วีโร่ บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ และการตลาดดิจิทัลที่ได้รับรางวัลเอเจนซี่ด้านประชาสัมพันธ์แห่งปี ประกาศการจัดตั้งคณะกรรมการเงา หรือ Vero Vox Council ที่จะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายเชิงกลยุทธ์ของวีโร่
โดยคณะกรรมการเงา Vero Vox Council (VVC) จะทำงานร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของวีโร่ในการสร้างนโยบายและนวัตกรรมขององค์กร ทบทวนกระบวนการการทำงานภายในของวีโร่ ออกแบบโปรแกรมการฝึกอบรมและพัฒนา รวมถึงเป็นผู้นำในการริเริ่มโครงการที่สนับสนุนความหลากหลายและยอมรับความแตกต่างของพนักงานในองค์กร นอกจากนี้ คณะกรรมการเงายังให้คำแนะนำเกี่ยวกับกลยุทธ์ทางธุรกิจ การเจาะลึกในการจัดหาลูกค้า การเติบโตทางธุรกิจของลูกค้า และความเป็นผู้นำทางความคิดอีกด้วย
คณะกรรมการเงา Vero Vox Council มีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นตัวแทนสมาชิกภายในองค์กรของวีโร่ โดยคำนึงถึงหลากหลายปัจจัยซึ่งล้วนมีอิทธิพลต่อการเลือกสมาชิกของคณะกรรมการเงา เช่น สถานที่ตั้งของสำนักงานวีโร่ อัตลักษณ์ทางเพศของสมาชิก และกลุ่มอายุของสมาชิก เพื่อช่วยให้สมาชิกที่เปรียบเสมือนเสียงส่วนน้อยภายในองค์กรได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นในการตัดสินใจของผู้บริหารมากขึ้น
นายวู ควน หงวน มาส (Vu-Quan Nguyen-Masse) รองประธานฝ่ายวัฒนธรรมและแบรนด์ประจำภูมิภาคอาเซียนของวีโร่ กล่าวว่า "ที่วีโร่ เราทำงานร่วมกับลูกค้าที่มีมุมมองและภูมิหลังที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงจำเป็นที่เราต้องทำความเข้าใจและให้ความสำคัญกับมุมมองที่หลากหลายเหล่านี้ เพื่อส่งมอบงานที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า เราต้องรับฟังสมาชิก Gen Z ในทีมของเราให้มากที่สุด ซึ่งอาจจะต้องฟังมากกว่าสมาชิกในทีมที่มีอายุเยอะกว่าและมีประสบการณ์มากกว่าเสียดอีก เพราะเราเชื่อว่าคณะกรรมการเงาที่มีจำนวนสมาชิก Gen Z มากจะเป็นแนวทางที่ยอดเยี่ยมที่ทำให้ธุรกิจของเรายังคงอยู่ในระดับแนวหน้าในด้านความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมต่าง ๆ ได้นั่นเอง"
แนวคิดริเริ่มสำหรับคณะกรรมการเงาของวีโร่
คณะกรรมการเงา Vero Vox Council จะประชุมกันเป็นประจำเพื่อออกแบบโซลูชันที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมและการดูแลสุขภาพองค์รวม การดำเนินงานและการบริหารจัดการ ตลอดจนการเติบโตทางธุรกิจสำหรับทีมงานวีโร่ทุกคน ซึ่งประกอบด้วยที่ปรึกษาด้านการประชาสัมพันธ์ บริการด้านงานสร้างสรรค์ การตลาดดิจิทัล และการตลาดอินฟลูเอนเซอร์ กว่า 200 คน โดย 75 เปอร์เซ็นต์ของทีมงานวีโร่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี
ทั้งนี้ แคมเปญด้านวัฒนธรรมของวีโร่ได้รวมสิทธิการลาพักร้อนแบบไม่จำกัดสำหรับพนักงาน การขยายเวลาการลาคลอดและลาเพื่อเลี้ยงดูบุตร การฝึกอบรมภายใน รูปแบบการทำงานแบบไฮบริด ตลอดจนพื้นที่ภายในสำนักงานที่ได้รับการออบแบบมาเป็นพิเศษเพื่อการทำงานของสมาชิกวีโร่ โดยทั้งหมดนี้ประกอบกันเป็นสำนักงานขนาดใหญ่ทั่วทั้งภูมิภาค ซึ่งถูกเรียกว่า Super Campus รองประธานฝ่ายวัฒนธรรมและแบรนด์ของวีโร่ จะทำงานร่วมกับคณะกรรมการเงา Vero Vox Council เพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางและโครงการริเริ่มใหม่ ๆ รวมถึงวัดความสำเร็จของโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ไปพร้อมกัน
นางสาวสุปรียาภรณ์ สีหะวงษ์ ผู้จัดการฝ่ายบุคคล สำนักงานวีโร่กรุงเทพฯ กล่าวว่า "หนึ่งในเป้าหมายของเราคือการมอบประสบการณ์ระดับมืออาชีพที่ยอดเยี่ยมให้แก่สมาชิกในทีมของเรา คณะกรรมการเงาของเราไม่เพียงแต่มอบพื้นที่ที่ปลอดภัยในการรับฟังความคิดเห็นที่หลากหลายให้แก่สมาชิกวีโร่เท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้สมาชิกของคณะกรรมการเงาได้พัฒนาศักยภาพด้วยการมีส่วนแสดงความคิดเห็นและโน้มน้าวการตัดสินใจของผู้บริหารที่มีต่อทิศทางของการดำเนินธุรกิจของวีโร่ด้วย" นางสาวสุปรียาภรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "เราเคารพและให้คุณค่ากับความคิดเห็นและไอเดียของสมาชิกในทีมที่อายุน้อยกว่าเรา และคณะกรรมการเงาชุดนี้เป็นการแสดงออกถึงความมุ่งมั่นและการให้ความสำคัญที่วีโร่มีต่อพวกเขา"
ซาสช่า อัลวานี รองประธานฝ่ายการเติบโตทางธุรกิจของวีโร่ กล่าวว่า "เราดำเนินงานในอุตสาหกรรมที่ยังมีความสดใหม่ที่เต็มไปด้วยคนทำงานที่มีความคิดสร้างสรรค์ และคนรุ่นใหม่ที่รู้ตัวดีว่าพวกเขาต้องการอะไรในบริบทที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา และการเปลี่ยนแปลงนี้เองเป็นสิ่งที่กลุ่มคนรุ่นพวกเขาคุ้นเคยเป็นอย่างมาก ทำให้พวกเขาสามารถแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกและคำปรึกษาที่ประเมินค่ามิได้ให้กับกลุ่มลูกค้าที่เพิ่มขึ้นของเรา และเนื่องจากองค์กรและวัฒนธรรมองค์กรของวีโร่ก่อตั้งอยู่บนหลักการสำคัญของความไว้วางใจ เราจึงวางใจให้คณะกรรมการเงารุ่นเยาว์มีส่วนร่วมในการตัดสินใจต่าง ๆ ในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงระดับสูงสุด"
การเล็งเห็นคุณค่าความสำคัญของคณะกรรมการเงามากขึ้น
ด้วยรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไป คณะกรรมการเงาได้ถูกแนะนำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยบทความของ The Harvard Review ปี 2562 ได้ทำการศึกษาเปรียบเทียบวิธีการจัดตั้งคณะกรรมการเงาของแบรนด์แฟชั่น Gucci และ Prada
ตามรายงานในบทความในปี 2558 แบรนด์ Gucci ได้จัดตั้งคณะกรรมการเงาที่มีพนักงานที่อายุน้อยให้ทำงานร่วมกับคณะกรรมการบริหารของแบรนด์ และช่วยให้แบรนด์ริเริ่มใช้กลยุทธ์ที่นำไปสู่การเติบโตสูงถึง 136 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 4 ปีต่อมา ในทางกลับกัน แบรนด์ Prada นั้นไม่ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเงาในช่วงเวลาดังกล่าว และพวกเขาต้องประสบกับผลประกอบการที่ต่ำลงถึง 11.5 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเวลาเดียวกัน โดยบทความนี้ยังได้กล่าวถึงธุรกิจอีก 3 ธุรกิจที่ได้รับความก้าวหน้าในเชิงธุรกิจจากการทำงานของคณะกรรมการเงาอีกด้วย
คลอเดีย กราเซียลา ปูซุง Account Executive ของวีโร่ กล่าวว่า "คณะกรรมการเงาช่วยเน้นย้ำให้เห็นถึงความจำเป็นในการคิดค้นกลยุทธ์ทางธุรกิจและกระบวนการใหม่ ๆ พร้อมทั้งให้พื้นที่ในการแสดงความคิดเห็นกับสมาชิกในทีมที่รู้สึกว่าคุณค่าความสามารถของตนไม่ได้รับการเล็งเห็นเท่าที่ควรหรือไม่เคยได้รับการรับฟังมาก่อน การจัดตั้งคณะกรรมการเงาจึงเป็นวิธีที่ดีมากในการเปิดโอกาสให้กับสมาชิกรุ่นน้องในทีมได้แสดงความคิดเห็น สร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก และเรียนรู้ประสบการณ์ระดับผู้บริหารในการกำหนดทิศทางของบริษัทไปด้วยกัน"
สามารถรับชมวิดีโอแนะนำคณะกรรมการเงา Vox Council ชุดใหม่ของวีโร่ได้ที่ Meet Vero's Vox Council
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit