NT เดินเกมรุกตลาด BIG DATA ครบวงจร เปิดบริการ NT BIG DATA ตอบโจทย์ Pain Point ภาครัฐ-เอกชน ในการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล ชูจุดแข็งด้วยบริการด้านบิ๊กดาต้าแบบ One - Stop Service ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การเตรียมความพร้อมให้กับข้อมูล การนำข้อมูลไปวิเคราะห์ รวมถึงซอฟแวร์หรือแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่เป็นเครื่องมือในการช่วยวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อนำมาวิเคราะห์หาอินไซด์ เทรนด์และแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการดำเนินงานมากยิ่งขึ้น ตอกย้ำความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน และผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมข้อมูลและความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์
ดร.วงกต วิจักขณ์สังสิทธิ์ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เผยว่า ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคแห่งการขับเคลื่อนโลกด้วยดิจิทัล พัฒนาการของเทคโลยีดิจิทัลก่อให้เกิดการเชื่อมต่อกันอย่างกว้างขวาง ส่งผลให้เกิดข้อมูลจำนวนมหาศาลในทุกวินาทีจากทั่วโลกจำนวนมาก BIG DATA จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการจัดเก็บข้อมูลในยุคดิจิทัล โดยการจัดเก็บข้อมูลหลากหลายรูปแบบทั้งแบบมีโครงสร้างและแบบไม่มีโครงสร้าง เช่น ข้อมูลในรูปแบบตัวหนังสือ รูปภาพ และคลิปวิดีโอ ซึ่งเกินกว่าระบบฐานข้อมูลเดิมๆ จะสามารถจัดการได้ การที่ข้อมูลมีขนาดใหญ่มาก มีความซับซ้อน จึงจำเป็นต้องอาศัยคลาวด์คอมพิวติ้ง เพื่อช่วยวิเคราะห์ประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งข้อมูลเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ในการทำธุรกิจมาก หน่วยงานไหนที่มีการเก็บข้อมูล สามารถนำข้อมูลนั้นเพื่อมาหาอินไซด์ หรือนำมาวิเคราะห์ความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งช่วยในการคาดคะเนเทรนด์ต่างๆ ในอนาคตได้ หรือจะใช้วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเข้าใจถึงปัญหาเพื่อนำไปแก้ไขได้ตรงจุด ซึ่งหน่วยงานสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ประโยชน์ได้ง่ายและรวดเร็ว ช่วยให้การดำเนินงานหรือการดำเนินธุรกิจมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
"เดิม NT ให้บริการด้านโทรคมนาคมเป็นหลักไม่ว่าจะเป็นการบริการด้านท่อร้อยสาย, เคเบิลใต้น้ำ, วงจรสื่อสารข้อมูล, NT Broadband, ดาวเทียม, โทรศัพท์ประจำที่และโทรศัพท์ระหว่างประเทศ, my by NT และ NT Mobile รวมถึงบริการด้านดิจิทัล โดยตอนนี้เน้นการให้บริการด้านดิจิทัลมากขึ้น ทั้งการบริหารจัดการด้านข้อมูลแบบครบวงจร การให้บริการแอปพลิเคชั่นและโซลูชั่น บริการดาต้าเซ็นเตอร์ บริการคลาวด์ บริการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ให้บริการทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงให้บริการกับประชาชนทั่วไป โดยที่ผ่านมาหน่วยงานหรือบริษัทต่างๆ มักไม่ค่อยประสบความสำเร็จในการทำ Big Data มากนัก เนื่องจากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นการขาดเครื่องมือและโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น ขาดการบริหารและการจัดการข้อมูลที่เหมาะสม ขาดบุคลากรที่มีความรู้และประสบการณ์ด้านบิ๊กดาต้า " ดร.วงกต กล่าวเสริม
บริการ NT Big Data สามารถช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ได้ ด้วยบริการ NT BIG DATA แบบ One - Stop Service ในการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนเพื่อพยากรณ์แนวโน้มต่าง ๆ จนได้ผลลัพธ์ที่นำมาใช้ประโยชน์ขององค์กรหรือหน่วยงานทางธุรกิจ โดยทาง NT ให้บริการตั้งแต่การวางแผน นำเข้า จัดเก็บ ปรับปรุง และวิเคราะห์ข้อมูลโดยผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูล ได้แก่
นอกจากนี้ผู้ใช้งานข้อมูลภายในองค์กรยังสามารถทำงานร่วมกันได้สะดวกและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นด้วย Access Control ประกอบกับการทำ Data Masking ที่จะช่วยตอบโจทย์การทำงานให้สอดคล้องกับกฏหมาย PDPA อีกด้วยBig Data Platform มีหลากหลายตัวเลือกซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้ได้ตามแพคเกจที่เหมาะสมกับองค์กร
อีกทั้ง NT ยังมีศูนย์บริการ Data Center ที่มีสาขาครอบคลุมมากที่สุดในประเทศไทย 13 แห่ง เชื่อมต่อกับ Internet Getaway ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ มั่นใจในการให้บริการและความปลอดภัยสูงที่สุดระดับสากล
ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับข้อมูลโดยอาศัยการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล หรือ Big Data Analytic เพื่อนำมาขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศให้ก้าวไกลและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการประชาชน การเชื่อมโยงข้อมูลเหล่านี้มาใช้งานจะช่วยให้เกิดประโยชน์ทั่งในแง่ของการอธิบายปัญหา หรือ ปรากฏการณ์ "Descriptive Analytics"ไปจนถึงการใช้ข้อมูลเพื่อการพยากรหรือทำนายสิ่งจะเกิดขึ้น Predictive Analytics เช่น การทำนายโอกาสเกิดน้ำท่วม จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย ในแต่ละเดือน หรือใช้ข้อมูลวิเคราะห์ หรือคาดการผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต Prescriptive Analysis เช่น การพิจารณาเพื่อหานโยบายที่เหมาะในการช่วยกระจายรายได้ต่อผู้มีรายได้น้อย เป็นต้น
ทั้งนี้การนำระบบ Big data มาใช้กับภาครัฐ เพื่อปรับเปลี่ยนสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล นอกจากประโยชน์ด้านการนำข้อมูลมาวิเคราะห์ในเชิงลึกแล้ว ยังจะช่วยเชื่อมโยงการทำงานให้เป็นหนึ่งเดียว เกิดความโปร่งใส และเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลภาครัฐได้สะดวกและง่ายดายมากขึ้น ตัวอย่างเช่น การบริการข้อมูลสภาพภูมิอากาศที่ถูกต้องและแม่นยำจากกรมอุตุนิยมวิทยาจะช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถวางแผนป้องกันเพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยทางรัฐบาลมีนโยบายชัดเจนที่จะนำข้อมูลขนาดใหญ่ หรือที่เรียกว่า Big data มาใช้ในการวิเคราะห์ ประเมินผล เพื่อนำมาแก้ไขปัญหา กำหนดนโยบายตลอดจนขับเคลื่อนยุทธศาสตร์บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงและข้อมูล เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศอย่างเติบโตและยั่งยืน
วันนี้โลกได้ปรับเปลี่ยนสู่การขับเคลื่อนด้วยข้อมูลถึงเวลาแล้วต้องเร่งนำข้อมูลดิจิทัลมาเป็นเครื่องมือในการบริหารงานไม่ว่าจะเป็นทั้งภาครัฐ และ ภาคเอกชน ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนไทยทุกคนและนำความมั่นคงมั่งคั่งและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับประเทศชาติต่อไป ดร.วงกต กล่าวทิ้งท้าย.
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit