จับตากลยุทธ์ ครองใจโชห่วยไทย แม็คโครต่อยอดไอเดียทายาทโชห่วย ปั้นร้านค้าชุมชนน้องใหม่ "บัดดี้มาร์ท"

01 Sep 2022

กว่า 33 ปีที่แม็คโคร คลุกคลีกับโชห่วยมานาน ด้วยฐานลูกค้ามากกว่า 500,000 ราย กลายเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ "แม็คโคร" ผู้นำธุรกิจค้าส่งของไทย ต่อยอดไปสู่การพัฒนา "โมเดลทางเลือก" ให้ผู้ประกอบการค้าปลีกขนาดเล็กในชุมชนทั่วประเทศ

จับตากลยุทธ์ ครองใจโชห่วยไทย แม็คโครต่อยอดไอเดียทายาทโชห่วย ปั้นร้านค้าชุมชนน้องใหม่ "บัดดี้มาร์ท"

"ธนิศร์ เจียรวนนท์" ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจค้าส่งแม็คโคร ประเทศไทย กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เราเป็นธุรกิจค้าส่งที่มีโชห่วยเป็นหนึ่งในกลุ่มลูกค้าสำคัญ สร้างยอดขายในอัตราส่วนถึง 30% ในกว่า 30 ปีที่ผ่านมาแม็คโคร ไม่เพียงออกแบบเครื่องมือทางการตลาดที่เข้าไปตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้ แต่ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพคนทำธุรกิจค้าปลีกขนาดเล็กในชุมชน ให้เติบโตและปรับตัวทันการเปลี่ยนแปลง ด้วยโครงการมิตรแท้โชห่วย ที่มุ่งเน้นการพัฒนาร้านค้าให้อยู่รอดและเติบโตเคียงคู่กับชุมชนมาจนถึงปัจจุบัน

"แม็คโครกับลูกค้าโชห่วยทั่วประเทศ จึงมีความผูกพันกันมานาน ในทุกปีเรามีการจัดงานตลาดนัดโชห่วย เพื่ออัพเดทเทรนด์ธุรกิจค้า ที่ร้านค้าเล็กๆ ควรรู้หรือนำไปปรับใช้  รวมถึงมีโครงการประกวดทายาทโชห่วย ซึ่งเป็นเวทีแข่งขันไอเดียพัฒนาร้านของคนรุ่นใหม่หรือลูกหลานเจ้าของธุรกิจโชห่วย เมื่อนำมาเสริมกับข้อมูลเชิงลึกที่แม็คโครมี ก็ทำให้ได้ข้อมูลที่เข้าถึงปัญหาอย่างลึกซึ้ง และสามารถสร้างรูปแบบการพัฒนาร้านค้าปลีก ที่ตอบโจทย์ให้โชห่วยได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังจับมือกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในโครงการพัฒนาสมาร์ทโชห่วย ทำให้เกิดองค์ความรู้เพิ่มเติมที่นำมาต่อยอดให้ผู้ประกอบการรายย่อยกว่า 500,000 รายของเราในทุกมิติ เกิดเป็นโมเดลทั้ง มิตรแท้ชุมชนจนถึงรูปแบบล่าสุดคือ บัดดี้มาร์ท "

"บัดดี้มาร์ท" เป็นรูปแบบร้านค้าปลีกชุมชน ที่เน้นความสำเร็จรูปในการทำธุรกิจ ตั้งแต่การออกแบบร้าน วางผังการจัดวางสินค้า การเลือกสินค้า โดยใช้เทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาช่วยบริหารจัดการให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่และตรงใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในชุมชนนั้นๆ   ที่สำคัญมีทีมงานบัดดี้มาร์ท สนับสนุนการวางแผนส่งเสริมการขายและช่วยบริหารจัดการร้านอย่างใกล้ชิด รวมถึงมีระบบการจัดการสต๊อกและการสั่งซื้อสินค้าเข้าร้านที่รวดเร็ว ทำให้เจ้าของร้านสะดวก มีรายได้เพิ่มขึ้น โดยไม่ต้องใช้เวลาบริหารจัดการมากเท่าเดิม

"ผมคิดว่า การที่โชห่วยจะตัดสินใจปรับเปลี่ยนรูปแบบร้าน หรือลงทุนอะไรใหม่ ๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องศึกษารายละเอียดเป็นอย่างดี ซึ่งเราพบว่า ผู้ประกอบการจะให้น้ำหนักกับความเชี่ยวชาญเป็นสำคัญ  ซึ่งโมเดลบัดดี้มาร์ทที่เราพัฒนาขึ้น ผสมผสานความเชี่ยวชาญในด้านสินค้าของแม็คโครและประสบการณ์ในการคลุกคลีกับปัญหาของร้านโชห่วยกว่า 30 ปีของเรา ประกอบกับฐานข้อมูลขนาดใหญ่จากเครือข่ายที่เรามี ในการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าของร้านค้าปลีกในชุมชน เราได้นำเทคโนโลยีทันสมัยสำหรับร้านค้าปลีกขนาดเล็กมาใช้ รวมถึงใช้ความชำนาญในการบริหารจัดการสต๊อก ระบบการสั่งซื้อสินค้าและจัดส่งถึงร้านที่รวดเร็ว ที่สำคัญมีกลุ่มพันธมิตรซัพพลายเออร์สินค้าที่แข็งแกร่ง"

รูปแบบร้านค้าปลีกชุมชนบัดดี้มาร์ท เจ้าของร้านจะใช้งบลงทุน 400,000 บาท แบ่งเป็นค่าเงินค้ำประกัน 200,000 บาทและค่าปรับปรุงร้าน 200,000 บาท (ขึ้นกับขนาดและสภาพของร้านปัจจุบัน) มี 3 ขนาดทางเลือก คือ ขนาดเล็ก พื้นที่ 48 ตารางเมตรขึ้นไป ขนาดกลาง พื้นที่ 50-100 ตารางเมตร ขนาดใหญ่ พื้นที่ 100 ตารางเมตรขึ้นไป  ส่วนทางบัดดี้มาร์ทจะลงทุนให้กับคู่ค้า มูลค่าประมาณ 1.5  ล้านบาท โดยติดตั้งระบบ POS ระบบบริหารจัดการร้าน อุปกรณ์ชั้นวาง ตู้แช่ และสินค้าทั้งหมดภายในร้าน และยังร่วมกับ ธนาคารกรุงเทพ สร้างการเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กับผู้ที่ติดปัญหาด้านเงินลงทุนด้วย

"ในวันนี้หลายคนอาจมองว่า มีผู้เล่นหลายรายเข้ามาในตลาดโชห่วยมากขึ้น ผมมองว่า เป็นเรื่องที่ดีนะ ที่จะได้มาช่วยกันพัฒนาตลาดค้าปลีกของไทยให้แข็งแรงยิ่งขึ้น สำหรับแม็คโคร เราเชื่อว่า เรามีประสบการณ์กว่า 30 ปี และด้วยกลยุทธ์บวกแผนงานที่ชัดเจน พร้อมทีมงานให้คำปรึกษาจากสาขาของแม็คโครทั้ง 147 แห่งใน 69 จังหวัดทั่วประเทศ บัดดี้มาร์ทจะเป็นทางเลือกให้ร้านโชห่วยที่สนใจได้พัฒนาและเพิ่มยอดขาย และเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่จะช่วยส่งเสริมธุรกิจค้าส่งค้าปลีกของกลุ่มแม็คโครให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น" นายธนิศร์กล่าวทิ้งท้าย

ปัจจุบันตลาดค้าปลีกไทยมีมูลค่ากว่า 3 ล้านล้านบาท โดยธุรกิจโชห่วยมีสัดส่วนถึง 55% ของตลาดค้าปลีกไทยและโชห่วยยังถือเป็นกลุ่มผู้ประกอบการ SME ภาคบริการที่มีความสำคัญต่อจีดีพีของประเทศ ซึ่งแม็คโครครองส่วนแบ่งสำคัญในตลาดค้าปลีกรายย่อยหรือโชห่วยมายาวนาน และมีกิจกรรมพัฒนาลูกค้ากลุ่มนี้มาอย่างต่อเนื่อง

HTML::image(