แลนด์โรเวอร์ ดีเฟนเดอร์ (Land Rover Defender) จุดเริ่มต้นของรถยนต์ตระกูลขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีสมรรถนะสูงและทนทานที่สุดในโลก มาพร้อมกับระบบส่งกำลังแบบใหม่ ด้วยตัวเลือกที่มากขึ้นทำให้รถยนต์รุ่นนี้กลายเป็นที่ต้องตาต้องใจของลูกค้าในวงกว้าง
แลนด์โรเวอร์ ดีเฟนเดอร์ ปลั๊กอินไฮบริด ใหม่ (New Land Rover Defender Plug-In Hybrid) มอบขีดความสามารถในการเปลี่ยนแปลงที่หลากหลาย โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อกำหนดการผจญภัยครั้งใหม่ในศตวรรษที่ 22 ในขณะที่คงไว้ซึ่งจิตวิญญาณที่พร้อมฟันฝ่าทุกอุปสรรคอันเป็นจุดเด่นของแลนด์โรเวอร์มานานกว่า 70 ปี สำหรับรุ่นระบบไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) หรือ P400e นั้น คือสิ่งสำคัญในความน่าสนใจที่เพิ่มขึ้นของดีเฟนเดอร์ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินสี่สูบ 2.0 ลิตรที่ให้กำลังแรงถึง 300 แรงม้าพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 105 กิโลวัตต์ที่ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ 19.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง ทำให้รถยนต์รุ่น P400e มีขุมพลังรวมถึง 404 แรงม้าจากระบบส่งกำลัง PHEV ขั้นสูง ทำให้มีสมรรถนะและการตอบสนองที่ดีเยี่ยมด้วยพลังงานไฟฟ้า นอกเหนือจากการประหยัดเชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษแล้วนั้น ดีเฟนเดอร์ P400e ยังให้ความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 5.6 วินาที อีกทั้งบนเส้นทางขรุขระสามารถใช้แรงบิดทันทีจากมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยเพิ่มขีดความสามารถของดีเฟนเดอร์ขึ้นไปอีกขั้น
ดีเฟนเดอร์ระบบไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด P400e รุ่นใหม่นี้คือสิ่งสำคัญในการปรับปรุงดีเฟนเดอร์รุ่นล่าสุด ซึ่งมอบการผสมผสานระหว่างสมรรถนะและความประหยัด ในขณะที่ยังคงเป็นแลนด์โรเวอร์ที่ทนทานที่สุด ด้วยความสามารถที่ไม่มีใครเทียบได้และรูปทรงออฟโรดสำหรับรถยนต์ระบบไฮบริดไฟฟ้า 4x4 เต็มกำลัง ทำให้ P400e สามารถขับเคลื่อนในโหมด EV ต่ำได้อย่างเต็มที่ นำพามิติใหม่มาสู่การผจญภัยในโลกกว้าง
มาตรฐานของดีเฟนเดอร์ P400e ทุกรุ่นคือล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ระบบช่วงล่างถุงลมแบบอิเล็กทรอนิกส์ และพอร์ตชาร์จทางด้านซ้ายของตัวรถ ทั้งหมดมาพร้อมกับสายชาร์จ Mode 2 ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน สายชาร์จ Mode 2 จะใช้เวลาประมาณเจ็ดชั่วโมงในการชาร์จให้ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการชาร์จที่บ้านแบบข้ามคืน และด้วยการใช้ตัวชาร์จแบบชาร์จไวขนาด 50 กิโลวัตต์ทำให้รุ่น P400e ชาร์จได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ภายใน 30 นาที
ดีเฟนเดอร์ P400e แบบ 5 ที่นั่ง พร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิ 3 โซนแบบมาตรฐาน กระจกนิรภัย และกระจกลดทอนแสงอาทิตย์ เฉพาะรุ่น PHEV เท่านั้นที่มีการเบรคแบบจ่ายพลังงานคืน ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบทางเทคโนโลยีที่สำคัญในการบรรลุเป้าหมายในการประหยัดเชื้อเพลิงที่น่าประทับใจ การฟื้นฟูพลังงานที่สูญเสียไปจากการชะลอตัวและการเบรค และส่งพลังงานเหล่านั้นกลับเข้าไปในก้อนแบตเตอรี่
ระบบส่งกำลังของ PHEV ยังนำเสนอความสามารถในการขับขี่บนเส้นทางที่ขรุขระอย่างเหนือชั้น การส่งแรงบิดเชิงเส้นด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์เบนซินอย่างนุ่มนวลแต่ทรงพลัง เป็นไปอย่างราบรื่นควบคู่กับระบบขั้นสูงที่ทำให้ดีเฟนเดอร์เป็นแลนด์โรเวอร์ที่แข็งแกร่งและทนทานที่สุด ดีเฟนเดอร์ได้นำเสนอระดับความสามารถในการขับขี่บนเส้นทางที่ขรุขระในโหมดพลังงานไฟฟ้าแบบเต็มกำลัง ควบคู่ไปกับการนำเสนอรูปทรงออฟโรดที่เหนือกว่าสำหรับรถยนต์ระบบไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด เพื่อให้มั่นใจว่าความสามารถอันมหาศาลของดีเฟนเดอร์จะถูกใช้งานร่วมกันกับเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังทั้งหมด ลักษณะเหล่านี้ยังคงเป็นสิ่งสำคัญต่อความสามารถในการลากจูงของดีเฟนเดอร์ โดยในรุ่น P400e สามารถลากจูงได้มากถึง 3,000 กิโลกรัม และสามารถรับน้ำหนักบนหลังคาได้ถึง 168 กิโลกรัมระหว่างขับขี่ หรือ 300 กิโลกรัมเมื่ออยู่กับที่
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit