"เอคอมเมิร์ซ อินโดนีเซีย" ในเครือ บมจ.เอคอมเมิร์ซ กรุ๊ป ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ "Beko" บริษัท
ผู้จำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่จากประเทศตุรกี เพื่อสนับสนุนการขยายตลาดและเพิ่มยอดขายสินค้าบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำในอินโดนีเซีย ผ่านการบริหารจัดการร้านค้าออนไลน์เพื่อรับแนวโน้มการเจริญเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศอินโดนีเซีย คาดว่ามูลค่ารวมของตลาดอีคอมเมิร์ซในอินโดนีเซียจะเพิ่มขึ้นจากไม่ต่ำกว่า 8,000 ล้านดอลาร์สหรัฐในปัจจุบัน และจะเพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 40,000 ล้านดอลาร์สหรัฐภายในปี 2568 กลายเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
Mr. Antonious Adang ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอคอมเมิร์ซ อินโดนีเซีย ในเครือบริษัท เอคอมเมิร์ซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการสนับสนุนธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce Enabler) ครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า เอคอมเมิร์ซ อินโดนีเซียได้มีการร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Beko (บีโค) ผู้จำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่จากประเทศตุรกี เพื่อขยายตลาดและเพิ่มยอดขายออนไลน์ในอินโดนีเซีย โดยการสร้างสรรค์และจัดการร้านค้าออนไลน์ในตลาดชั้นนำของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งความร่วมมือกันครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับ Beko ในการจำหน่ายสินค้าทั้งในกลุ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน โดยเอคอมเมิร์ซ อินโดนีเซีย ได้รับมอบหมายให้ดูแลร้านค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำในประเทศอินโดนีเซีย ได้แก่ Tokopedia, Shopee, Lazada และ BliBli
ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว เอคอมเมิร์ซ มีหน้าที่รับผิดชอบการจัดตั้งร้านอีคอมเมิร์ซของ Beko บนแพลตฟอร์มตลาดออนไลน์ในอินโดนีเซีย พร้อมทั้งให้บริการดำเนินงานร้านค้าและบริหารคลังสินค้า โดยเอคอมเมิร์ซจะทำการบริหารจัดการร้านค้าให้แก่ Beko ตั้งแต่การดำเนินการอัปโหลดเนื้อหาในหน้าสินค้า โดยใช้ความเชี่ยวชาญในการตั้งค่า Back-end (ระบบจัดการเบื้องหลัง) ของศูนย์ผู้ขายสินค้า และทดสอบผลการตลาดโดยประสานงานกับหน่วยจัดเก็บสต๊อก จัดการสินค้าคงคลัง สร้างออเดอร์ ตลอดจนติดตามสถานะออเดอร์ต่างๆ
ทั้งนี้ ก่อนที่จะเปิดตัวร้าน Beko บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในประเทศอินโดนีเซีย ทีมงานของเอคอมเมิร์ซจะจำลองสถานการณ์จริงและทดสอบกระบวนการอีคอมเมิร์ซแบบครบวงจรทั้งหมด เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าลูกค้าและ แบรนด์สินค้าจะได้รับประสบการณ์ซื้อขายที่ดี นอกจากนี้การดูแลระบบของเอคอมเมิร์ซนั้นจะมีการผสาน API (Application Programing Interfaces) หรือช่องทางการเชื่อมต่อระหว่างศูนย์ผู้ขายสินค้าและแผนกบริหารจัดการระบบเบื้องหลัง
"จากความต้องการด้านอีคอมเมิร์ซในอินโดนีเซียที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เอคอมเมิร์ซจึงมุ่งมั่นให้บริการสนับสนุนธุรกิจอีคอมเมิร์ซอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ และยินดีที่ Beko ไว้วางใจและเชื่อมั่นในความรู้และทักษะการให้บริการของเรา" Mr. Antonious Adang กล่าว
Mr. Ali Cagri Gonculer ผู้จัดการประจำประเทศอินโดนีเซีย PT Beko Appliances กล่าวว่า ร้านค้าออนไลน์ของ Beko นำเสนอผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ที่หลากหลาย รวมถึงยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ อาทิ เครื่องใช้ในครัวเรือน, ผลิตภัณฑ์ทำความร้อนและความเย็น, อุปกรณ์สุขอนามัย และบัตรของขวัญ โดยภายใต้ความร่วมมือกันครั้งนี้ Beko มอบหมายให้
เอคอมเมิร์ซเป็นผู้ให้คำแนะนำด้วยการใช้ข้อมูลการตลาด มาวิเคราะห์แนวทางที่ช่วยเพิ่มศักยภาพการขายของร้านค้าได้อย่างสูงสุด โดยเฉพาะการใช้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อช่วยให้แบรนด์สามารถจัดการร้านค้าได้ดียิ่งขึ้น ตั้งแต่การเก็บสต๊อก (SKU) การสร้างดีลพิเศษเพื่อขายสินค้าเป็นเซ็ต การอัปโหลด การจัดหมวดหมู่เนื้อหาสินค้า การจัดการข้อมูลทางการตลาดในแบนเนอร์ และการสร้างชุดสินค้าเสมือนจริง
"คาดการณ์ว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ประเทศอินโดนีเซียจะเป็นตลาดการค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยการศึกษาของ McKinsey บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลกพบว่า มีประชาชนในอินโดนีเซียกว่า 30 ล้านคนที่มีความเชี่ยวชาญการทำธุรกรรมออนไลน์ ขณะที่ตลาดการค้าออนไลน์ในปัจจุบัน มีมูลค่าอย่างน้อย 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจากการศึกษาคาดว่าและจะเพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2568 ดังนั้นการสร้างความแข็งแกร่งและการศึกษาตลาดอีคอมเมิร์ซในอินโดนีเซียจึงมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ โดย Beko เชื่อว่า เอคอมเมิร์ซ มีความสามารถที่จะช่วยพัฒนาการให้บริการ และการดำเนินงานในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลักของอินโดนีเซียได้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพผ่านช่องทางออนไลน์เราได้อย่างง่ายดาย" Mr. Ali Cagri Gonculer กล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit