บมจ.โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ ("IMH") ได้รับเลือกเป็นโรงพยาบาล ให้บริการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม สำหรับเด็กอายุ 6 ปีขึ้นไป ของทางราชวิทยาลัยฯ เริ่มดีเดย์ 7 ก.พ. นี้ เป็นต้นไป พร้อมตั้งเป้าฉีดกว่า 100,000 โดส ในปีนี้
ดร. สิทธิวัตน์ กำกัดวงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ จำกัด (มหาชน) หรือ "IMH" เปิดเผยว่า โรงพยาบาล อินเตอร์เมดฯ (IMH) ได้รับเลือกให้เป็น โรงพยาบาลที่เปิดให้บริการฉีดวัคซีนโควิดทางเลือกซิโนฟาร์ม สำหรับเด็กอายุ 6 ปีขึ้นไป ของทางราชวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สืบเนื่องจากทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้อนุมัติการใช้วัคซีนซิโนฟาร์ม ในเด็กอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป โดยไม่ต้องมีการปรับขนาดยาของวัคซีน ตามประกาศเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา สำหรับผู้ที่สนใจฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มเด็กอายุ 6 ปี ขึ้นไป สามารถติดต่อ โรงพยาบาล อินเตอร์เมดฯ (IMH) ได้ทาง IMH Line Official หรือ สายตรงการตลาด 063-226-6920
ทั้งนี้ ทางกลุ่ม "IMH" ได้ตั้งเป้าให้บริการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม สำหรับเด็กอายุ 6 ปี ขึ้นไป ให้เกินกว่า 100,000 โดส ในปี 2565 ซึ่งจะสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ ที่จะสนับสนุนให้มีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้ครอบคลุมทุกช่วงอายุของประชากร และ ได้ต่อยอดการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มในกลุ่มเด็กอายุ 6 ปีขึ้นไป จากฐานลูกค้าฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มช่วงอายุ 18 ปีขึ้นไป ฐานเดิมจากปี 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งทางกลุ่ม "IMH" ได้ให้บริการฉีดไปแล้ว มากกว่า 400,000 โดส
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IMH กล่าวทิ้งท้ายว่า จากการสบช่องทางโอกาสในการต่อยอดและขยายธุรกิจ ส่งผลให้ทางกลุ่ม IMH คาดว่า จะมีอัตราการเติบโตของรายได้รวมในปี2565 เกินระดับ 1,200 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการปรับตัวแตะระดับสูงสุด(นิวไฮ) ที่วางไว้ นอกจากนี้ยังสามารถบริหารต้นทุนรวมให้ต่ำลงได้มากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา จากการ synergy ระหว่าง บริษัทในกลุ่ม IMH ซึ่งยังไม่รวมดีลขยายธุรกิจโรงพยาบาลที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน ช่วงไตรมาส 1/2565 นี้อย่างแน่นอน
ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินว่า ด้วยการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ฝ่ายวิจัยได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี2565ของ IMH จากเดิม 139% เป็น 458 ล้านบาท ( +5% YOY) สำหรับสาเหตุการปรับสมมติฐานรายได้ที่เพิ่มขึ้น 75% เนื่องจากIMH มีรายได้จากการให้บริการโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีการเปิดศูนย์การแพทย์เฉพาะทางรักษาโรคผู้ป่วยหลังโควิด อาทิ โรคปอดติดเชื้อ และโรคทางเดินหายใจ ประกอบกับธุรกิจหลักด้านการให้บริการตรวจสุขภาพจะเติบโตเพิ่มสูงกว่าปกติ เนื่องจากคนไข้หันมาให้ความสำคัญด้านสุขภาพมากขึ้น และ IMH ได้รับผลบวกเต็มปีจากการรวมรายได้ จากรพ.ประชาพัฒน์
อย่างไรก็ตาม จากการที่ IMH ได้รับอานิสงส์ จากการตรวจและรักษาโควิด รวมถึงผลจากการควบรวมกิจการ (M&A) ทั้งนี้ ยังไม่รวม upside จากการขยายกิจการโรงพยาบาล และการนำโรงพยาบาล ประชาพัฒน์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ช่วงปลายปี 2565 ซึ่งจะส่งผลให้ผลประกอบการเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ จึงแนะนำซื้อ โดยให้ราคาเหมาะสม 28 บาท
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit