บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์ อมาโด้ (amado) ผู้เชี่ยวชาญด้านวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชั้นนำ เปิดตัวผลิตภัณฑ์คอลลาเจนสูตรใหม่ "อมาโด้ โกลด์ คอลลาเจน พลัส เซราไมด์" (Amado Gold Collagen Plus Ceramide) ปูทางส่งท้ายปลายปี คาดหวังดันยอดปีหน้า 3,000 ล้านบาท
นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า "จากยอดขายปี 2564 ที่ผ่านมานั้น อมาโด้อาศัยสถิติจากการบริหาร Data ของบริษัท และมองว่าการเติบโตของธุรกิจอาหารเสริมและวิตามินยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกันกับเทรนด์ของตลาดคอลลาเจนที่ยังคงมาแรง ถึงแม้ว่าจะมีผู้ผลิตหน้าใหม่ลงมาแข่งขันกันอย่างคึกคัก แต่ด้วยความแข็งแกร่งของแบรนด์อมาโด้และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้อมาโด้สามารถรักษาฐานลูกค้าเดิมและยังคงสร้างลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้ บริษัทฯ ได้แบ่งสินค้ากลุ่มคอลลาเจน เป็น 2 กลุ่มคือ เพื่อความสวยงาม และเพื่อสุขภาพ ซึ่งมีการแยกกันอย่างชัดเจน จึงมีแนวคิดพัฒนาคอลลาเจนสูตรใหม่ โดยล่าสุดบริษัทฯ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ "อมาโด้ โกลด์ คอลลาเจน พลัส เซราไมด์" (Amado Gold Collagen Plus Ceramide) คอลลาเจนพรีเมี่ยมในรูปแบบผสมสานการทำงานร่วมกัน ระหว่างคอลลาเจน 3 ชนิด ได้แก่ Collagen Tripeptide, Collagen Dipeptide และ Type II Collagen เพื่อให้เกิดการดูแลทั้งสุขภาพและความงามได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยส่วนประกอบที่สำคัญของผลิตภัณฑ์ "อมาโด้ โกลด์ คอลลาเจน พลัส เซราไมด์" เป็นคอลลาเจนนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีอนุภาพขนาดเล็กมากกว่าคอลลาเจนทั่วไป จึงทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้เป็นอย่างดี ช่วยซ่อมแซมและเติมเต็มคอลลาเจนในผิวหนังและข้อต่อได้ดี มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิวได้ดี อีกทั้งช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ ไฟโบรบลาสต์ และกรดไฮยาลูโรนิคที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว กระตุ้นการทำงานของเซลล์ข้อต่อและกระดูก อีกทั้งมีส่วนผสมจาก Pearl Tomato คือมะเขือเทศสีขาว สายพันธุ์นำเข้าจาก USA เป็นมะเขือเทศสายพันธุ์พิเศษที่มีลักษณะเป็นสีขาว (Colorless) มีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่ามะเขือเทศสีแดง จัดว่าเป็น colorless carotenoids ที่ช่วยดูดซับรังสี UVA/UVB และรังสีอินฟาเรดได้ดีกว่า Lycopene จึงสามารลดการคล้ำเสียของผิวที่เกิดจากการไหม้แดด สารสกัด Ceramide จากข้าว วัตถุดิบนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ช่วยให้ผิวแช็งแรง กักเก็บน้ำใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวชุ่มชื้น และแลดูกระจ่างใส เสริมด้วย Vitamin C ที่ช่วยปกป้องเซลล์จากสารอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจน และเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึงคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายได้ดียิ่งขึ้น"
อมาโด้มุ่งมั่นพัฒนาสินค้า วางแผนสู่ตลาดสากล
นายธนาตรัยฉัตร กล่าวเสริมว่า "ผลิตภัณฑ์ "อมาโด้ โกลด์ คอลลาเจน พลัส เซราไมด์" แตกต่างจากคอลลาเจนที่อมาโด้เคยผลิตมาทั้งหมด เนื่องจากผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ล่าสุดนี้เรารวมทุกสูตรไว้เป็นหนึ่งเดียว โดยบริษัทฯ ยังคงยึดหลักธรรมาภิบาลในการขายสินค้าที่ดี ในราคาที่จับต้องได้ และสินค้าที่ดี คือสินค้าที่มีราคายุติธรรม คุณภาพและมาตรฐานเชื่อถือได้ โดยผ่านการผลิตจากโรงงานที่มีคุณภาพ ได้รับการรับรองมาตรฐาน การผลิต สินค้ามีคุณภาพสูง ทานแล้วเห็นผล ส่งผลให้ผู้บริโภคเกิดการซื้อซ้ำและจงรักภักดีในตราสินค้า ด้วยจุดแข็งการบริหารขององค์กร อมาโด้มีหัวใจที่สำคัญคือ R&D และนวัตกรรมการผลิต โดยทีมงานที่มีประสบการณ์ มานานกว่า 20 ปี จึงมีความเข้มงวดในเรื่องของการผลิต ซึ่งต้องมีผลการทดสอบก่อนว่าลูกค้ากลุ่มตัวอย่างมีระดับความพึงพอใจ 95% ซึ่งปัจจุบันต่อให้มีผู้ผลิตหน้าใหม่มาลงแข่งขันในตลาดคอลลาเจน แต่ยังไม่มีเจ้าไหนสามารถพัฒนานวัตกรรมอย่างของเราได้ ด้วยจุดเด่นของอมาโด้คอลลาเจน คือ ชงแล้วใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ชงง่าย ละลายเร็ว และไม่มีน้ำตาล
นอกจากส่วนผสมนำเข้าที่มีคุณภาพสูงแล้ว เรายังคงให้ความสำคัญกับโรงงานที่บรรจุสินค้า ซึ่งเป็นโรงงานที่มีทีมนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญ แพทย์ เภสัชกร ทีมนักวิชาการด้านเครื่องสำอางและอาหารเสริม ซึ่งมีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี พร้อมทั้ง ห้องปฏิบัติการ (Laboratory) กระบวนการควบคุมคุณภาพที่เคร่งครัด โดยรักษามาตรฐานของสถานที่ผลิต ด้วยขั้นตอนควบคุมความสะอาดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ห้องปลอดเชื้อที่ออกแบบมาเพื่อลดการปนเปื้อนในอากาศ จุดชำระล้างทำความสะอาด รวมไปถึงตู้เป่าลมสะอาด (Air Shower) ที่มาพร้อมกับตัวกรองอากาศประสิทธิภาพสูง (HEPA) เพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากสิ่งสกปรกภายนอกก่อนเข้าไลน์ผลิตสินค้า ทำให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นผลิตและบรรจุด้วยเครื่องมือ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย การผลิตได้รับมาตรฐานสากล อาทิ เช่น มาตรฐาน GMP ISO HACCP HALAL ฯลฯ ดังนั้นเราจึงมั่นใจได้ว่าคุณภาพของสินค้าทุกชิ้นที่ลูกค้าของเราจะได้รับผ่านกระบวนการควบคุมคุณภาพ และคุณภาพมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
เมื่อปีที่ผ่านมา 2564 อมาโด้สามารถทำยอดขายได้ทั้งสิ้น 2,400 ล้านบาท โดยอาศัยการทำการตลาดผ่านสื่อทางโทรทัศน์ ออนไลน์ ร้านค้าอมาโด้ และสื่อนอกบ้าน (Out of Home) เป็นต้น และยังมีการส่งเสริมการตลาด (โปรโมชัน) เพื่อกระตุ้นยอดขายเพื่อเป็นเครื่องมือและกลยุทธ์สำหรับตัวแทนฯ แต่สำหรับในปีนี้ 2565 เราเพิ่มช่องทางการขายรับสมัครสมาชิกผ่านอมาโด้การ์ด สำหรับลูกค้าประจำที่สามารถซื้อสินค้าของอมาโด้ในราคาที่ย่อมเยา อีกทั้งสามารถสร้างรายได้เสริม ซึ่งได้รับผลการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค
เราคาดว่าในช่วงไตรมาสที่ 4 นี้บริษัทฯ จะมียอดขายสูงสุด และในปีหน้าบริษัท ฯ วางเป้ารายได้จากการจำหน่ายสินค้าทั้งหมดที่ 3,000 ล้านบาท โดนมีแผนพัฒนาสินค้าเพื่อสุขภาพตัวใหม่ ๆ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ทุกเพศ ทุกวัย เพื่อพร้อมให้บริการผู้บริโภคได้อย่างสมบูรณ์แบบ" นายธนาตรัยฉัตร กล่าวปิดท้าย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit