แนะสังเกตอาการผิดปกติเวลาออกกำลังกายและวิธีป้องกัน

15 Feb 2022

ยุคนี้ใครๆ ก็หันมาดูแลใส่ใจสุขภาพและออกกำลังกายกันมากขึ้น การออกกำลังกายเป็นประจำจะทำให้เรามีสุขภาพที่แข็งแรง ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ รวมถึงโรคหลอดเลือดหัวใจตีบได้ ในทางกลับกันการออกกำลังกายมากจนเกินไปหรือหักโหมเกินไปก็อาจจะก่อให้เกิดการบาดเจ็บได้

แนะสังเกตอาการผิดปกติเวลาออกกำลังกายและวิธีป้องกัน

ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องสังเกตตัวเองและเลือกประเภทกีฬาให้เหมาะสมกับอายุ น้ำหนัก หรือถ้ามีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนออกกำลังกาย เพราะเมื่อเกิดอาการบาดเจ็บ บางอาการเราสามารถดูรักษาได้ด้วยตัวเอง แต่อาการผิดปกติหรือสัญญาณเตือนบางอย่างหากเกิดขึ้นเราก็อาจจำเป็นต้องรีบไปพบแพทย์

อาการบาดเจ็บหรืออาการผิดปกติเหล่านี้อาจจะเกิดขึ้นได้ถ้าผู้ออกกำลังกายไม่ระมัดระวัง เช่น

  • เจ็บตามข้อเท้า ข้อเข่า หัวไหล่หลัง
  • ปวดหรือเจ็บกล้ามเนื้อเอ็นในจุดต่างๆ
  • หอบ เหนื่อย หายใจผิดปกติ
  • เจ็บ จุก หรือแน่นหน้าอก
  • เวียนศีรษะ หน้ามืด

อาการเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ในขณะที่เราออกกำลังกาย ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการเหล่านี้

แนะนำให้

  • ถ้ามีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจหรือหลอดเลือดหัวใจตีบ ควรปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกายก่อนที่จะออกกำลังกาย
  • ควรทดสอบสมรรถภาพทางกายเพื่อหาขีดจำกัดในการออกกำลังกาย
  • ก่อนออกกำลังกายให้ทำการอบอุ่นร่างกายและให้ยืดเหยียดกล้ามเนื้อเพื่อเตรียมพร้อมกับกิจกรรมที่จะทำ
  • ประเมินความพร้อมของร่างกาย สวมใส่เสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่จะออกกำลังกายและเลือกใส่รองเท้าที่เหมาะกับกิจกรรม
  • ไม่หักโหมออกกำลังกายหรือออกกำลังกายเกินขีดความสามารถของตัวเองและไม่ออกกำลังกายตามผู้อื่น
  • หมั่นฝึกซ้อมทักษะเฉพาะเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ทำเพื่อช่วยลดการบาดเจ็บ
  • หลังจากออกกำลังกาย อย่าหยุดออกกำลังกายในทันที ควรอบอุ่นร่างกายประมาณ 5-10 นาที จนกระทั่งชีพจรกลับคืนสู่สภาพปกติ และควรดื่มน้ำให้เพียงพอหลังออกกำลังกาย
  • ถ้ามีอาการหอบ เหนื่อย หายใจผิดปกติ หรือ เจ็บแน่นหน้าอกในขณะที่ออกกำลังกาย ให้หยุดออกกำลังกายทันทีและพัก ถ้าอาการไม่ดีขึ้นให้รีบไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด 

การออกกำลังกายที่ดีควรเป็นการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ทำเป็นครั้งคราวแต่หักโหม เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง แนะนำให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ30 นาที สัปดาห์ละ 3-4 ครั้งนอกจากจะเสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแรง ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บแล้ว ยังช่วยลดความเครียด ทำให้อารมณ์ดีได้อีกด้วยนะครับ...

ผศ.ดร.สิทธา พงษ์พิบูลย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การกีฬาการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจและปอดการออกกำลังกายเพื่อรักษาโรคโรงพยาบาลรามคำแหง