"ไทรอยด์ (Thyroid Gland)" เป็นต่อมไร้ท่อใหญ่ที่สุดในร่างกาย มีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ และหลั่งเข้าสู่กระแสเลือดเพื่อไปทำหน้าที่ตามอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายภายใต้การควบคุมของต่อมใต้สมองและต่อมไฮโปธาลามัส ซึ่งการสร้างฮอร์โมนไทรอยด์นั้นจำเป็นต้องใช้ไอโอดีนเป็นส่วนประกอบ หากได้รับไอโอดีนมากหรือน้อยเกินไปก็อาจทำให้การทำงานผิดปกติและส่งผลกระทบต่ออวัยวะแทบทุกระบบในร่างกาย
และหากจะกล่าวถึงโรคไทรอยด์ต่าง ๆ โดยส่วนใหญ่แล้วมักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ประมาณ 5-10 เท่า ไม่ว่าจะเป็น โรคไทรอยด์เป็นพิษ โรคไทรอยด์ต่ำ โรคเนื้องอกไทรอยด์ และโรคมะเร็งไทรอยด์ โดยโรคมะเร็งไทรอยด์นั้นถือว่าเป็นมะเร็งที่มีความเสี่ยงไม่ต่างจากมะเร็งชนิดอื่น ๆ แต่ก็มีโอกาสการรอดชีวิตสูงมากกว่า 90% หากได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันท่วงที โดยส่วนมากผู้ป่วยโรคมะเร็งไทรอยด์นั้น จะเริ่มต้นจากการมีก้อนที่คอก่อน ซึ่งความสำคัญคือ คนไข้จะไม่มีอาการแสดงใด ๆ เลย จนกว่ามะเร็งไทรอยด์จะมีการลุกลามไปยังเส้นประสาทเสียง ก่อให้เกิดภาวะเสียงแหบ หรือมีการกดเบียดหลอดลม ทำให้เกิดการหายใจลำบาก หรือมีการกดเบียดหลอดอาหาร ทำให้เกิดอาการกลืนลำบาก เป็นต้น การที่คนไข้ไม่มีอาการ ทำให้เราวินิจฉัยคนไข้ที่เป็นมะเร็งไทรอยด์ได้ยาก ต้องรอจนคนไข้มีก้อนขนาดใหญ่โตออกมาจนเห็นได้ชัดเจน ยกเว้นคนไข้มีการตรวจสุขภาพประจำปีด้วยการทำอัลตร้าซาวด์คอ จะทำให้สามารถพบเจอมะเร็งไทรอยด์ได้ในระยะเริ่มต้น
ดังนั้นการสังเกตความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญของเราที่ไม่อาจมองข้าม จึงต้องหมั่นตรวจเช็คอาการป่วยที่ตัวเองเป็น รวมถึงตรวจสุขภาพประจำปี ซี่งหากพบว่ามีอาการที่สุ่มเสี่ยงจะเป็นโรคไทรอยด์ชนิดใดก็ตาม เช่น มีก้อนเนื้องอกที่คอ คอโตจนมีคนทัก มีภาวะเหนื่อยง่าย ใจสั่น คอโต ตาโปน ไม่มีแรง มีอาการอึดอัดคอ กลืนติด หรือหายใจลำบาก ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษา เพื่อให้ได้รับการรักษาที่รวดเร็ว นำมาซี่งผลการรักษาที่ดีในระยะยาวต่อไป
ความผิดปกติของไทรอยด์ สามารถแบ่งได้เป็น 3 ชนิด ดังนี้คือ 1. ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน (Hyperthyroidism) หรือภาวะไทรอยด์เป็นพิษ, 2. ภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมน (Hypothyroidism) หรือที่เรียกกันว่า "ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์" และ 3. โรคเนื้องอกของต่อมไทรอยด์ ซึ่งผลการตรวจเลือดจะพบว่าปกติ แต่มีก้อนเนื้องอกซ่อนอยู่ในต่อมไทรอยด์ โดยแพทย์จะเป็นผู้ตรวจวินิจฉัยความผิดปกติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย
สำหรับการรักษาโรคฮอร์โมนไทรอยด์ผิดปกติไม่ว่าจะฮอร์โมนสูงเกิน หรือภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์ ตามปกติเราจะเริ่มรักษาด้วยยาก่อน แต่ถ้าการรักษาด้วยยามีแนวโน้มที่จะไม่ตอบสนอง หรือคนไข้มีภาวะแพ้ยา ทานยาไม่ได้ การกลืนแร่ไอโอดีนในคนไข้ไทรอยด์เป็นพิษก็จะเป็นคำตอบ แต่คนไข้ในบางกรณี ก็ไม่สามารถที่จะรักษาด้วยการทานยา หรือกลืนแร่ได้ เพราะฉะนั้นคนไข้บางรายจึงจำเป็นจะต้องอาศัยการผ่าตัดรักษา เช่น คนไข้โรคไทรอยด์เป็นพิษที่มีต่อมขนาดใหญ่มาก ไม่ตอบสนองต่อยา ตาโปนรุนแรง ก้อนไทรอยด์ใหญ่กดเบียดหลอดอาหารและหลอดลม หรือ คนไข้ที่เป็นโรคไทรอยด์ต่ำ แต่ว่ามีภาวะคอโต และมีก้อนสงสัยมะเร็งแอบซ่อนอยู่ในต่อมไทรอยด์ เป็นต้น
สำหรับการผ่าตัดรักษาโรคไทรอยด์ ถือว่าเป็นอีกหนี่งวิธีการรักษาที่ได้ประสิทธิภาพสูง เช่นกรณีที่คนไข้เป็นไทรอยด์เป็นพิษ การผ่าตัดโดยการตัดต่อมไทรอยด์ออกทั้งหมด ถือว่าคนไข้มีโอกาสหายขาดจากโรคไทรอยด์เป็นพิษได้ถึง 99% หรือภาวะมะเร็งไทรอยด์ การผ่าตัดรักษาก็จะเป็นการกำจัดโรค และยังป้องกันภาวะมะเร็งแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลือง หรืออวัยวะอื่น ๆ อีกด้วย
ปัจจุบันการผ่าตัดไทรอยด์ แบ่งออกได้เป็นสองประเภท ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย คือ การผ่าตัดไทรอยด์แบบเปิด (open thyroidectomy) และการผ่าตัดแบบส่องกล้อง (endoscopic thyroidectomy) กล่าวคือ สำหรับการผ่าตัดไทรอยด์แบบเปิด เป็นการผ่าตัดที่สามารถผ่าโรคไทรอยด์ได้ทุกชนิด โดยไม่ได้มีข้อจำกัดเรื่องขนาด ว่าจะใหญ่แค่ไหน และยังสามารถผ่าตัดในคนไข้ที่มีภาวะต่อมน้ำเหลืองแพร่กระจายไปที่คอแล้วอีกด้วย แต่ว่าข้อเสียเพียงอย่างเดียวของการผ่าตัดไทรอยด์แบบเปิด คือ คนไข้จะมีแผลเป็นที่บริเวณกลางลำคอ ซึ่งคนไข้ส่วนใหญ่ที่เป็นโรคไทรอยด์ ส่วนมากเป็นผู้หญิง และการที่คนไข้มีแผลผ่าตัดที่กลางคอ อาจจะทำให้คนไข้มีความไม่มั่นใจ ในการใช้ชีวิตประจำวัน แม้ว่าจะรักษาแผลเป็นให้ดี อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีแผลอยู่ดี เพราะฉะนั้นการผ่าตัดไทรอยด์แบบส่องกล้อง จึงเป็นเทคนิคที่ถูกพัฒนาขึ้นมา เพื่อให้คนไข้ไม่มีแผลเป็นที่กลางคอ โดยการที่เปลี่ยนแผลผ่าตัดจากบริเวณหน้าคอ ไปยังบริเวณลานเต้านม หลังหู รักแร้ หรือวิธีใหม่ที่สุด คือ ผ่าตัดไทรอยด์แบบส่องกล้องทางช่องปาก ที่ไม่มีแผลเป็นภายนอกเลย ช่วยสร้างความมั่นใจในการผ่าตัดไทรอยด์ให้คนไข้ในปัจจุบัน
การผ่าตัดไทรอยด์แบบส่องกล้องทางรักแร้ เป็นวิธีการผ่าตัดแบบส่องกล้องที่มีการซ่อนแผลผ่าตัดไว้บริเวณรักแร้ และมีการใช้กรรไกรที่ใช้คลื่นเสียงที่สามารถห้ามเลือดไปในตัวได้ ทำให้การผ่าตัดเป็นได้อย่างราบรื่น คนไข้เสียเลือดน้อย การบาดเจ็บที่เนื้อเยื่อน้อย ทำให้เจ็บแผลน้อยมากและผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็ว คนไข้จะสามารถซ่อนรอยแผลผ่าตัดไว้ใต้รักแร้ ทำให้คนอื่น ไม่เห็นแผลผ่าตัด
การผ่าตัดไทรอยด์แบบส่องกล้องทางช่องปาก เป็นการผ่าตัดไทรอยด์ แบบส่องกล้อง วิธีใหม่ล่าสุด โดยถูกพัฒนามาเพื่อให้คนไข้ไม่มีแผลเป็นที่กลางคอ รวมถึงไม่มีแผลภายนอก ทำให้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่ต้องระวังแผลภายนอกโดนน้ำ ซึ่งการผ่าตัดไทรอยด์แบบส่องกล้องทางช่องปาก ซึ่งมีคุณสมบัติเด่น คือ
สำหรับการรักษาด้วยการผ่าตัดไทรอยด์แบบส่องกล้องทางช่องปาก ต้องยอมรับตามจริงว่า ไม่สามารถที่จะผ่าตัดในคนไข้ไทรอยด์ได้ทุกสภาวะเหมือนกับการผ่าตัดไทรอยด์แบบเปิด ซึ่งการผ่าตัดไทรอยด์แบบส่องกล้องทางช่องปาก จะเหมาะกับผู้ป่วยที่มีคุณสมบัติดังนี้
ทั้งนี้ ผู้ป่วยควรปรึกษาศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านไทรอยด์ เพื่อให้การผ่าตัดออกมาได้ประสิทธิภาพสูงสุด
วิธีการตรวจเช็คคัดกรองโรคเบื้องต้น เพื่อนำไปสู่การป้องกันหรือรักษาความเจ็บป่วยได้แต่เนิ่น ๆ และทำให้ประหยัดค่ารักษาในระยะยาว สามารถทำได้หลายช่องทาง ดังนี้
ปัจจุบันมีผู้ป่วยเป็นโรคไทรอยด์โดยที่ไม่รู้ตัวอยู่ในตัวเลขที่ค่อนข้างสูง และมักจะพบว่าคนไข้เพิ่งทราบว่าเป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษ โรคพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ หรือเนื้องอกในต่อมไทรอยด์ จากการตรวจสุขภาพประจำปีด้วยการเจาะเลือด และการทำอัลตร้าซาวด์คอ ดังนั้นการตรวจสุขภาพประจำปีจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่ไม่อาจมองข้าม และควรทำการรักษาทันทีอย่ารอจนทุกอย่างสายเกินแก้
ขอบคุณข้อมูลจาก ศูนย์ไทรอยด์และผ่าตัดไทรอยด์แบบครบวงจร โรงพยาบาลพระรามเก้า ท่านสามารถรับความรู้ที่เป็นประโยชน์จากบทความสุขภาพได้ที่: www.praram9.com/thyroid-surgery/
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit