เนื่องจากในเดือนมิถุนายน มีวันสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม คือวันสิ่งแวดล้อมโลก (World Environment Day) 5 มิถุนายน ครอบครัวโสสะของเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มจากกิจกรรมที่ครอบครัวโสสะทำร่วมกันเป็นประจำ คือการปลูกผักผลไม้ ฝึกฝนให้เด็กๆ รู้จักพึ่งพาตนเองแบบพอเพียงอย่างยั่งยืน และยังเป็นส่วนเล็กๆ ที่สำคัญในการเพิ่มพื้นที่สีเขียว เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น
ด้วยวิกฤติด้านสิ่งแวดล้อมที่เด่นชัดมากขึ้นทุกวัน รวมทั้งสถานการณ์โควิดที่สะท้อนให้เห็นว่าการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืนเป็นสิ่งสำคัญ และจากกระแสโลกส่อขาดแคลนอาหาร มูลนิธิเด็กโสสะฯ ตระหนักและเห็นความสำคัญถึงการปลูกฝังให้เด็กๆ เห็นความสำคัญของเรื่องเหล่านี้ แต่การสื่อสารเพียงอย่างเดียวอาจยังไม่เพียงพอเท่ากับการลงมือทำจริง จึงส่งเสริมสนับสนุนให้ครอบครัวโสสะ เด็กๆ และเยาวชนทำแปลงปลูกพืชผักสวนครัว ผลไม้ ทำโรงเรือนเพาะเห็ด ปลูกต้นไม้ ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้เรื่องการพึ่งพาตนเอง เห็นคุณค่าของอาหาร และเด็กๆ จะได้เติบโตไปพร้อมกับต้นไม้และความเข้าใจเรื่องสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน
เริ่มจากจุดเล็กๆ สู่ความยั่งยืนเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องอาศัยหลายภาคส่วน หลายปัจจัยสนับสนุนในการจะเปลี่ยนแปลง แต่เราเริ่มได้จากสังคมที่ใกล้มากที่สุด คือในครอบครัว สำหรับครอบครัวโสสะ เราปลูกต้นไม้ทั้งเล็กใหญ่ในหมู่บ้านเด็กโสสะ สร้างความร่มรื่นดีต่อสุขภาพจิต และยังเป็นการช่วยลดโลกร้อนได้อีกทางหนึ่ง อีกอย่างที่เราเริ่มจากครอบครัวโสสะคือ การปลูกพืชผักสวนครัว ผลไม้ท้องถิ่นไว้บริโภคกันเอง กิน อยู่ อย่างรู้ค่าการดูแลคุณภาพความเป็นอยู่ของลูกโสสะที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือโภชนาการที่เหมาะสม ดังนั้นการปลูกพืชผักไว้บริโภคเองทำให้มั่นใจเรื่องความปลอดภัยจากสารพิษ และด็กๆ ยังได้เรียนรู้วิธีการการปลูกพืชผักแต่ละชนิด อย่างผักบุ้ง , ผักกาดหอม , ถั่วงอก , ใบกะเพรา , เห็ด ได้เห็นการเจริญเติบโตและการดูแลของผักแต่ละชนิดที่ต่างกัน ทำให้ได้เรียนรู้ถึงที่มาและเห็นคุณค่าของอาหารแต่ละจาน ส่งผลให้อาหารแต่ละมื้อไม่ใช้แค่ทำให้อิ่มท้อง แต่คือคุณค่าความภูมิใจที่เกิดจากการปลูกเองจนเห็นผลผลิตนำมาสู่การดำรงชีวิต
ลูกโสสะพอเพียงตามรอยพ่อ
ด้วยสถานการณ์โควิด ครอบครัวโสสะย่อมได้รับผลกระทบ จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต และต้องใช้จ่ายอย่างประหยัดเท่าที่จะสามารถทำได้ การปลูกผักสวนครัวในรั้วหมู่บ้านเด็กโสสะเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้อีกทาง และถ้ารับประทานเพียงพอแล้วส่วนที่เหลือก็จะนำไปจำหน่ายให้กับชุมชนใกล้หมู่บ้านในราคาย่อมเยา ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดเด็กๆ ได้เรียนรู้การมีวิถีชีวิตพอเพียง และการทำเกษตรพอเพียง ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9
นอกจากการช่วยเหลือเด็กที่ขาดพ่อแม่และญาติมิตร ด้วยการมอบครอบครัวทดแทนถาวรระยะยาว มูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ยังมุ่งเน้นสนับสนุนสร้างทั้งทักษะความรู้ คุณธรรม เพื่อเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิต มีเป้าหมายให้เด็กๆ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ รู้จักรักษ์โลกและสิ่งแวดล้อมผ่านการใช้ชีวิต เพื่ออนาคตเด็กๆ และเยาวชนจะสามารถออกไปพึ่งพาตนเองได้ในสังคมแบบพอเพียงอย่างยั่งยืน เห็นคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ร่วมสนับสนุน เด็กๆ ทุกคนให้เติบโตด้วยความรัก อย่างพึ่งพาตนเองได้อีกครั้ง
https://www.sosthailand.org/donate
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit