"บมจ.เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้" ตอกย้ำบริษัทพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แนวราบที่เน้นคุณภาพ ล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์ อนุมัติแล้ว ให้ KC พ้นเหตุอาจถูกเพิกถอน และปลดเครื่องหมาย "SP" และ "NC" กลับเข้ามาซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์อีกครั้ง เริ่มตั้งแต่ 19 พฤษภาคม นี้ ในหมวดกลุ่มอสังหาฯ และก่อสร้าง พร้อมนำหลักทรัพย์คำนวณใน SET Index หลังซื้อขายวันแรก มั่นใจ 4 โครงการใหม่ ตอบรับกลุ่มเรียลดีมานด์ทุกเจนเนอเรชั่น ในการมีที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ ด้านผู้บริหารระดับสูง และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ "นายสันติ ปิยะทัต" ย้ำความมั่นใจถึงความแข็งแกร่งของบริษัทฯ ว่ามีความพร้อมที่จะเข้าเทรด 100% ด้วยรากฐานของธุรกิจที่มีความมั่นคง และพร้อมที่จะเติบโตก้าวสู่ผู้นำตลาดที่อยู่อาศัยของไทยอย่างยั่งยืนอีกด้วย
นายสันติ ปิยะทัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ "KC" ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แนวราบด้วยคุณภาพอย่างมั่นคงที่ก้าวสู่ปีที่ 40 เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากที่บริษัทเค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ฯได้ยื่นคำขอพ้นเหตุอาจถูกเพิกถอน และขอให้เปิดซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (SET) โดยบริษัทฯได้ดำเนินการแก้ไขเหตุอาจถูกเพิกถอน และดำเนินการให้มีคุณสมบัติ เพื่อกลับมาซื้อขายครบถ้วนแล้วนั้น
ล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์ ได้อนุมัติให้หลักทรัพย์ KC พ้นเหตุอาจถูกเพิกถอน โดยปลดเครื่องหมาย "SP" (Suspension) (ห้ามซื้อขายหุ้นนั้นเป็นการชั่วคราว) และ "NC" (Non compliance) (หลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน) และให้เริ่มซื้อขายหลักทรัพย์ KC ในตลาดหลักทรัพย์ (SET) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม ทางตลาดหลักทรัพย์ มีการขึ้นเครื่องหมาย "C" ไว้ที่หลักทรัพย์ KC โดยให้มีการซื้อด้วยบัญชีแคชบาลานซ์ (Cash Balance) กล่าวคือ ผู้ซื้อต้องชำระเงินทั้งจำนวนก่อนการซื้อหลักทรัพย์ ตั้งแต่วันแรกที่มีการซื้อขายจนกว่างบการเงินของบริษัท จะแสดงให้เห็นว่า ส่วนผู้ถือหุ้นของบริษัทมีค่าตั้งแต่ร้อยละ 50 ของทุนชำระแล้ว
อนึ่ง ตลาดหลักทรัพย์จะไม่กำหนดราคาซื้อขายสูงสุดและต่ำสุด (Ceiling & Floor) ของหลักทรัพย์ KC ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2565 ซึ่งเป็นวันแรกที่มีการซื้อขาย (อย่างไรก็ดี หากในวันที่ 19 พฤษภาคม 2565 ไม่มีการซื้อขายหุ้นสามัญของ KC ตลาดหลักทรัพย์ จะยังคงไม่มีการกำหนด Ceiling & Floor ต่อเนื่องไปจนกว่าจะมีการซื้อขายหุ้นสามัญของ KC แล้ว) และเมื่อได้มีการซื้อขายหลักทรัพย์ KC แล้ว ในวันทำการถัดไป Ceiling & Floor ของหลักทรัพย์ KC จะถูกปรับให้เป็นไปตามเกณฑ์ปกติ
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ จะนำหลักทรัพย์ KC มารวมในการคำนวณดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) ในวันทำการถัดไป นับจากวันที่มีการซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าววันแรก
เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ฯ เดินหน้าขับเคลื่อนการลงทุน
นายสันติ กล่าวเสริมอีกว่า บริษัทฯยังคงมุ่งมั่นในการลงทุนและพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง และสร้างการรับรู้ใหัแก่กลุ่มลูกค้าและนักลงทุน โดยเริ่มจากการปรับโฉมแบรนด์ใหม่ (รีแบรนด์) ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นก้าวสู่การเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งอนาคต ที่ให้ความมั่นคง ทันสมัย ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้อยู่อาศัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขยายฐานลูกค้า หลังประสบความสำเร็จในตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบที่เน้นคุณภาพ และราคาคุ้มค่ามาเกือบ 3 ทศวรรษ โดยจุดยืนที่ปรับเปลี่ยนใหม่ จะทำให้แบรนด์ เค.ซี.พร็อพเพอร์ตตี้ มีบุคลิกทันสมัยมากขึ้น กระฉับกระเฉง มั่นคง วางใจได้ และสื่อถึงการเป็นแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ที่ทันสมัย แต่จับต้องได้ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ และตอบสนองต่อทุกกลุ่มเป้าหมายทุกเจนเนอเรชั่น ไม่ว่าจะเป็น Gen X, Y, Z, Millennials หรือ Baby Boomer
โดยในปัจจุบัน เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ฯ มีโครงการแนวราบที่มีคุณภาพ รองรับความต้องการของลูกค้าในเบื้องต้น 4 โครงการ ได้แก่
และ 4.โครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น เค.ซี. คลัสเตอร์ นิมิตใหม่ ที่เป็นทางเลือกให้คนทุกเจนเนเรอชัน ที่อยากมีบ้านที่ทันสมัย เป็นครอบครัวเดี่ยวขนาดเล็กหรือบ้านที่มีความเป็นส่วนตัว สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ที่เน้นความสะดวกทั้งการทำงาน ประกอบธุรกิจหรืออาชีพอิสระและการอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคดิจิทัล ในราคาไม่ถึง 2 ล้านบาท (1.39-1.8 ล้านบาท)
นายสันติ กล่าวทิ้งท้ายว่า "ปัจจุบันบริษัทฯ มีความแข็งแกร่ง และความพร้อมที่จะเข้าเทรดเข้าตลาด 100% ด้วยรากฐานในปัจจุบันของบริษัทที่มีความมั่นคงเป็นอย่างมาก และบริษัทฯ จะมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และจะกลับมาสู่ผู้นำตลาดที่อยู่อาศัยของไทยอย่างยั่งยืนอีกด้วย ตลอดระยะเวลา 39 ปีที่ผ่านมา เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ ยึดมั่นในการพัฒนาบ้านที่มีคุณภาพ คุ้มค่า ใส่ใจในรายละเอียดเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสะดวกสบาย และปลอดภัย ใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าทุกระดับ"
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit