5 เช็คลิสต์ เตรียมห้องนั่งเล่น พร้อมรับความบันเทิงแบบจัดเต็ม

11 Jul 2022

แม้ว่าในปัจจุบันผู้คนมีแนวโน้มที่จะติดตามข่าวสาร หรือบริโภคเนื้อหาสาระความบันเทิงผ่านหน้าจอมือถือมากขึ้น ด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่ต้องการความสะดวกในการเข้าถึงคอนเทนต์ต่างๆ จากทุกที่ อีกทั้งเนื้อหาความบันเทิงรูปแบบใหม่ๆ ยังถูกออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคสามารถดูผ่านหน้าจอมือถือได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการรับชมผ่านหน้าจอทีวีขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพยังสามารถมอบความบันเทิงได้แบบเต็มอิ่มมากกว่า โดยเฉพาะสำหรับผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพของคอนเทนต์บนหน้าจอ อีกทั้งเป็นหนึ่งในวิธีผ่อนคลายจากความเครียดและพาคุณเข้าสู่โลกแห่งจินตนาการไปกับเนื้อหาภาพยนตร์หรือซีรีส์ที่ชื่นชอบได้อย่างเต็มรูปแบบ

5 เช็คลิสต์ เตรียมห้องนั่งเล่น พร้อมรับความบันเทิงแบบจัดเต็ม

แอลจี ในฐานะผู้นำผลิตภัณฑ์หมวดโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์และมีความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค ตามสโลแกน "Life's Good" ขอชวนคุณมาเตรียมห้องนั่งเล่นกับเช็คลิสต์ 5 ข้อ ให้พร้อมเปิดรับความบันเทิงแบบสูงสุดเมื่อรับชมคอนเทนต์ที่โปรดปรานผ่านหน้าจอทีวีที่บ้านของคุณ

1. ขนาดจอทีวีต้องเหมาะสมกับพื้นที่ในห้อง

ถึงแม้จะมีทีวีประสิทธิภาพสูง เทคโนโลยีการแสดงภาพยอดเยี่ยม แต่หากเลือกขนาดทีวีที่ไม่เหมาะสมกับห้องของคุณก็อาจทำให้ไม่สามารถมองเห็นรายละเอียดภาพได้เท่าที่ควรเป็น การเลือกขนาดหน้าจอให้เหมาะสมกับพื้นที่ของห้องจึงจำเป็นอย่างยิ่ง โดยทั่วไปเราควรนั่งห่างจากทีวีประมาณ 2 เมตร สำหรับการดูทีวีขนาด 43 นิ้วขึ้นไป อย่างไรก็ตามทีวีแต่ละขนาดก็มีระยะห่างในการรับชมที่เหมาะสมต่างกันไป เช่น ทีวีขนาด 32 นิ้ว มีระยะนั่งใกล้ที่สุดอยู่ที่ 1.25 เมตร ทีวีขนาด 65 นิ้ว มีระยะนั่งใกล้ที่สุดอยู่ที่ 2.5 เมตร เป็นต้น สำหรับผู้ที่กำลังมองหาทีวีที่มีขนาดหน้าจอเหมาะสมกับพื้นที่ของห้องก็อย่าลืมพิจารณาจากระยะห่างในการรับชมที่เหมาะสมและสามารถเลือกขนาดของจอทีวีที่ใช่ให้เหมาะกับห้องนั่งเล่นของคุณ ซึ่งทีวีของแอลจีก็มีขนาดหน้าจอที่หลากหลายตั้งแต่ 32 นิ้วจนถึง 88 นิ้ว ให้เลือกตามความเหมาะสมกับพื้นที่ในห้องนั่งเล่นของคุณ

2. แสงในห้องมีผลต่อการรับชมทีวี

การควบคุมแสงภายในห้องให้เหมาะสำหรับการรับชมทีวีจะช่วยให้คุณดื่มด่ำกับโลกแห่งภาพยนตร์หรือซีรีส์ได้ยิ่งขึ้น แสงที่จะต้องควบคุมไม่ให้รบกวนการรับชมทีวีมีทั้งแสงจากธรรมชาติที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่างซึ่งสามารถควบคุมได้ด้วยการติดตั้งผ้าม่านหรือมู่ลี่สีเข้ม และแสงจากหลอดไฟในห้อง หากในห้องของคุณมีโคมไฟ แนะนำให้วางไว้ที่ข้างใดข้างหนึ่งของทีวี ไม่ควรวางไว้ตรงข้ามจอหรือข้างตำแหน่งที่นั่งชม เพราะจะทำให้แสงไฟสะท้อนไปที่หน้าจอ หรือหากจำเป็นต้องวางไว้ตรงข้ามหน้าจอ อาจจำเป็นต้องปิดหรือหรี่ไฟขณะรับชมทีวี ส่วนหลอดแบบติดผนังหรือเพดานควรเป็นระบบที่สามารถหรี่แสงได้ เพื่อให้คุณสามารถควบคุมปริมาณแสงในห้องขณะรับชมทีวีให้เพียงพอ เพราะห้องที่มีสภาพแสงมืดเกินไปก็อาจทำให้คุณรู้สึกตาพร่า หรือปวดหัวขณะรับชมทีวีในห้องมืดเป็นเวลานาน[ https://www.lifewire.com/room-lighting-and-tv-viewing-4147828]
อย่างไรก็ดีทีวีรุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบันก็ได้พัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยถนอมสายตาผู้บริโภค อย่างทีวี LG OLED ที่มีฟีเจอร์ Eye Comfort Display ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก T?V Rheinland ประเทศเยอรมนี ที่รับรองว่าจอ OLED จะให้แสงสีฟ้าซึ่งเป็นแสงที่อันตรายต่อดวงตาเพียง 34% จากมาตรฐานกำหนดไว้ห้ามเกิน 50% จึงช่วยให้มั่นใจได้ว่าสามารถรับชมคอนเทนต์ความบันเทิงบนหน้าจอทีวี LG OLED ได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานโดยไม่ล้าสายตา

3. ติดตั้งทีวีให้เข้ากับสไตล์ของห้องช่วยเพิ่มสุนทรียภาพด้านการตกแต่ง

การติดตั้งทีวีมี 3 รูปแบบ ได้แก่ แขวนผนัง ขาตั้งพื้น (Gallery Stand) และวางบนโต๊ะ แต่ไม่ว่าจะติดตั้งทีวีแบบใดก็ตาม คุณควรคำนึงถึงความสูงของการติดตั้งทีวีให้เหมาะกับระดับสายตา ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้วางทีวีไว้ตรงกลางระดับสายตาขณะนั่งชม โดยปกติแล้วจะอยู่ห่างจากพื้นถึงกลางทีวีประมาณ 42 นิ้ว[ https://www.hellotech.com/blog/how-high-should-a-tv-be-mounted] เมื่อตรวจสอบระดับความสูงในการติดตั้งทีวีให้เหมาะสมแล้ว ต่อมาก็ต้องเลือกรูปแบบการติดตั้ง โดยแต่ละรูปแบบก็มีข้อดีแตกต่างกัน และขึ้นอยู่กับสไตล์การตกแต่งห้องส่วนตัว ข้อดีของการติดตั้งแบบแขวนผนังคือประหยัดพื้นที่ ในขณะที่การติดตั้งแบบวางบนโต๊ะหรือขาตั้งพื้น มีวิธีการติดตั้งที่ง่าย และเหมาะสำหรับผู้ที่ใช้ชั้นวางทีวีวางอุปกรณ์ความบันเทิงอื่นๆ เช่น ซาวด์บาร์ เกมคอนโซล และยังมีข้อดีเรื่องการเข้าถึงสายไฟที่ง่ายกว่าการติดตั้งแบบแขวนผนัง

ทั้งนี้ทีวีคุณภาพดีรุ่นใหม่ๆ มักจะมาพร้อมตัวเลือกการติดตั้งทั้ง 3 แบบให้คุณได้เลือกติดตั้งตามความชอบและเหมาะสมกับการใช้สอยพื้นที่ในห้อง โดยทีวี LG OLED (C1, B1, A1) มาพร้อมตัวเลือกการติดตั้งทั้ง 3 รูปแบบ ได้แก่ แบบแขวนผนัง วางบนโต๊ะ และใหม่ล่าสุดกับขาตั้งพื้นแบบ Gallery Stand ที่ช่วยให้ทีวีของคุณถูกติดตั้งประหนึ่งงานศิลป์ และยังออกแบบให้สามารถเก็บความเรียบร้อยของสายไฟได้อย่างกลมกลืน นอกจากนี้ทีวี LG OLED ซีรีส์ G1 ยังสามารถเลือกติดตั้งแบบแกลเลอรี่แขวนแนบชิดติดผนังด้วยหน้าจอที่บางเพียง 4 มิลลิเมตร ถือเป็นตัวเลือกที่ช่วยเพิ่มสุนทรียภาพด้านการตกแต่งได้เป็นอย่างดี

4. เสริมประสบการณ์ดูทีวีให้ได้อรรถรสยิ่งขึ้นด้วยซาวด์บาร์ทรงพลัง

การลงทุนกับระบบเสียงที่มีคุณภาพจะช่วยเติมเต็มอรรถรสในการชมคอนเทนต์บนทีวีให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นการมีซาวด์บาร์คุณภาพสูงจะช่วยให้คุณดื่มด่ำกับคุณภาพเสียงห้องนั่งเล่นของคุณเสมือนอยู่ในโรงหนัง หรือประหนึ่งเชียร์กีฬาอยู่ข้างสนาม โดยล่าสุดแอลจีได้เปิดตัวซาวด์บาร์รุ่นใหม่ SP11RA มาพร้อมจุดเด่นของดีไซน์ที่เข้ากับทีวีของแอลจีได้อย่างลงตัว ช่วยเพิ่มสไตล์ให้ทุกพื้นที่ และยังรองรับการใช้งานร่วมกับเมจิกรีโมทของแอลจี สามารถสั่งงานเปิด-ปิด เพิ่ม-ลดระดับเสียง หรือเลือกโหมดเสียงต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ตอบโจทย์ผู้ที่ใส่ใจกับคุณภาพเสียงสำหรับการรับชมความบันเทิงทุกรูปแบบภายในบ้านอย่างแท้จริง

5. ลงทุนกับทีวีดีๆ สักเครื่อง

เช็คลิสต์ข้อสุดท้ายที่สำคัญอย่างยิ่งนั่นก็คือการสำรวจว่าทีวีในห้องนั่งเล่นของคุณมีเทคโนโลยีอะไรใหม่ๆ ที่ตามทันโลกแห่งคอนเทนต์ปัจจุบันซึ่งถูกพัฒนาเนื้อหาการแสดงภาพให้มีคุณภาพสูงเมื่อแสดงบนจอทีวีที่มีประสิทธิภาพแล้วหรือไม่ โดยแอลจีซึ่งเป็นผู้นำนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี และผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ ก็มีตัวเลือกทีวีที่หลากหลายทั้งในแง่ของรุ่น ขนาด และราคา เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นทีวี OLED, QNED, NanoCell และ UHD ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายขนาดตั้งแต่ 32 นิ้วจนถึง 88 นิ้ว ในราคาเริ่มต้น 15,990 บาท เป็นต้นไป

ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.lg.com/th/tv-audio หรือสอบถามข้อมูลที่ศูนย์ข้อมูลแอลจี 0-2057-5757

HTML::image(
ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit