วุฒิสภา-สสส. ติดตามความคืบหน้าเหตุชนนักเรียนบนทางม้าลาย เร่งแก้ไขจุดเสี่ยงลดอุบัติเหตุ

เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2565 ที่ รร.สันติราษฎร์วิทยาลัย คณะกรรมการบูรณาการกู้ชีพฉุกเฉินและความปลอดภัยทางถนน วุฒิสภา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ ภาคีเครือข่าย ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าเยี่ยมนักเรียน 3 ราย ที่ได้รับบาดเจ็บเหตุรถยนต์ชนนักเรียนข้ามถนนบนทางม้าลาย หน้า รร.สันติราษฎร์วิทยาลัย นายคณวัฒน์ วงศ์แก้ว ที่ปรึกษาด้านระบบงานนิติบัญญัติ กรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการบูรณาการกู้ชีพฉุกเฉินและความปลอดภัยทางถนน วุฒิสภา กล่าวว่า การหารือแนวทางป้องกันแก้ไขร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในครั้งนี้ เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม และทางคณะกรรมการกู้ชีพวุฒิสภาฯ ได้มอบหมายให้ภาคีมูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว จัดทีมทนายเข้าให้ความช่วยเหลือ และติดตามความก้าวหน้าของกรณีนี้อย่างใกล้ชิด ขอให้กำลังใจนักเรียนที่ทั้ง 3 คน เชื่อว่ากระบวนการทางกฎหมาย ตลอดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จะดูแลดำเนินการตามกฎหมายอย่างถูกต้องเป็นธรรมแน่นอน

นายคณวัฒน์ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย สมาชิกวุฒิสภา และประธานคณะกรรมการบูรณาการกู้ชีพฉุกเฉินและความปลอดภัยทางถนน วุฒิสภา ได้เดินทางลงติดตามกรณีนี้มาแล้ว มีการสรุปร่วมกัน กับ กทม.ทั้งส่วนสำนักงานเขต สำนักจราจรและขนส่ง กทม. ขอให้ แก้ไข 2 จุด คือ 1.บริเวณปากทางเข้าโรงเรียน ให้มีการติดเครื่องหมายเตือนให้ระวัง ให้ชัดเจน ก่อนเลี้ยวทางม้าลาย เพื่อให้ผู้ที่ขับรถออกจากซอย ชะลอความเร็วและขับด้วยความระมัดระวัง 2. ฟุตบาทบริเวณทางม้าลาย ซึ่งมีการก่อปูนปลูกต้นไม้กีดขวาง ทำให้เกิดความแออัดขณะนักเรียนเดินข้ามทางม้าลายขึ้นฟุตบาท ทางสำนักงานเขต กทม. จะทำการปรับตรงนี้ เพื่อขยายพื้นที่ให้การข้ามถนนตรงทางม้าลายสะดวกขึ้น ไม่มีสิ่งกีดขวาง คนข้ามไม่กระจุกตัวบนถนน ลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งจุดนี้ปัจจุบันสำนักงานเขตพญาไทได้มาดำเนินการแก้ไขแล้ว

นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สสส. กล่าวว่า ประเด็นที่สำคัญมาก ๆ ของการลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุที่ต้องทำให้ได้ คือ 1.การหยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย ซึ่งจุดนี้รวมถึงการฝึกฝนให้เด็กๆ ข้ามทางม้าลายด้วยการมองขวามองซ้ายให้ดีก่อนข้าม 2. การลดความเร็วบริเวณหน้าโรงเรียน หรือพื้นที่ชุมชน ควรจำกัดความเร็วไม่เกิน 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 3. การสวมหมวกนิรภัยทั้งคนขับและคนซ้อน ซึ่งจุดนี้ยังเป็นปัญหาอยู่มากที่ผู้ปกครองคิดว่ามารับส่งบุตรหลานแค่ใกล้ ๆ ไม่สวมหมวกนิรภัยก็ไม่เป็นไร หรือคิดว่าช่วงเวลาเร่งด่วนตำรวจไม่จับ อยากให้เปลี่ยนความคิด เพราะการสวมหมวกนิรภัย สามารถลดการบาดเจ็บที่ศีรษะได้ และเป็นอุปกรณ์สร้างความปลอดภัยให้ตัวเองและบุตรหลาน

"วันนี้ได้มาให้กำลังใจ นักเรียนที่ประสบเหตุทั้ง 3 คน ต้องขอบคุณโรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย สำนักงานเขตพญาไท สถานีตำรวจนครบาลพญาไท ที่ร่วมกันแก้ไขปรับปรุงพื้นที่ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับนักเรียนมากขึ้น วันนี้ได้มีการติดป้ายประชาสัมพันธ์ "ขอบคุณที่หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย # ความดีที่คุณทำได้" บริเวณหน้าโรงเรียน และหลังจากนี้ สสส. โดยภาคีเครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต มูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว จะเข้ามาจัดกิจกรรมสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องวินัยจราจร ในเร็วๆนี้ เพื่อสร้างความตระหนัก ปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวินัยจราจร และความปลอดภัยทางถนน และลดอุบัติเหตุ" นางสาวรุ่งอรุณ กล่าว

• ข่าวมูลนิธิเด็ก
• ข่าวแนวทาง
• ข่าววุฒิสภา
• ข่าวความปลอดภัยทางถนน
• ข่าวอุบัติเหตุ
• ข่าวทนาย