บมจ. กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) สุดเฮง! บริษัทย่อย "กันกุล พาวเวอร์ ดีเวลลอปเม้นท์" หรือ "GPD" คว้า 2 โครงการใหม่ จากทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มูลค่ารวม 1,903.53 ลบ. มั่นใจศักยภาพทีมงานมีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ ส่งมอบงานได้ตามกำหนดด้านบิ๊กบอส "ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย" ส่งสัญญาณไตรมาสสุดท้ายปีนี้ภาพรวมธุรกิจและผลการดำเนินงานยังสดใส รับอานิสงส์ธุรกิจพลังงาน-ก่อสร้างหนุน พร้อมเตรียมเดินหน้าประมูลโครงการพลังงานทดแทน เพื่อเป้าหมายต่อยอดธุรกิจและผลประกอบการอนาคตโตต่อเนื่อง ส่วนผลงานปีนี้ยังมั่นใจรายได้เติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า15%
ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) เปิดเผยว่า บริษัท กันกุล พาวเวอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด หรือ GPD บริษัทย่อยของ GUNKUL ได้ดำเนินการลงนามสัญญาการให้บริการก่อสร้างในรูปแบบ Turnkey และ EPC จำนวน 2 สัญญา ได้แก่ 1.โครงการจ้างเหมาปรับปรุงประสิทธิภาพระบบควบคุมและป้องกันสถานีไฟฟ้า ระยะที่ 1 ตามงบประมาณลงทุนประจำปี 2565 รายการที่ 2 (กลุ่มที่ 2) จำนวน 3 สถานีไฟฟ้า (สถานีไฟฟ้าคลองหลวง, สถานีไฟฟ้าดอนพุด และสถานีไฟฟ้าปทุมธานี 3) สัญญาเลขที่ PAT-SCPS01-B/2022 มูลค่าโครงการ 80,250,000 บาท ระยะเวลาการดำเนินโครงการ 365 วัน ซึ่งเป็นงานจาก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)
และ 2.โครงการจ้างสำรวจออกแบบและก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนพื้นดินและติดตั้งระบบส่งไฟฟ้า 22 เควี ถึงโรงปูน ขนาด 61.226 เมกกะวัตต์ พีค / 52.20 เมกกะวัตต์ เอซี สัญญาเลขที่ GPD_CT_65-037 มูลค่าโครงการ 1,823,280,000 บาท ระยะเวลาการดำเนินโครงการ 570 วัน ซึ่งเป็นงานจากบริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) รวมมูลค่างาน 2 สัญญา เป็นเงินทั้งสิ้น 1,903,530,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
โดยบริษัทฯ มีความยินดีและมีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งที่ได้ลงนามให้บริการงานทั้ง 2 โครงการ ซึ่งจากการที่บริษัทฯมีประสบการณ์อันยาวนานในธุรกิจพลังงาน มีทีมงานพัฒนาธุรกิจและทีมงานก่อสร้างที่มีประสบการณ์ สามารถรองรับงานโครงการขนาดใหญ่ได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้เชื่อมั่นว่าจะสามารถส่งมอบงานได้ตามกำหนดที่วางไว้ และจากการรับงานในครั้งนี้ จะต่อยอดฐานรายได้ให้มีความแข็งแกร่ง และเป็นปัจจัยหนุนให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เติบโตอย่างมีศักยภาพ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวต่อถึงแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 4/2565 ของบริษัทฯ เชื่อว่าจะยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่องเนื่องจากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน, ธุรกิจงานรับเหมาก่อสร้างและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) ที่ยังเป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่งทำให้มั่นใจว่าจะช่วยผลักดันให้รายได้ปีนี้เติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 15%
ทั้งนี้ ภายในปี 2566 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตไปแตะระดับ 1,000 เมกะวัตต์ และมีแผนเข้าร่วมประมูลโครงการพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่องทั้งโครงการโซลาร์ฟาร์ม และพลังงานลม โดยบริษัทฯ มีความพร้อมด้านการเงิน และสัดส่วนหนี้สินต่อทุนที่สามารถลงทุนได้อีกกว่า 40,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี ด้านธุรกิจ EPC มีแผนเตรียมเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่ๆ ที่จะเปิดให้ประมูลกว่า 50,000 ล้านบาท
"จากปัจจัยบวกต่าง ๆ ทำให้เชื่อว่าภาพรวมธุรกิจและผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ในช่วงที่เหลือของปีนี้จะยังคงสดใส ถือเป็นสัญญาณดีต่อภาพรวมธุรกิจ ที่ช่วยสนับสนุนให้รายได้ และกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งนับต่อจากนี้กลุ่มบริษัทฯ จะมุ่งเน้นไปในการขับเคลื่อนธุรกิจที่สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน การบริหารเงินทุนหมุนเวียนที่แข็งแกร่ง รวมถึงพัฒนานวัตกรรมธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยวางนโยบายในกลุ่มธุรกิจแต่ละกลุ่มของบริษัทฯ ให้เติบโตไปพร้อมๆ กับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อการเติบโตที่แข็งแกร่ง และก้าวสู่เป้าหมายให้เร็วยิ่งขึ้น" ดร.สมบูรณ์กล่าวในที่สุด
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit