รายงานแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์เอเชียแปซิฟิกปี 2565 ของซีบีอาร์อี บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับโลก เผยว่า ปี 2565 จะเป็นปีที่การลงทุนอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ในเอเชียแปซิฟิกจะสร้างสถิติใหม่ อันเป็นผลมาจากการที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างสม่ำเสมอและความต้องการสะสมของนักลงทุน
ซีบีอาร์อีคาดว่าปริมาณการลงทุนทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นในปีนี้จะเติบโตขึ้นอย่างน้อย 5% ไปอยู่ในระดับที่มากกว่า 4.95 ล้านล้านบาท (1.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งสูงกว่าจุดสูงสุดก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ 4.68 ล้านล้านบาท (1.42 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ธุรกรรมการลงทุนที่แข็งแกร่งจากกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) และนักลงทุนสถาบัน ซึ่งรวมถึงนักลงทุนที่หยุดการซื้อกิจการไปชั่วคราวในช่วงที่มีการแพร่ระบาดในปี 2563 คาดว่าจะเป็นปัจจัยช่วยให้เกิดการฟื้นตัว นอกจากนี้ยังเป็นที่คาดการณ์ว่าสถาบันต่าง ๆ ในภูมิภาคจะมีเงินทุนสูงถึง 16.5 ล้านล้านบาท (5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในงบดุลที่รอการนำออกมาใช้
"สินทรัพย์ด้านโลจิสติกส์ยังคงเป็นที่ต้องการของนักลงทุนในปี 2565 และคาดว่าพื้นที่สำนักงานระดับพรีเมียมที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้เช่าในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตจะได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับการกลับเข้ามาทำงานในสำนักงานและข้อกำหนดของผู้เช่าที่ต้องการให้เป็นไปตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ถึงแม้ความต้องการลงทุนในพื้นที่ค้าปลีกและโรงแรมจะได้รับผลกระทบในระยะสั้นจากการเกิดไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน แต่ตลาดเหล่านี้จะยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนที่เน้นคุณค่า (VI) ซึ่งวางกลยุทธ์ของตนเองเพื่อรอการฟื้นตัว" นายเกร็ก ไฮแลนด์ หัวหน้าฝ่ายตลาดทุนในเอเชีย แปซิฟิกของซีบีอาร์อี กล่าว
ตลาดพื้นที่สำนักงาน
อาคารสำนักงานส่วนมากในเอเชียแปซิฟิกได้กลับมาเปิดทำการหรืออยู่ในระหว่างการเปิดรับพนักงานกลับสู่การทำงานในสำนักงานอีกครั้ง โดยมีแนวโน้มว่าไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนจะไม่สามารถขัดขวางการฟื้นตัวของความต้องการพื้นที่สำนักงานที่จะเกิดขึ้นได้ เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ มีความมั่นใจมากขึ้นในการกลับมาทำงานที่สำนักงานและทำงานแบบไฮบริด ปฎิกิริยาในช่วงแรกของบริษัทในแถบเอเชียเหนือชี้ให้เห็นว่าบริษัทส่วนใหญ่จะยังคงทำงานในสำนักงานต่อไปแม้ว่าจะมีการจำกัดจำนวนพนักงานหรือการหมุนเวียนทีมที่เข้ามาทำงานในสำนักงาน
ซีบีอาร์อีคาดว่าธุรกรรมการเช่าพื้นที่สำนักงานในปี 2565 หากพิจารณาจากปริมาณการใช้พื้นที่สำนักงานที่เพิ่มขึ้นสุทธิในแต่ละปีนั้นจะเพิ่มขึ้นสูงสุด 10% ต่อปี ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการขยายพื้นที่ที่กลับคืนมาอีกครั้ง ด้านค่าเช่าพื้นที่สำนักงานระดับเกรดเอคาดว่าจะเติบโตประมาณ 1.0% ในปี 2565 โดยในสิงคโปร์เป็นตลาดที่ปรับขึ้นสูงสุด โดยปรับขึ้นมากกว่า 10% การที่บริษัทต่าง ๆ ต้องการย้ายไปสู่พื้นที่สำนักงานที่มีคุณภาพดีขึ้น ใหม่ขึ้น และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าเดิมคาดว่าจะช่วยให้ตลาดพื้นที่สำนักงานในเอเชียแปซิฟิกฟื้นตัวจากค่าเช่าที่อยู่ในวัฎจักรขาลงที่ยาวนานที่สุดในรอบ 20 ปี
ตลาดพื้นที่โลจิสติกส์
ปีนี้น่าจะเป็นอีกปีที่ดีสำหรับตลาดพื้นที่อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ในเอเชียแปซิฟิก เป็นผลจากแนวโน้มที่ดีของเศรษฐกิจในภูมิภาคและการค้าทั่วโลกที่ปรับตัวดีขึ้น สำหรับค่าเช่าพื้นที่โลจิสติกส์คาดว่าจะเติบโตขึ้นเป็นปีที่ 12 ติดต่อกันในทุกเมืองหลัก นำโดยฮ่องกง ซึ่งคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการเติบโตทางการค้าเมื่อมีการเปิดพรมแดนกับจีนแผ่นดินใหญ่อีกครั้ง รวมถึงซัพพลายที่มีอยู่นั้นลดลง ซีบีอาร์อีคาดว่าแรงกดดันด้านซัพพลายจะเกิดขึ้นในระดับที่ไม่เท่ากันในภูมิภาค มหานครโตเกียวและกวางโจวจะมีซัพพลายใหม่ที่คาดว่าจะเข้าสู่ตลาดมากที่สุดในปีนี้
ตลาดพื้นที่ค้าปลีก
การเกิดไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนในช่วงสิ้นปี 2565 ได้เพิ่มความไม่แน่นอนให้กับตลาดค้าปลีก ก่อนหน้านั้น จำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในพื้นที่ค้าปลีกทั่วทั้งภูมิภาคเกือบจะฟื้นตัวเต็มที่จนถึงระดับก่อนเกิดโรคระบาด สะท้อนให้เห็นถึงอัตราการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้นและการผ่อนคลายมาตรการที่จำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซีบีอาร์อียังคงมองแนวโน้มตลาดในเชิงบวกสำหรับปี 2565 เนื่องจากมีหลายตลาดที่กลับมาเติบโตอีกครั้งแม้ว่าการฟื้นตัวของตลาดค้าปลีกที่มุ่งเน้นนักท่องเที่ยวจะชะลอออกไปก็ตาม ค่าเช่าพื้นที่ค้าปลีกในภูมิภาคเป็นที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตเพียงเล็กน้อย พร้อมกับมีความต้องการพื้นที่ค้าปลีกคุณภาพดีที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ชั้นนำในตลาดที่ผู้เช่าได้ประโยชน์
เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งจะผลักดันให้อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ฟื้นตัว
ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2564 โดยมากกว่าครึ่งของประชากรทั้งหมดได้รับวัคซีนครบแล้ว ถึงแม้ไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนจะทำให้เกิดความไม่แน่นอน แต่ซีบีอาร์อีเชื่อว่าจะไม่ทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิกหยุดชะงักในปี 2565
"ซีบีอาร์อีคาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมั่นคงและอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำจะช่วยให้เกิดการฟื้นตัวของอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ทั่วทั้งภูมิภาค การบริหารและการเพิ่มขีดความสามารถของสินทรัพย์โดยเน้นไปที่ ESG รวมถึงการปรับเปลี่ยนตำแหน่งทางการตลาดของอสังหาริมทรัพย์จะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนในปี 2565 ซึ่งขับเคลื่อนโดยอัตราผลตอบแทน (Yield Spread) ที่ลดลงและการให้ความสำคัญกับรายได้จากค่าเช่า" ดร. เฮนรี่ ชิน หัวหน้าฝ่าย Investor Thought Leadership ทั่วโลกและหัวหน้าแผนกวิจัย ซีบีอาร์อีในเอเชียแปซิฟิก
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit