บริษัทเร่งแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมผ่านรูปแบบธุรกิจและเทคโนโลยีที่เน้นคุณค่าความยืนยาวของอายุผลิตภัณฑ์
noco-noco Pte. Ltd. ("noco-noco") ผู้ให้บริการโซลูชันลดการปล่อยคาร์บอนในสิงคโปร์ ประกาศชื่อบริษัทใหม่ในวันนี้ ชื่อ noco-noco เป็นการเล่นคำโดยมีความหมายว่า "ไร้คาร์บอน" (no CO2) ซึ่งยืนยันถึงความมุ่งมั่นของบริษัทที่มีต่อนโยบาย "ไร้คาร์บอน" อย่างแท้จริง ก่อนหน้านี้รู้จักกันในชื่อ 3DOM Singapore ซึ่งเป็นบริษัทในเครือภายใต้บริษัทแม่ 3DOM Alliance Inc. ("3DOM Alliance") ของญี่ปุ่น การรีแบรนด์ใหม่เป็น noco-noco นับเป็นการเข้าสู่ยุคที่บริษัทหันมานำเสนอโซลูชันที่ครอบคลุมในการจัดการกับการลดการปล่อยคาร์บอนและปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม คุณ Masataka Matsumura ซีอีโอของ noco-noco และประธานของ 3DOM Alliance ได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมของ noco-noco ด้วยการเพิ่มผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ บุคลากรด้านไอที และวิศวกรจากญี่ปุ่นอีก 55 คน เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้า สโลแกนใหม่ของบริษัท "มุ่งสู่อนาคตที่ปราศจากคาร์บอนด้วยปัญญาและหัวใจ" แสดงให้เห็นว่า พวกเขาอยู่ในระดับแนวหน้าของเทคโนโลยีและผลักดันการเคลื่อนไหวไปสู่การลดการปล่อนคาร์บอนอย่างแท้จริง
นิยามใหม่ของแบตเตอรี่ในฐานะโครงสร้างพื้นฐานทางสังคม
3DOM Alliance ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ noco-noco เป็นผู้นำในการพัฒนาแบตเตอรี่ที่ทันสมัย ด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในด้านนี้จึงเล็งเห็นความจำเป็นในการเปลี่ยนสถานะของแบตเตอรี่ในสังคม ดังนั้น noco-noco จึงนิยามแบตเตอรี่ใหม่ว่าเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ให้ประโยชน์สูงสุดต่อข้อมูลและพลังงาน ไม่ใช่เป็นแค่อุปกรณ์จัดเก็บสำหรับการใช้ไฟฟ้า แบตเตอรี่รุ่นต่อไปของ noco-noco มีสมอง (ความฉลาด) และจะทำหน้าที่เป็นสิ่งเชื่อมโยงอุปกรณ์ทั้งหลายผ่านอินเทอร์เน็ต หรือไอโอที (IoT) โดยที่ไม่ได้ "ถูกเป็นเจ้าของ" แต่ "ถูกใช้" ในการใช้งานรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งเก็บรวบรวมข้อมูล เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และทำงานเป็นโครงสร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของสังคมโดยรวม
คุณ Matsumura แสดงความคิดเห็นว่า "หากเราสร้างแพลตฟอร์ม IoT เราจะสามารถเพิ่มอัตราการใช้ประโยชน์ของทุก ๆ 'สิ่ง' และกำหนดจำนวนขั้นต่ำของอุปกรณ์ที่จำเป็น เราเชื่อว่าสามารถลดการปล่อยคาร์บอนผ่านการใช้พลังงานไฟฟ้าและการเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของสังคมโดยใช้ IoT แม้ IoT จะทำให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น แต่เราต้องไม่ลืมว่าอุปกรณ์ IoT ที่มากขึ้นหมายถึงการใช้งานคลาวด์ที่มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม เรามีเอกลักษณ์เฉพาะด้วยการเปลี่ยนแบตเตอรี่ซึ่งจะเป็นแกนหลักของยุค IoT ให้เป็นโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการใช้งาน IoT ด้วยอุปกรณ์ที่น้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ และมีอัตราการใช้งานสูงสุด โดยไม่ต้องพึ่งพาระบบคลาวด์" ด้วยวิธีนี้ noco-noco เป็นบริษัท IoT ที่สัญญาว่าจะเปลี่ยนวิธีลดการปล่อยคาร์บอนไปอย่างสิ้นเชิง
กลไกใหม่ในการกระตุ้นการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีอายุการใช้งานยาวนานจะสร้างรายได้มากขึ้น
"ตั้งแต่การปฏิวัติอุตสาหกรรม ระบบเศรษฐกิจของการผลิตและการบริโภคที่มากเกินไปโดยไม่คำนึงถึงการปล่อยคาร์บอนอย่างเพียงพอ ถือเป็นต้นตอของปัญหาสิ่งแวดล้อม เราไม่สามารถมองข้ามนโยบายพลังงานได้ และสังคมต้องเรียกร้องความรับผิดชอบที่มากขึ้นจากกลุ่มธุรกิจ ให้หลีกเลี่ยงการผลิตผลิตภัณฑ์อายุสั้นเพื่อลดการปล่อยคาร์บอน" คุณ Matsumura กล่าว "เรายังมีโอกาสป้องกันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ไม่เหมือนเดิมได้ เราต้องสนับสนุนค่านิยมชุดใหม่ที่ให้ความสำคัญกับอายุของผลิตภัณฑ์ที่ยาวนาน และสร้างห่วงโซ่อุปทานใหม่"
noco-noco เสนอรูปแบบธุรกิจใหม่ "การแบ่งปันข้อมูลและผลกำไร" (Data & Profit Sharing) หรือ "ดีพีเอส" (DPS) ซึ่งเปลี่ยนจากการขายผลิตภัณฑ์อายุสั้นจำนวนมาก และหันไปเน้นบริการการยืดอายุผลิตภัณฑ์ให้แก่ผู้ใช้แทน โดยมีการแบ่งปันข้อมูลและผลกำไรระหว่างบริษัทที่มีส่วนในการยืดอายุผลิตภัณฑ์ รูปแบบธุรกิจนี้ไม่เพียงสร้างห่วงโซ่อุปทานแบบแบนราบและเปิดกว้าง แต่ยังมีศักยภาพในการจุดประกายความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เมื่อมีการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานและการวิจัยและพัฒนา
แนะนำโซลูชันลดการปล่อยคาร์บอนต่อเนื่องที่นำไปใช้ได้จริง ก่อนที่เวลาของโลกเราจะหมดลง
noco-noco ได้คิดค้นแพลตฟอร์มตามรูปแบบธุรกิจดีพีเอส ที่เชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์และการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีอายุการใช้งานยาวนาน บริษัทวางแผนที่จะนำแนวคิดนี้ไปใช้จริงผ่านโครงการต่าง ๆ ในประเทศไทยและฟิลิปปินส์ โดยเริ่มในเดือนธันวาคม 2565 และมกราคม 2566 ตามลำดับ noco-noco จะนำเสนออุปกรณ์ IoT ที่ปฏิวัติวงการซึ่งช่วยให้มนุษย์และอุปกรณ์สื่อสารกัน "ได้อย่างอิสระ" ที่งาน CES (Consumer Electronics Show) 2023 ในเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ที่ลาสเวกัส noco-noco จะนำเสนอวิสัยทัศน์ในอุดมคติสำหรับโลก โดยมีแนวคิดที่ชัดเจนสำหรับการเรียกคืนจากคลาวด์และการทำให้ข้อมูลเป็นประชาธิปไตย (การเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลของแต่ละบุคคล) เพื่อแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งทุกอย่างตั้งแต่บ้านไปจนถึงเมืองถูกสร้างขึ้นให้มีความ "อัจฉริยะ"
ในการปรับใช้แพลตฟอร์มดังกล่าว noco-noco จะนำเสนอสามโซลูชันที่เกี่ยวพันกันอย่างใกล้ชิด ได้แก่
noco-noco จะนำเสนอเทคโนโลยีตัวแยกส่วนที่ปฏิวัติวงการ ซึ่งเป็นผลมาจากการทุ่มเททำงานถึงแปดปีของ 3DOM Alliance ให้แก่คู่ค้าต่าง ๆ รวมถึงผู้ผลิตแบตเตอรี่และอุปกรณ์เคลื่อนที่ผ่านโมเดลธุรกิจดีพีเอส noco-noco จะซื้อแบตเตอรี่และรถยนต์ไฟฟ้าจากคู่ค้าเหล่านั้น และปรับใช้บริการเพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอนอย่างต่อเนื่องสำหรับการใช้งานแบตเตอรี่ครั้งแรกและครั้งที่สอง จากนั้นแบ่งปันข้อมูลที่รวบรวมผ่านอุปกรณ์ IoT ที่เชื่อมต่อกับคู่ค้า X-SEPA เพื่อปรับปรุงคุณภาพและอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้ดียิ่งขึ้น
ในการนี้ noco-noco จะเปลี่ยนไปใช้โมเดลหมุนเวียนทรัพยากร ซึ่งแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานยาวนานจะถูกนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และผลกำไรจะถูกแบ่งปันตลอดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ทั้งนี้จึงเป็นการเปลี่ยนจากการผลิตจำนวนมากและการบริโภคจำนวนมาก "เราเชื่อว่าโซลูชันลดการปล่อยคาร์บอนต่อเนื่องโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแก่ผู้ใช้ สามารถสร้างชีวิตใหม่ให้กับความพยายามในการลดคาร์บอนที่เป็นไปอย่างช้า ๆ เราตั้งเป้าที่จะรวบรวมพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์เดียวกันและทำงานอย่างรวดเร็วเพื่อเปลี่ยนโฉมห่วงโซ่อุปทาน และพัฒนาโซลูชันลดการปล่อยคาร์บอนที่สามารถให้บริการได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้" คุณ Matsumura ให้ความเห็น
ติดตามและติดต่อเรา
ดูข้อมูลอัปเดตล่าสุดได้ที่เว็บไซต์ noco-noco.com และ www.linkedin.com/company/noco-noco หรืออีเมลหาเราที่ [email protected]
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit