"เซวา ไทยแลนด์" ยอดขายฉลุยฝ่าโควิด-19 ผงาดสู่ "สกินแคร์ นัมเบอร์วัน" ฝีมือคนไทย เจาะกลยุทธ์ครึ่งปีแรก 65 ปูพรมบุกโมเดิร์นเทรด ดันรายได้พุ่งเฉียด 100 ล้านบาท เตรียมฉลองครบ 5 ปีสุดอลังการ แท็กทีม 2 ซุปตาร์ตัวแม่ขึ้นแท่นพรีเซ็นเตอร์ โพรดักส์ไลน์ใหม่
"เซวา ไทยแลนด์" (Sewa Thailand) สกินแคร์บำรุงผิว สัญชาติไทยแท้ ที่สร้างภาพจำจากการเป็นแบรนด์น้ำตบ โสมสกัดจากเกาหลีที่ครองใจสาวไทยและทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง เตรียมฉลองการก้าวสู่ปีที่ 6 อย่างแข็งแกร่ง ตอกย้ำความเป็นเบอร์หนึ่งของแบรนด์สกินแคร์คนไทยคุณภาพระดับโลก เปิดเกมรุกในช่วงครึ่งปี 65 เน้นจัดโปรโมชั่นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบซองขนาด 10 มล.ดึงดูดใจลูกค้า วางขายโมเดิร์นเทรดทั่วประเทศ ผงาดดันยอดขายรวมแบรนด์พุ่งแตะยอดขาย 97 ล้านบาทในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา คาดปิดรายได้ปลายปีทะยานตามเป้า 200 ล้านบาท จากยอดรวมรายได้ปีก่อนอยู่ที่ 170 ล้านบาท มั่นใจสัดส่วนการขายผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์เติบโตเทียบเท่ากันอยู่ที่สัดส่วน 50 : 50 ภายในสิ้นปีนี้ ย้ำยังชูกลยุทธ์หลัก "เซเลบริตี้ มาร์เก็ตติ้ง" ดึง 2 ซุปตาร์คนบันเทิงตัวแม่ เสริมทัพพรีเซ็นเตอร์ให้ยิ่งปัง เตรียมเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด "Sewa x Panita" ในงานอีเวนท์ยิ่งใหญ่ฉลองครบ 5 ปีของแบรนด์เซวาที่จะจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนกันยายนนี้ ณ ศูนย์การค้าสยาม พารากอน
คุณเบญจกิตติ เมฆแสน ซีอีโอ ผู้ก่อตั้งแบรนด์เซวา ไทยแลนด์ กล่าวว่า เซวา เป็นหนึ่งในแบรนด์สกินแคร์ฝีมือคนไทยที่โดดเด่นด้วยการนำเทคโนโลยีมาผสานกับโลกความงามได้อย่างลงตัว เพราะนอกจากจะใช้วัตถุดิบคุณภาพที่ส่งตรงจากประเทศเกาหลีเกือบทั้งหมด เซวายังพิถีพิถันในการพัฒนาสูตรจนได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ จากห้องแล็บที่ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากลในระดับเดียวกับที่ทดสอบผลิตภัณฑ์เคาน์เตอร์แบรนด์ระดับโลก ซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้มั่นใจแบรนด์สกินแคร์คนไทยก็ไม่แพ้สกินแคร์ชั้นนำจากต่างประเทศ
"อีกหนึ่งจุดแข็งของเซวา ไทยแลนด์ คือ เราเข้าใจอินไซต์และธรรมชาติของผิวผู้หญิงเป็นอย่างดี โดยเฉพาะชาวเอเชีย เพราะเรามุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้หญิงได้อย่างไร้ที่ติโดยมีผลวิจัยจากห้องแล็บรองรับมาตรฐานชัดเจน โดยเฉพาะโพรดักส์ที่ขายดีที่สุดของแบรนด์ น้ำตบโสมเกาหลีเข้มข้น Insam Essence ที่ขวดเดียวสรรพคุณครบจบในตัว ตอบโจทย์ผู้หญิงยุคใหม่ที่มองหาไอเท็มที่ใช้ดีเห็นผลชัดเจน แต่ไม่ยุ่งยาก ซึ่งเราได้ทำขนาดบรรจุภัณฑ์ออกมาหลายขนาดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย ทั้งขนาด 10 มล. ขนาด 30 มล. และขนาดปกติ 120 มล. ทำให้เอสเซนส์น้ำตบโสมเข้มข้นยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุดของปี 65 ตามด้วยเอจไวท์เซรั่ม และโฟมล้างหน้า"
สำหรับกลยุทธ์การตลาดของแบรนด์เซวา ในปี 2565 นั้น คุณเบญจกิตติ กล่าวว่า หลังจากสองปีที่ผ่านมา ด้วยสถานการณ์โควิด - 19 ทำให้แบรนด์ต้องปรับกลยุทธ์ธุรกิจขนานใหญ่ หันมาเน้นตลาดออนไลน์เป็นหลัก ซึ่งในปีนี้ ช่องทางการขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ของแบรนด์เองและช่องทางอี คอมเมิร์ซต่างๆ มียอดขายเติบโตเป็นที่น่าพอใจ อีกทั้งด้วยจุดแข็งของผลิตภัณฑ์ที่ครองใจลูกค้าอยู่แล้ว บวกกับการใช้กลยุทธ์ Celebrity Marketing หรือ การใช้คนดังมาเป็นตัวแทนของแบรนด์ในการสื่อสารกับลูกค้า ทำให้เซวา ไทยแลนด์เป็นแบรนด์ที่คนไทยคุ้นเคยและรู้จักเป็นอย่างดี จึงมีฐานลูกค้าที่กว้างและหลากหลาย ทำให้ในปีนี้ แม้สถานการณ์โรคระบาด โควิด-19 ยังคงอยู่ แต่เซวา ไทยแลนด์ก็ยังสามารถทำยอดขายรวมเติบโต อยู่ที่ประมาณเกือบ 100 ล้านบาทแล้วในปัจจุบัน
"นอกจากแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ปีนี้เรายังได้ปรับพอร์ตฟอร์ลิโอ จากเดิมที่เน้นช่องทางออนไลน์ 70% และออฟไลน์ 30% มาเป็น 50 : 50 ด้วยการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายเซวา ประเทศไทย จากเดิมที่ขายผ่านออนไลน์กับร้านตัวแทนจำหน่ายตามหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ รวมถึงร้าน EVE AND BOY และ Watson มาก่อนหน้านี้ กระทั่งช่วงปลายปี 64 เราได้นำโพรดักส์เข้าวางจำหน่ายที่ 7-11 และกระจายวางจำหน่ายช่องทางโมเดิร์นเทรดชั้นนำทั่วประเทศปีนี้ อาทิ Tesco Lotus, Boots, Tsuruha และ Beautrium โดยในแต่ละช่องทางอาจจะมีการ Customized สินค้าให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่มาใช้บริการ เช่น จัดโปรโมชั่นผลิตภัณฑ์แบบซองจำหน่ายในเทสโก้ โลตัส หรือเซวา ที่วางขายใน 7-11 จะทำออกมาเป็นขวดน้ำตบโสมขนาดพิเศษ 10 มิลลิลิตร หรือทำเป็นเอกซ์คลูซีฟไอเท็ม เพื่อสร้างเซอร์ไพรส์ให้แฟนๆในช่องทางอื่น ๆ ด้วย"
ด้าน วิริฒิพา ภักดีประสงค์ อีกหนึ่งซีอีโอแห่งเซวา ไทยแลนด์ ซึ่งดูแลด้านงานส่งเสริมประชาสัมพันธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ กล่าวเสริมว่า เพื่อเป็นการฉลองการก้าวสู่ปีที่ 5 ของแบรนด์ เซวา ไทยแลนด์ จึงทุ่มงบการตลาด150 ล้านบาท เพื่อต่อยอดกลยุทธ์ Celebrity Marketing ที่ยังทรงพลังและเป็นภาพจำของแบรนด์ นอกจากกองทัพพรีเซ็นเตอร์คนดังที่เป็นตัวแทนของผลิตภัณฑ์เซวาในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อยู่แล้ว นำทีมโดย คิม- คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ, มิว - นิษฐา จิรยั่งยืน, มดดำ - คชาภา ตันเจริญ, ตู่ - ปิยวดี มาลีนนท์, หนิง - ปณิตา ธรรมวัฒนะ, เจษ - เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์ ในปี 2565 เปิดตัวอีกสองพรีเซ็นเตอร์ชื่อดังของประเทศ เพื่อมาเสริมทัพแบรนด์เซวา ประเทศไทย ให้สมกับเป็นแบรนด์ "สกินแคร์ นัมเบอร์วัน" ฝีมือคนไทย พร้อมทั้งปูพรมโปรโมตสินค้าผ่านสื่อนอกบ้าน เพื่อให้แบรนด์เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของลูกค้ามากขึ้น ซึ่งในงานอีเวนท์ใหญ่ฉลองครบ 5 ปีในเดือนกันยายนนี้ เรามีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประเภทช่วยลดจุดด่างดำ รอยจากสิวอักเสบ "Sewa dark spot solution black ginseng ampoule" (เซวา ดาร์ก สปอต โซลูชั่น แบล็ค จินเส็ง แอมพลู) โดยจะเป็นคอลเลคชั่นใหม่ที่ทำร่วมกับนักแสดงและผู้จัดละครคนดัง "หนิง-ปณิตา ธรรมวัฒนะ หนึ่งในพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของเรา ซึ่งจะถือเป็นครั้งแรกที่แบรนด์เซวาจะเปิดรับระบบตัวแทนขายอย่างเป็นทางการกับโพรดักส์ไลน์ใหม่นี้ด้วย ส่วนอีกหนึ่งพรีเซ็นเตอร์ระดับท็อปของประเทศจะเปิดตัวพร้อมอีกหนึ่งโพรดักส์ไลน์ใหม่ในช่วงปลายปีนี้"
สำหรับเป้าหมายในอนาคต สองผู้บริหารคนเก่ง ย้ำว่า อยากให้เซวา ประเทศไทย ซึ่งเป็นแบรนด์สกินแคร์ฝีมือคนไทย ทลายกำแพงและข้อจำกัดของแบรนด์ไทย ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจคนไทยให้ได้
"เราอยากพิสูจน์ให้เห็นว่าสกินแคร์แบรนด์ไทยก็โดดเด่นไม่แพ้สกินแคร์แบรนด์ไหนในโลก เพราะฉะนั้นเราพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ลงลึกทุกรายละเอียด ตั้งแต่การคัดเลือกแล็บอันดับหนึ่งของโลก ในการพัฒนาสูตรที่มีการจดลิขสิทธิ์เฉพาะ มั่นใจในมาตรฐานการผลิตที่ใช้โรงงานระดับโลกที่เกาหลี ในแง่การดูแลลูกค้า เราถือคติ สามหัวใจสำคัญ "เข้าใจ ใส่ใจ และจริงใจ" กับลูกค้าเสมอ เพราะเราเชื่อว่า ความซื่อสัตย์และความตั้งใจจะส่งผลดีต่อแบรนด์ในระยะยาว ไม่ใช่แค่บอกต่อปากต่อปาก เพื่อช่วยคนรู้จักหรือคนใกล้ชิดมาเปิดใจลองใช้ผลิตภัณฑ์ แต่ยังพร้อมสนับสนุนแบรนด์สกินแคร์คนไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับโลก" คุณเบญจกิตติทิ้งท้าย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit