อินเวสทรีเผยธุรกิจแพลตฟอร์มคราวด์ฟันดิงเติบโตต่อเนื่อง คาด SME ใช้แพลตฟอร์มออกหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงได้ตามเป้าสิ้นปี 1,000 ล้านบาท พร้อมเปิดระดมทุน Serie A เพิ่มศักยภาพแพลตฟอร์มสำหรับลูกค้ากลุ่ม SMEs และนักลงทุน ชูคราวด์ฟันดิงเป็นทางเลือกเพิ่มจากสินเชื่อ SME ในช่วงสภาพคล่องฝืด รายได้หด จากการชำระค่าสินค้าและบริการที่ช้าลง
นางสาว ณัทสุดา พุกกะณะสุต ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเวสทรี ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 (ม.ค. - มิ.ย. 2565) เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมีจำนวน SMEs ที่ออกหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงกับบริษัทฯ เพิ่มขึ้น 28 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่าหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงที่ระดมทุนสำเร็จแล้วกว่า 500 ล้านบาท นับตั้งแต่ได้รับใบอนุญาตแพลตฟอร์มคราวด์ฟันดิง จากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ขณะที่มูลค่าหุ้นกู้ที่ระดมทุนสำเร็จต่อเดือน เติบโตขึ้น 10 เท่า เมื่อเทียบระหว่างช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ กับไตรมาส 2 ของปี 2564
ทั้งนี้ ส่วนแบ่งตลาด (Market share) ของอินเวสทรีในตลาดคราวด์ฟันดิง ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 20% ของมูลค่าตลาดคราวด์ฟันดิงรวม 1,500 ล้านบาท และ 40% ของจำนวนบริษัททั้งหมดที่ออกหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงในประเทศไทย
นางสาว ณัทสุดา กล่าวว่า การตอบรับของฝั่งนักลงทุนบนแพลตฟอร์มดีเกินความคาดหมาย ตัวเลขนักลงทุนที่เติบโตแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในคุณภาพหุ้นกู้ รวมถึงความรอบคอบในการวิเคราะห์ความเสี่ยง การทำงานของทีมงาน และความง่ายในการใช้แพลตฟอร์ม ปัจจุบันหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงของอินเวสทรีให้ผลตอบแทนโดยฉลี่ยอยู่ที่ 11.5%
"กลยุทธ์ของอินเวสทรี ไม่ใช่การถือครองมาร์เก็ตแชร์ แต่เป็นการขยายการเข้าถึงธุรกิจ SME ที่ยังประสบปัญหาเรื่องสภาพคล่องและยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้" นางสาว ณัทสุดากล่าว
ตามที่บรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ (International Finance Corporation: IFC) ของธนาคารโลกได้ประเมินไว้ เมื่อปี 2017 ระบุว่า SME Financial Gap ของประเทศไทยอยู่ที่ราว 4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.5 ล้านล้านบาท เมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงของประเทศไทย ณ ปัจจุบัน ดังนั้นจึงมีช่องว่างอีกมาก ที่ SME ไทยยังเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน
ขณะที่ผู้ประกอบการ SME ถือว่ามีความสำคัญต่อระบบเศรษกิจไทย โดยในปี 2564 SME มีสัดส่วนในการจ้างงานภาคธุรกิจกว่า 70% และเป็นสัดส่วน 35% ของ GDP ไทย หรือมีมูลค่ากว่า 1.5 ล้านล้านบาท (ข้อมูล ณ เดือนพ.ค. 2565)
นายวรกร สิริจินดา ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กล่าวเสริมว่า การเติบโตอย่างต่อเนื่องของคราวด์ฟันดิงและ SME Financial Gap ทำให้เรามั่นใจว่ายังมี SME อีกจำนวนมากที่รอเราอยู่ โดยบริษัทมีแผนเปิดระดมทุนรอบ Serie A โดยอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเงินทุนดังกล่าว จะเข้ามาช่วยพัฒนาแพลตฟอร์มคราวด์ฟันดิงของอินเวสทรีให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้เป็น Go-To Platform สำหรับ SME ที่ต้องการระดมทุน และ สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนและได้ผลตอบแทนที่ดี และมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไปพร้อม ๆ กัน
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนการขยายพื้นที่ให้บริการให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้นเพื่อช่วย SME ที่กำลังเผชิญกับปัญหาสภาพคล่อง และ เสริมสร้างพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต
"อินเวสทรีต้องการเติบโตอย่างมีคุณภาพและมีเสถียรภาพ เราจึงมุ่งสร้าง Ecosystem ของเราให้พร้อมที่สุด เพื่อรองรับการเป็นแพลตฟอร์มหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงเพื่อ SMEs และนักลงทุน หากคิดถึงคราวด์ฟันดิง ให้คิดถึง investree.co.th" นางสาวณัทสุดา กล่าว.
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit