บมจ.บริทาเนีย หรือ BRI ต้อนรับผู้บริหารจาก 8 ธนาคารพันธมิตร ชูแผนยุทธศาสตร์ "Growth Together เติบโตต่อเนื่องไปด้วยกัน" เผยแผนครึ่งปีหลังเตรียมเปิด 10 โครงการใหม่ มูลค่าโครงการรวม 10,700 ล้านบาท ดันยอดขายและรายได้ทั้งปีตามเป้าหมาย
นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทฯ ได้ต้อนรับผู้บริหารจาก 8 ธนาคารพันธมิตร ได้แก่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกรุงไทย ธนาคารทหารไทยธนชาต และธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮาส์ เข้าเยี่ยมชมโครงการแกรนด์ บริทาเนีย วงแหวน-รามอินทรา เพื่อแนะนำคณะผู้บริหาร และแผนการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลัง ตลอดจนแลกเปลี่ยนมุมมองทางเศรษฐกิจเพื่อนำมาปรับใช้ในการดำเนินงาน
สำหรับปี 2565 บริษัทฯ วางแผนเปิดโครงการใหม่ 12 โครงการ ใน 7 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา ชลบุรี ระยอง อุดรธานีและขอนแก่น มูลค่าโครงการรวม 13,400 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกเปิดแล้ว 2 โครงการ มูลค่าโครงการ 2,700 ล้านบาท และช่วงครึ่งปีหลังจะเปิดตัวอีก 10 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 10,700 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์บริทาเนียและแกรนด์บริทาเนีย
กลยุทธ์หลักจะมุ่งเน้นการขยายทำเลพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบในจังหวัดที่มีศักยภาพ ทั้งจังหวัดปริมณฑล ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกที่จะได้ประโยชน์จากการพัฒนาโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งจะทำให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมต่างๆ และความต้องการที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับแหล่งงาน ตลอดจนความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อขยายธุรกิจ ทั้งการร่วมทุนพัฒนาโครงการกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำ อย่างบริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด จากประเทศญี่ปุ่น พัฒนาโครงการบริทาเนีย โฮม บางนา กม.17 และบริทาเนีย ทาวน์ บางนา กม.17 มูลค่าโครงการรวม 2,600 ล้านบาท และอีกหนึ่งพันธมิตรใหม่ คือ บริษัท โลฟิส (ไทยแลนด์) จำกัด เพื่อพัฒนาโครงการแกรนด์บริทาเนีย คูคต สเตชั่น มูลค่าโครงการรวม 1,200 ล้านบาท เพื่อร่วมมือยกระดับโครงการและการให้บริการแก่ลูกบ้าน เช่น การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ สถานีชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ระบบสมาร์ทวิลเลจ การให้บริการด้านสุขภาพแก่ลูกบ้าน เป็นต้น พร้อมทั้งให้พนักงานและผู้ที่เกี่ยวข้องในระบบซัพพลายเชนได้ร่วมเติบโตไปด้วยกัน
"จากแผนธุรกิจที่วางไว้เรามั่นใจจะสามารถทำยอดขาย (พรีเซล) ในปีนี้ 11,000 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ 7,250 ล้านบาทตามเป้าหมาย หลังจากภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ มีแนวโน้มฟื้นตัวจากสถานการณ์ COVID-19 ที่เริ่มคลี่คลาย การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์และเปิดประเทศส่งผลดีต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ โดยในช่วงไตรมาส 1/2565 สามารถทำนิวไฮ มียอดขาย 2,378 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ 1,483 ล้านบาท รวมถึงกำไรสุทธิ 353 ล้านบาท" นางศุภลักษณ์ กล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit