สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12
จังหวัดสงขลา เตือนระวังเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ป่วยโรคมือ เท้า ปาก โดยเฉพาะใน
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงเรียน เป็นสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก ซึ่งง่ายต่อการแพร่กระจาย
เชื้อโรคผ่าน
สิ่งของเครื่องใช้และ
ของเล่นได้ จึงขอให้สถานศึกษาคัดกรองและสังเกตอาการของเด็กก่อนเข้าเรียน เพื่อเฝ้าระวังการป่วยด้วยโรคมือ เท้า ปากนายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา กล่าวถึงสถานการณ์โรคมือ เท้า ปาก (Hand Foot Mouth) ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ว่า จากระบบรายงานการเฝ้าระวังโรค 506 กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 20 มิถุนายน 2565 พบผู้ป่วยโรคมือ เท้า ปาก จำนวนทั้งสิ้น 411 ราย ไม่มีรายงานผู้ป่วยเสียชีวิต พบผู้ป่วยเพศชายมากกว่าเพศหญิง โดยพบเพศชาย 207 ราย เพศหญิง 204 ราย กลุ่มอายุที่พบสูงสุดคือกลุ่มอายุ 0 - 4 ปี จำนวน 373 ราย รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 5 - 9 ปี จำนวน 35 ราย และ กลุ่มอายุ 35 - 44 ปี จำนวน 1 ราย อาชีพที่พบผู้ป่วยสูงสุดคือ เด็กในปกครอง ร้อยละ 91.48 รองลงมาคือ อาชีพนักเรียน ร้อยละ 7.79 และอาชีพเกษตร ร้อยละ 0.73 โดยพบผู้ป่วยในจังหวัดนราธิวาส จำนวน 145 ราย, จังหวัดยะลา จำนวน 121 ราย, จังหวัดสงขลา จำนวน 60 ราย, จังหวัดปัตตานี จำนวน 57 ราย, จังหวัดพัทลุง จำนวน 10 ราย, จังหวัดตรัง จำนวน 9 ราย และจังหวัดสตูล จำนวน 9 ราย สำหรับ โรคมือ เท้า ปาก พบบ่อยในทารกและเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ซึ่งมีภูมิคุ้มกันต่ำ ทั้งนี้ เกิดจากการได้รับเชื้อไวรัสเข้าไปทางปากโดยตรง จากการติดมากับมือหรือของเล่นที่เปื้อนน้ำลาย น้ำมูก น้ำจากตุ่มพองและแผล หรืออุจจาระของผู้ป่วย หรือติดต่อจากการไอ จาม รดกัน หากผู้ป่วยได้รับเชื้อจะมีอาการเล็กน้อย เช่น มี ไข้ต่ำ ๆ อ่อนเพลีย ต่อมา 1-2 วัน มีอาการเจ็บปาก ร่วมกับมีตุ่มพองเล็ก ๆ บริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า ตุ่มแผลในปาก ที่เพดานอ่อน กระพุ้งแก้ม ลิ้น และจะแตกออกเป็นแผลหลุมตื้น ๆ หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีไข้ขึ้นสูง ซึมลง เดินเซ ชัก เกร็ง หายใจหอบเหนื่อย อาเจียนมาก ต้องรีบไปพบแพทย์ทันทีเพราะอาจติดเชื้อโรคมือ เท้า ปาก ชนิดรุนแรง อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
การป้องกันโรคมือ เท้า ปาก มีดังนี้ 1.โรงเรียนหรือสถานศึกษา ควรมีการคัดกรองเด็กทุกเช้าก่อนเข้าเรียน สอนให้เด็กล้างมือเป็นประจำ หากพบเด็กป่วยให้แยกออกมา แจ้งผู้ปกครองให้มารับกลับและพักรักษาจนกว่าจะหายเป็นปกติ 2.หมั่นดูแลรักษาความสะอาดของสถานที่และอุปกรณ์เครื่องใช้ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคอย่างสม่ำเสมอ เช่น ภาชนะใส่อาหาร ห้องน้ำ ห้องส้วม ของเล่นต่างๆ 3.ผู้ปกครองหมั่นสังเกตอาการบุตรหลานอย่างใกล้ชิด และหลีกเลี่ยงการนำเด็กเล็กไปในสถานที่ที่มีคนแออัด เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ สนามเด็กเล่น ตลาด ควรอยู่ในที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก สำหรับเด็กที่ป่วยเป็นโรคมือ เท้า ปาก ควรหยุดพักรักษาตัวที่บ้านประมาณ 1 สัปดาห์ หรือจนกว่าจะหายเป็นปกติ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อให้เด็กอื่น ๆ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการป้องกันตนเองจากโรคมือ เท้า ปาก สามารถข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422