บมจ.ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TEGH) ส่งซิกผลงานปีนี้สดใส เนื่องจากปริมาณขายยางธรรมชาติเพิ่มขึ้น ธุรกิจน้ำมันปาล์มดิบกลับมาเดินเครื่องผลิต หลังปรับปรุงประสิทธิภาพ ขณะที่ธุรกิจพลังงานทดแทนและบริหารจัดการกากอินทรีย์สัญญาณดี ฟากเอ็มดี "สินีนุช โกกนุทาภรณ์" ระบุพร้อมเดินหน้าอัพกำลังการผลิตยางแท่งปีนี้แตะระดับ 328,000 ตัน/ปี จาก 240,000 ตัน/ปี มั่นใจสนับสนุนรายได้ปี 65 เติบโตเข้าเป้า 30%
นนางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEGH เปิดเผยว่า คาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการปีนี้จะเติบโตจากช่วงปีก่อน เนื่องจากปริมาณขายยางธรรมชาติเพิ่มขึ้น ส่วนธุรกิจน้ำมันปาล์มดิบ กลับมาดำเนินการผลิตเป็นปกติแล้ว หลังจากปิดซ่อมเมื่อไตรมาสก่อน ขณะที่ธุรกิจพลังงานทดแทนและการบริหารจัดการกากอินทรีย์ มีการเติบโตได้เป็นอย่างดี
"บริษัทฯ มั่นใจว่ารายได้ในปีนี้น่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% จากปีก่อนที่มีรายได้ 11,087.76 ล้านบาท โดย 9 เดือนแรกปีนี้บริษัทฯ มีรายได้แล้ว 11,807.97 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 45.73% จากช่วงปีก่อน ซึ่งในปีนี้บริษัทฯ มีการขยายกำลังการผลิตยางแท่งมาอยู่ประมาณ 328,000 ตัน ซึ่งเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ไปแล้ว และจะขยายเป็น 416,000 ตันในปีหน้า เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตยางแท่ง Top 5 ของประเทศ"
สำหรับธุรกิจน้ำมันปาล์มดิบ ได้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ซึ่งจะทำให้สามารถขยายกำลังการผลิตได้อีก 42% และธุรกิจพลังงานทดแทนและการบริหารจัดการกากอินทรีย์ บริษัทฯ วางแผนเพิ่มกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพ จาก 23 ล้านลูกบาศก์เมตร ในปี 2565 เป็น 67 ล้านลูกบาศก์เมตร ในปี 2568 หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 191% และเพิ่มกำลังการผลิตบ่อหมักกากอินทรีย์ประเภทของแข็ง (SOW) เพื่อรองรับเสียที่ได้จากการผลิตยางแท่ง
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการ อยู่ที่ 11,807.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.73% จากช่วงปีก่อนที่มีรายได้ 8,102.63 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 521.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.10% จากช่วงปีก่อนที่ทำได้ 410.08 ล้านบาท ซึ่งผลประกอบการที่เติบโตมาจากรายได้จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติเป็นหลัก