กลุ่มปฏิญญา Clean Creatives หรือกลุ่มผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมธุรกิจโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ ที่มุ่งสื่อสารเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศอย่างตรงไปตรงมา ได้ประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้ถึงการรณรงค์เพื่อระดมความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญด้านการประชาสัมพันธ์และการโฆษณาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกให้มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ เป้าหมายของแคมเปญ คือ การส่งเสริมให้เอเจนซี่และผู้เชี่ยวชาญ 500 รายในภูมิภาคเอเชียเข้าร่วมลงนามในปฏิญญา Clean Creatives โดยปฏิญญาฉบับนี้เป็นการให้สัญญาร่วมกันระหว่างเอเจนซี่และผู้เชี่ยวชาญด้านการประชาสัมพันธ์และการโฆษณา เพื่อปฏิเสธการเซ็นสัญญาร่วมงานกับบริษัทในอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลในอนาคต
Clean Creatives เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ก่อตั้งโดยนายดันแคน ไมเซล กรรมการบริหารกลุ่มปฏิญญา Clean Creatives ในปี 2562 ซึ่งเป็นขบวนการเคลื่อนไหวที่มีจุดประสงค์เพื่อกดดันให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ เปิดเผยความสัมพันธ์ในการทำงานระหว่างเอเจนซี่ด้านการประชาสัมพันธ์ และการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ
เพื่อสนับสนุนให้เอเจนซี่ต่าง ๆ ลงนามปฏิญญาฉบับดังกล่าวมากขึ้น กลุ่มปฏิญญา Clean Creatives จึงได้จัดการเผยแพร่ผ่านทางสมาคมประชาสัมพันธ์และการสื่อสาร ซึ่งเป็นองค์กรที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมธุรกิจการประชาสัมพันธ์และการสื่อสาร
โดยในวันที่ 27 กันยายน 2565 นี้ เวลา 10.00 น. ตามเวลาสิงคโปร์ สมาคมประชาสัมพันธ์และการสื่อสารจะเป็นเจ้าภาพจัดอภิปรายในหัวข้อ "Should PR cancel or counsel?" เพื่อร่วมหารือกันในประเด็นที่ว่า ควรทำแคมเปญด้านการประชาสัมพันธ์ให้กับแบรนด์เชื้อเพลิงฟอสซิลในอนาคตต่อไปหรือไม่
การอภิปรายในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อริเริ่มหารือถึงการทำงานให้กับแบรนด์ธุรกิจเชื้อเพลิงฟอสซิล พร้อมทั้งเสนอแนวทางที่อุตสาหกรรมธุรกิจการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารจะสามารถเปลี่ยนแปลงเพื่อกระตุ้นให้เกิดอุตสาหกรรมพลังงานที่สะอาดขึ้น ผู้ที่สนใจสามารถรับฟังการอภิปรายทางออนไลน์โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้ ที่นี่
นอกจากนี้ การอภิปรายยังมีเป้าหมายเพื่อสร้างความตระหนักในหมู่ผู้ที่ทำงานในเอเจนซี่ต่าง ๆ นักวิชาการ นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนลูกค้าที่มีอำนาจตัดสินใจ ซึ่งมีความมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน โดยนายไมเซลตั้งเป้าเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมธุรกิจประชาสัมพันธ์และการสื่อสารในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกให้ได้อย่างน้อย 1,000 คนภายในปี 2565 ผ่านการประชุม การจัดแคมเปญผ่านสื่อ การตลาดทางตรง และการบรรยายในห้องเรียนโดยมุ่งเน้นอุตสาหกรรมการสื่อสารในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหลัก
นายไมเซล กล่าวว่า "แบรนด์ธุรกิจจำนวนมากตั้งเป้าที่จะลดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ แต่บริษัทที่ปรึกษาด้านการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารจำนวนมากของแบรนด์เหล่านี้ยังคงทำงานร่วมกับแบรนด์เชื้อเพลิงฟอสซิล เป้าหมายของเราคือ การทำให้ผู้มีอำนาจตัดสินใจทางธุรกิจตระหนักถึงความขัดแย้งนี้ และส่งเสริมให้เอเจนซี่ในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลกลงนามปฏิญญา Clean Creatives" นายไมเซลกล่าวเพิ่มเติมว่า "สิ่งที่เราคาดหวัง คือ แบรนด์ต่าง ๆ ที่มีเป้าหมายพัฒนาด้านความยั่งยืนจะเข้ามามีส่วนร่วมและเรียกร้องให้เอเจนซี่ต่าง ๆ ยุติการทำงานร่วมกับบริษัทเชื้อเพลิงฟอสซิล"
วีโร่ บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร การประชาสัมพันธ์ และการตลาดดิจิทัลที่ได้รับรางวัลเอเจนซี่ด้านประชาสัมพันธ์แห่งปี มีทีมงานที่ปรึกษาด้านการประชาสัมพันธ์ บริการด้านงานสร้างสรรค์ การตลาดดิจิทัล และการตลาดอินฟลูเอนเซอร์ กว่า 200 คน ในอินโดนีเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม นอกจากนี้ วีโร่ยังเป็นบริษัทที่ปรึกษาบริษัทแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ลงนามปฏิญญา Clean Creatives ปฏิเสธการร่วมงานกับบริษัทเชื้อเพลิงฟอสซิล
ทั้งนี้ วีโร่ได้ลงนามปฏิญญา Clean Creatives ในเดือนมกราคม 2565 หลังจากวิเคราะห์บัญชีรายชื่อลูกค้าอย่างละเอียด โดยมองว่าการลงนามในครั้งนี้เป็นความพยายามก้าวแรกของบริษัทที่ปรึกษาอย่างวีโร่ในการพัฒนาด้านความยั่งยืน
นายราฟาเอล แลชเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการประจำภูมิภาคอาเซียนของวีโร่ กล่าวว่า "เรายังทำอะไรได้อีกมากมายเพื่อปรับปรุงผลกระทบที่บริษัทฯ ของเรามีต่อสิ่งแวดล้อม โดยเราจะทบทวนนโยบายที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานในประเทศต่าง ๆ ของวีโร่เพื่อพิจารณาว่า จะสามารถลดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ภายในบริษัทฯ และมีส่วนทำให้เกิดความยั่งยืนได้อย่างไรบ้าง" นายแลชเกอร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "อย่างไรก็ตาม การลงนามปฏิญญา Clean Creatives นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญสำหรับเราในการประกาศให้ทราบว่า เราจะไม่ใช้ทักษะและความสามารถของเราในการช่วยสร้างแคมเปญด้านการประชาสัมพันธสำหรับอุตสาหกรรมที่เราเชื่อว่ากำลังทำให้อนาคตของโลกมีความเสี่ยง"
ปัจจุบันบริษัทโฆษณากว่า 700 คน และเอเจนซี่อีกกว่า 350 แห่งทั่วโลกได้ลงนามปฏิญญา Clean Creatives เพื่อปฏิเสธการเซ็นสัญญาร่วมงานกับอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลหรือเอเจนซี่ที่ยังคงดูแลลูกค้าซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มดังกล่าวอยู่
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit