บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แถลงผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2565 โดยมีรายได้ 403.8 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 102.9 ล้านบาท โดยเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2564 บริษัทฯ มีรายได้ 429.6 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 6.0 และกำไรสุทธิ 104.8 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยร้อยละ 1.8 ยังคงมั่นใจพื้นฐานธุรกิจในภาพรวมปี 2565 ของบริษัทฯ ซึ่งยังแข็งแกร่งและเป็นไปตามแผน
Mr. Gerry Ung ผู้บริหารสูงสุดทางด้านการเงิน (CFO) บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "สำหรับในไตรมาสแรกของปี 2565 บริษัทฯ มีการเปิดให้บริการเกมใหม่ไปแล้ว 3 เกม ได้แก่ ตำนานมังกรหยก M และหวงอี้โมบาย เปิดให้บริการในประเทศไทย และ Real Yulgang Mobile เปิดให้บริการในเวียดนาม แม้ว่ารายได้จะชะลอตัวลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อน อันเนื่องจากเกมส่วนใหญ่เปิดให้บริการในช่วงเดือนมีนาคมทำให้รับรู้รายได้ไม่เต็มไตรมาส รวมถึงบริษัทฯ เพิ่งรับรู้รายได้จากบริษัทย่อยในประเทศเวียดนาม แต่ก็ถือว่าเป็นปกติของธุรกิจที่อาจมีการชะลอตัวหรือกระโดดเพิ่มขึ้นในบางไตรมาส ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาลของธุรกิจและปัจจัยความสำเร็จในการเปิดเกมใหม่ เพราะที่ผ่านมาแทบทุกปี รายได้ในช่วงต้นปีก็จะน้อยกว่าในช่วงครึ่งปีหลังเป็นส่วนใหญ่
อย่างไรก็ตาม เรายังคงมั่นใจว่า ในปี 2565 เอเชียซอฟท์ฯ จะยังคงสามารถเติบโตเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15 จากปี 2564 เนื่องจากภาพรวมตลาดของเกมยังคงเติบโตต่อเนื่อง และอดีตที่ผ่านมา ธุรกิจเกมแทบจะไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ จากวิกฤติการณ์ต่าง ๆ เนื่องจากเกมยังคงเป็นความบันเทิงที่เข้าถึงได้ง่ายและถูกที่สุด อีกทั้ง บริษัทฯ มีแผนที่ชัดเจนในการเปิดให้บริการเกมใหม่มากที่สุดเป็นประวัติการณ์รวมถึง 12 เกมในปีนี้ โดยในแต่ละไตรมาสจะมีเกมเรือธงที่มี IP แข็งแกร่งเป็นไฮไลท์ รวมทั้งในปีนี้จะเน้นที่ตลาดอินโดนีเซียซึ่งเกมที่จะเปิดส่วนใหญ่เราได้สิทธิ์ครอบคลุมทั้งภูมิภาค นอกจากนี้ยังกำลังเจรจาซื้อลิขสิทธิ์เกมฟอร์มใหญ่อีกจำนวนหนึ่งเพื่อสร้าง Pipeline ที่แข็งแกร่งสำหรับปีหน้า
จากความสำเร็จของบริษัทย่อยในประเทศมาเลเซียในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทย่อยคือ CIB Development Sdn. Bhd. เตรียมการเข้าสู่กระบวนการนำบริษัทขอยื่นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ACE ในประเทศมาเลเซีย เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจและขยายตลาดการให้บริการสู่ภูมิภาคอื่นโดยเฉพาะฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน และอินเดีย รวมถึงการลงทุนด้านการพัฒนาเกมและธุรกิจด้านดิจิทัล คาดว่ากระบวนการจดทะเบียนจะใช้เวลาประมาณ 1 ปีจากนี้
สำหรับความคืบหน้าการพัฒนา Astronize Platform เพื่อเตรียมให้บริการเกมแนว "Hybrid Play and Earn" ที่ร่วม Joint Venture กับ Bitkub ยังคงรุดหน้าอย่างต่อเนื่อง แม้มีเหตุล่าช้าเล็กน้อยในการจัดต้งบริษัทเนื่องจากเราต้องการจะทำให้ Astronize เป็น platform แรกที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลและเป็นไปตามกฏหมายอย่างถูกต้อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคและนักลงทุนสูงสุด คาดว่า การจัดตั้งบริษัทน่าจะเรียบร้อยภายในไตรมาส 2 นอกจากนี้ ยังมีแผนในการต่อยอดธุรกิจอื่น ๆ อีกหลายโครงการอีกด้วย"
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit