีการใช้งานบรอดแบนด์กิกะบิตเพิ่มขึ้น การขยายตัวอย่างรวดเร็วของการใช้งาน 5G และได้เริ่มโครงการข้อมูลตะวันออกและคอมพิวติงตะวันตก (Eastern Data and Western Computing) ซึ่งมุ่งหมายที่จะเพิ่มศูนย์ข้อมูลในภูมิภาคทางตะวันตกของประเทศซึ่งมีความยากจนทางเศรษฐกิจแต่เต็มไปด้วยพลังงานในปีนี้ ในขณะเดียวกัน หลายประเทศได้เร่งการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน 5G และระบบเครือข่ายความเร็วสูงผ่านใยแก้วนำแสง (FTTx) ด้วยการลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่งผลเป็นความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับใยแก้วนำแสงและเคเบิล โดย CRU บริษัทอังกฤษผู้ให้บริการวิเคราะห์และที่ปรึกษาชั้นนำในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า ความต้องการระดับโลกสำหรับใยแก้วนำแสงและเคเบิลคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากปี 2565 ถึง 2570 คุณจวงยังชี้ว่าจีน ซึ่งขณะนี้มีสัดส่วน 50% ในอุปสงค์ระดับโลก คาดว่าจะมีการเติบโตอย่างมั่นคงในหมวดธุรกิจดังกล่าวนี้ในช่วงหลายปีข้างหน้านี้

หมวดธุรกิจใยแก้วและเคเบิลนำแสงขับเคลื่อนด้วยการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลในระดับโลก โดยขณะนี้กำลังเข้าสู่การเติบโตในขั้นใหม่ ด้วยศักยภาพมหาศาล ใยแก้ว G.654.E ของวายโอเอฟซี ซึ่งเป็นตัวเลือกที่เป็นที่ต้องการสำหรับเทคโนโลยีการส่งผ่านความเร็วสูงพิเศษ ได้มีการนำไปใช้งานอย่างประสบความสำเร็จในสายเคเบิลสายหลักหลายสายของผู้ให้บริการเครือข่ายรายใหญ่ของจีนสามแห่ง และในโครงการระบบส่งไฟฟ้าแรงสูงของการไฟฟ้าแห่งประเทศจีน (State Grid Corporation of China) โดยมีความยาวของส่วนหลักที่ติดตั้งใช้งานรวมกว่า 1 ล้าน fkm อุปสงค์มวลรวมของจีนสำหรับใยแก้ว G.654.E รุ่นใหม่คาดว่าจะมีความยาวถึง 10 ล้าน fkm (ความยาวส่วนหลัก) ภายในปี 2568 อีกทั้งยังมีการคาดการณ์การใช้งานระดับใหญ่ในระดับโลก ขณะที่ผู้ให้บริการเครือข่ายทั่วโลกได้เริ่มพิจารณาการติดตั้งใช้งานใยแก้วในสายนำส่งหลัก

เพื่อใช้ประโยชน์จากโอกาสที่ไม่เคยมีมาก่อนซึ่งทำให้เกิดขึ้นได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลในทั้งหมวดธุรกิจนี้ วายโอเอฟซีได้ออกซีรีส์ "ไบรท์ส" (BRIGHTS) ซีรีส์ผลิตภัณฑ์และโซลูชันใยแก้วและเคเบิลนำแสง ซึ่งมีทั้งแบนด์วิดท์ขนาดใหญ่ ความเชื่อถือได้ ความอัจฉริยะ ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คุณภาพสูง การประหยัดเวลา และความมั่นคงปลอดภัย

แบนด์วิดท์ขนาดใหญ่

ท่ามกลางความซับซ้อนของเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น การพุ่งสูงขึ้นอย่างมหาศาลของปริมาณข้อมูลที่ต้องส่งผ่าน และแรงกดดันต่อแบนด์วิดท์ที่เพิ่มขึ้นขณะที่เราเปลี่ยนผ่านเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลมากขึ้น วายโอเอฟซีได้ออกใยแก้วนำแสงที่ล้ำสมัยหลายรายการ รวมถึงใยแก้วนำแสงสำหรับสายนำส่งหลักอย่าง G.654.E ใยแก้วหลายโหมดแบบแบนด์วิดท์สูง ตลอดจนใยแก้วแบบหลายแกนและแบบแกนกลวง ซึ่งช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแกนหลักของเครือข่ายนำแสง

ความเชื่อถือได้

ด้วยพอร์ตฟอลิโอผลิตภัณฑ์ใยแก้วนำแสงและเคเบิลที่สมบูรณ์ซึ่งสามารถใช้ได้ในโครงข่ายย่อยและโครงข่ายหลัก อีกทั้งยังตอบโจทย์ความต้องการการส่งผ่านด้วยระบบนำแสงในหลายสภาวการณ์การใช้งานจากพื้นดินถึงมหาสมุทร วายโอเอฟซีมุ่งเป้าส่วนของตลาดที่กำลังเติบโต พร้อมทั้งทำให้เกิดการดำเนินงานที่มีเสถียรภาพของเครือข่ายที่ใช้ระบบนำแสงทั้งหมด

อัจฉริยะ

วายโอเอฟซียังได้พัฒนาโซลูชันอัจฉริยะหลายรายการ ที่สามารถยกระดับคุณภาพของการเชื่อมต่อแบบใช้ระบบนำแสงทั้งหมดด้วยการเอื้อให้เกิดการตรวจหาและระบุตำแหน่งความผิดพลาดอย่างรวดเร็ว การติดตามเฝ้าระวังสมรรถนะของทางนำแสงแบบเรียลไทม์ และการพยากรณ์คุณภาพ โซลูชันเหล่านี้ยังมีระบบการติดตามเฝ้าระวังเคเบิลนำแสงอัตโนมัติ ระบบเซนเซอร์วัดอุณหภูมิแบบกระจาย เป็นต้น

เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ใยแก้ว G.654.E ของวายโอเอฟซีลดการใช้พลังงานได้ 20% ที่สถานีรีเลย์ระบบนำแสง และ 50% ที่สถานีรีเลย์ระบบไฟฟ้าในการส่งผ่านสายหลักระยะทางไกล ด้วยการบูรณาการกล่องต่อสายใยแก้วความหนาแน่นสูงพิเศษ เคเบิลนำแสงแบบพร้อมใช้งาน และโมดูลนำแสง โซลูชันศูนย์ข้อมูลของบริษัทปรับปรุงการใช้พื้นที่ของเคเบิลและลดการขัดขวางช่องความร้อนและความเย็น พร้อมทั้งทำให้เกิดแบนด์วิดท์ที่ขยายได้ ช่วยลดการกินพลังงาน

คุณภาพสูง

วายโอเอฟซีดำเนินธุรกิจตามปรัชญาในการแสวงหาความสมบูรณ์แบบ โดยได้ทุ่มเทในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใยแก้วนำแสงและเคเบิลนำแสงที่พิสูจน์ด้วยระยะเวลาแล้วหลากหลายรายการ ด้วยการใช้วัตถุดิบเกรดพรีเมียมและการปรับปรุงประสิทธิภาพกระบวนการผลิตให้เป็นไปอย่างสูงสุด วายโอเอฟซีมีลูกค้าจากกว่า 90 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมในแง่ของโซลูชันคุณภาพสูง

ประหยัดเวลา

เพื่อยกระดับสมรรถนะเมื่อติดตั้งใช้งานเครือข่ายที่ใช้ระบบนำแสงทั้งหมด โดยยึดสภาพแวดล้อมการใช้งานและการวางติดตั้ง วายโอเอฟซีได้ออกแบบและพัฒนาโซลูชันใยแก้วและเคเบิลนำแสงหลายรายการซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของเครือข่ายที่ใช้ระบบนำแสงทั้งหมดในหลากหลายสภาวการณ์อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ รวมถึงเคเบิลแบบแห้งทั้งเส้น (all-dry) แบบคลัสเตอร์ขนาดเล็ก (micro-cluster) แบบเป่าลม (air-blown) และแบบจำนวนเส้นใยสูงพิเศษ (UHFC)

ความมั่นคงปลอดภัย

ในสภาพแวดล้อมที่มีการส่งผ่านข้อมูลความเร็วสูงและการแบ่งปันทรัพยากรแบบเปิด วายโอเอฟซีได้สำรวจศักยภาพของเทคโนโลยีการสื่อสารด้วยระบบนำแสงอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งให้ความมั่นคงปลอดภัยหลายระดับสำหรับปฏิบัติการการดำเนินงานขนาดใหญ่อย่างราบรื่น รวมถึงโครงข่ายไฟฟ้า ท่อส่งน้ำมันและก๊าซ และอุปกรณ์ไฟฟ้า ผ่านผลิตภัณฑ์เซนเซอร์ใยแก้วนำแสง ซึ่งมีความครอบคลุมเป็นวงกว้าง มีความอ่อนไหวสูง และมีความแม่นยำสูง

ในงานประชุมนี้ คุณจวงยังได้เข้าร่วมกับผู้บริหารจากพริสเมียน กรุ๊ป และคอร์นิง ในการอภิปรายเชิงลึกเกี่ยวกับสถานภาพปัจจุบันและแนวโน้มต่าง ๆ ตลอดจนโอกาสและความท้าทายของภาคใยแก้วและเคเบิลนำแสงระดับโลก คุณจวงเปิดเผยว่า แม้ภาคดังกล่าวนี้จะมีพื้นฐานเชิงบวก แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนและความท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นความตึงเครียดทางการเมืองในบางภูมิภาค อุปทานวัตถุดิบที่จำกัด สมรรถนะการคมนาคมที่ไม่เพียงพอ และต้นทุนการขนส่งที่สูง เพราะฉะนั้นผู้เล่นในอุตสาหกรรมจึงต้องยกระดับความร่วมมือเพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนของอุตสาหกรรมนี้

ที่ผ่านมา วายโอเอฟซีมุ่งขยายการเชื่อมต่อใยแก้วนำแสงไปสู่ทุกมุมโลก ประกอบกับการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ด้วยการยึดมั่นในภารกิจเช่นนี้ บริษัทแห่งนี้ ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมอิสระ มีแผนจะเน้นย้ำและพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชันใหม่ ๆ ที่ขับเคลื่อนการเติบโตของหมวดธุรกิจนี้ พร้อมทั้งยกระดับเครือข่ายการตลาดระหว่างประเทศของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น ขณะที่ทำงานร่วมกับคู่ค้าเพื่อร่วมกันใช้ประโยชน์จากโอกาสที่นำเสนอโดยโลกดิจิทัลที่มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1945890/2.jpg

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit