Shark Tank Thailand ซีซั่น 3 รายการเรียลลิตี้ทางธุรกิจระดับโลก ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อย เอสเอ็มอี และสตาร์ทอัพ ได้ร่วมทุนกับนักธุรกิจระดับหมื่นล้านของประเทศไทย หรือที่เรียกว่า ชาร์คนักลงทุน 5 ราย
นำโดย "ชาร์คเต้-ภูริต ภิรมย์ภักดี" ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง จาก บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด หรือแบรนด์ "สิงห์" ที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 89 ปี, "ชาร์คกฤษน์ ศรีชวาลา" เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศ ผู้ก่อตั้งอาณาจักร Fico Group, "ชาร์คหมู-ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์" นักธุรกิจหนุ่มที่โด่งดังในด้าน Tech Start-up ผู้ก่อตั้งแอปพลิเคชั่นชื่อดัง Ookbee, "ชาร์คจิง-ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ" ชาร์คหญิงหนึ่งเดียวในรายการ รองประธานกรรมการ บริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด และชาร์คประพล-ประพล มิลินทจินดา ผู้บริหาร พีเพิล พาร์ค อ่อนนุช นับเป็นการร่วมพลของเหล่าชาร์ค ที่ต่างสร้างตำนานธุรกิจอย่างยิ่งใหญ่ในประเทศไทย โดยในการออกอากาศ EP3 มีหลากหลายธุรกิจชักชวนให้ชาร์คเข้ามาร่วมลงทุนและถือหุ้น ได้แก่ ธุรกิจร้านขายยา ธุรกิจเครื่องดื่มจากน้ำหัวปลี ธุรกิจร้านซักผ้าและอบผ้าและธุรกิจ AI ปัญญาประดิษฐ์แนะนำการดูแลสุขภาพส่วนบุคคล โดยเฉพาะคนที่เป็นโรค NCDs ซึ่งมีทั้งธุรกิจที่ได้รับการลงทุน และธุรกิจที่ไม่สามารถดีลได้สำเร็จ แต่ผู้ประกอบการจะได้รับโอกาสครั้งสำคัญจากชาร์ค ร่วมให้คำแนะนำแนวทางการสร้างแบรนด์ให้โดนใจตลาด และการสร้างธุรกิจให้เติบโตสู่ต่างประเทศ
"ชาร์คเต้-ภูริต ภิรมย์ภักดี" ผู้บริหารจาก บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ได้ให้คำแนะนำการทำตลาดสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายใหม่ว่า ผู้ประกอบการต้องวางกลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์สินค้าให้มีแข็งแกร่ง ด้วยการ 1. การตั้งชื่อแบรนด์ที่ต้องสื่อความหมายให้ชัด เพื่อสร้างการจดจำและภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่กลุ่มลูกค้า ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ 2. การสำรวจตลาด ทั้งมูลค่า กลุ่มลูกค้า และการเติบโต และ 3. ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ต้องการขยายธุรกิจด้วยการหานักลงทุนเข้ามาร่วมถือหุ้น จะต้องทำแผนธุรกิจให้ชัดเจนและประเมินถึงโอกาสในอนาคต เพราะหากตลาดมีขนาดเล็กหรือมีกลุ่มเป้าหมายไม่ชัดเจน จะไม่ดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาถือหุ้น
"ชาร์คกฤษน์ ศรีชวาลา" เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศ ผู้ก่อตั้งอาณาจักร Fico Group กล่าวย้ำกับการสร้างแบรนด์ของเอสเอ็มอีไทยว่า ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยที่ต้องการสร้างแบรนด์สู่ตลาดต่างประเทศ จะต้องสร้างการรับรู้ของแบรนด์ (Brand awareness) ที่ดีสู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทั้งการตั้งชื่อให้มีความหมายที่ทุกคนสามารถเข้าใจได้ แต่หากหากเลือกใช้ภาษาไทยและเป็นชื่อเฉพาะ จะมีผลต่อการจดจำของลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติ และไม่กระตุ้นความสนใจของนักลงทุนเข้ามาร่วมลงทุน รวมถึงการทำแผนธุรกิจต้องครบถ้วน สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้และมีการวางเป้าหมายธุรกิจในระยะยาว
"ชาร์คประพล-ประพล มิลินทจินดา" ผู้บริหาร พีเพิล พาร์ค อ่อนนุช กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ได้นำวัตถุดิบทางการเกษตรของไทยมาเป็นส่วนผสมและต้องการเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม ควรทำวิจัยในเชิงลึกกับคุณสมบัติของสินค้า เพื่อร่วมตอกย้ำมาตรฐานของของสินค้าที่มีความแตกต่างและมีความโดดเด่น จะช่วยสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้า และสร้างโอกาสต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในอนาคต
ขณะที่ "ชาร์คหมู-ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์" ผู้ก่อตั้งแอปพลิเคชั่นชื่อดัง Ookbee และ "ชาร์คจิง-ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ" รองประธานกรรมการ บริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด เน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำแผนธุรกิจสำหรับเอสเอ็มอีที่ต้องการหานักลงทุนเข้ามาร่วมหุ้น ต้องทำแผนธุรกิจให้ชัดเจน ทั้งแผนการลงทุน แผนขยายธุรกิจ และระยะเวลาในการคืนทุน รวมถึงแผนตลาด ที่มีการประเมินมูลค่าตลาดรวม กลุ่มเป้าหมายและการเติบโต พร้อมมีการรายงานผลประกอบการ ต้องชี้แจงทั้งรายได้และผลกำไร เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน สำหรับเจ้าของธุรกิจ ควรแสดงถึงความตั้งใจจริงและความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ จะช่วยดึงดูดให้นักลงทุนอยากเข้ามาถือหุ้น
มาร่วมติดตาม กลยุทธ์ทางธุรกิจแบบจัดเต็มจาก ชาร์คนักธุรกิจระดับหมื่นล้าน พร้อมร่วมติดตาม การเฟ้นหาไอเดียทางธุรกิจและร่วมลุ้นว่าใครจะ "ดีล" ใน "Shark Tank Thailand ซีซั่น 3" ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 13.30 ทางช่อง 7HD กด 35
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมของรายการ Shark Tank Thailand ได้ที่
Website : https://www.sharktankthailand.com
Youtube : https://www.youtube.com/c/MEDIAtank
Facebook : https://www.facebook.com/sharktankTH
Instagram : https://www.instagram.com/sharktankthailand/
TikTok : https://www.tiktok.com/@sharktankthailand
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit