บทวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) หรือ "Pi" "พาย" มองว่า ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปรับขึ้น 0.33% ได้แรงหนุนจากกลุ่ม Bank หลังจากรายงานผลประกอบการแข็งแกร่งกว่าตลาดคาดหมาย ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปรับเพิ่มขึ้น 1.5% หนุนจากอุปสงค์ในจีนฟื้นตัวหลังเปิดประเทศ
สัปดาห์นี้ตลาดจะเริ่มไปให้น้ำหนักกับผลประกอบการ 4Q22 Bloomberg ประเมินว่าสัปดาห์นี้จะมีกลุ่ม ธนาคารพาณิชย์ทั้งหมดและ KTC เบื้องต้นเราได้คาดการณ์กำไรกลุ่ม Bank ภายใต้ Coverage เราประกอบไปด้วย (BBL KBANK KKP KTB SCB TISCO TTB) ที่ 4.2 หมื่นล้านบาท (+19.5%YoY -4%QoQ) การเติบโต YoY ได้แรงหนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่สูงขึ้นตามส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) และการสำรองหนี้ที่ลดลง ส่วนการลดลง QoQ เป็นเพราะค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นจากปัจจัยฤดูกาล พร้อมประเมินแนวโน้มทั้งปี 2023 กำไรกลุ่มจะทำจุดสูงสุดใหม่โดยคาดที่ 1.98 แสนล้านบาท โดยจุดสูงสุดก่อนหน้าทำไว้ที่ 1.85 แสนล้านบาทในปี 2014) หนุนจากการเติบโตของสินเชื่ออย่างมั่นคง รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ และส่วนต่างดอกเบี้ยที่สูงขึ้น พร้อมเลือก BBL , TISCO เป็น Top Pick กลุ่ม ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ได้แก่ (1) ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯในวันพุธที่จะประกาศในช่วง 20.30 ตามเวลาประเทศไทย Bloomberg ประเมินที่ -0.5%MoM ตัวเลขที่ต่ำกว่าตลาดประเมินไว้จะเป็นบวกมากกว่า (2) ในวันเดียวกันจะมีการประกาศเงินเฟ้อฝั่งผู้ผลิต (PPI) Bloomberg คาดไว้ที่ -0.1%MoM หากต่ำกว่าตลาดคาดหมายไว้ก็จะเป็นบวกกับตลาดหุ้นเช่นเดียวกัน (3) วันพฤหัสบดีราว 20.30 จะมีการรายงานยอดสร้างบ้านใหม่ที่ 1.36 ล้านหลังคาเรือน และ ใบขออนุญาตก่อสร้างที่ 1.37 ล้านใบอนุญาต เชื่อว่าตัวเลขที่ต่ำกว่าคาดการณ์จะเป็นบวกมากกว่า โดยที่เรายังคงมุมมองเช่นเดิมว่าตลาดหุ้นจะเริ่มมี Upside ที่จำกัดหลังปรับขึ้นตอบรับข่าวดีไปหมดแล้วและ Valuation ก็เริ่มแพง ขณะที่การประกาศผลประกอบการหากเป็นไปตามตลาดประเมินไว้ก็เสี่ยงที่จะเผชิญแรง Sell on fact แต่หากดีกว่าคาดก็เชื่อว่า Upside ต่อราคามิได้เยอะมากจากการปรับขึ้นมาก่อนหน้าแล้ว ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์การลงทุนยังเน้นเพียงแค่ Trading พร้อมกับเลือกหุ้นที่ Valuation ไม่แพงจนเกินไป อาทิ ธนาคาร (BBL KBANK SCB TTB) สื่อสาร (ADVANC INTUCH) ค้าปลีก (BJC HMPRO) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) โรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC GULF RATCH) น้ำมัน (PTTEP) ประเมินกรอบ SET INDEX ทั้งสัปดาห์ที่ 1660 - 1700
BBL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 171.00 บาท) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/22 ที่ 8.4 พันล้านบาท โต 34% YoY (+10% QoQ) ด้วยแรงหนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (non-NII) ที่สูงขึ้น และการตั้งสำรองหนี้ฯ ที่ลดลง ขณะที่คาดอัตราส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) จะโต 2.6% ทั้ง YoY และ QoQ จากผลตอบแทนสินเชื่อที่สูงขึ้นจากการขึ้นดอกเบี้ย ด้านอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (CIR) จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ เป็น 56.9% (ไตรมาส 3/22: 46.3%) จากค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน (OPEX) ที่สูงตามปัจจัยฤดูกาล
ADVANC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 236.00 บาท) คาดกำไรปกติจะฟื้นตัว 10%YoY ในปี 2023 หนุนจากรายได้ที่โตแซงค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ทั้งนี้ การเติบโตของรายได้ ADVANC มีค่าสหสัมพันธ์เชิงบวกกับ GDP ไทย (ค่าสัมพันธ์ 10 ปีที่ 78%) คาดรายได้ของ ADVANC จะโต 6.1% ในปี 2023
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit