ECF โชว์ผลประกอบการปี 2564 รายได้รวม 1,600.80 ล้านบาท กำไรโต 23.54% บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลหุ้นละ 0.0157 บาท

25 Feb 2022

ECF เผยผลประกอบการปี 2564 รายได้ 1,600.80 ล้านบาท กำไรสุทธิ 50.85 ล้านบาท โต23.54% เล็งจ่ายปันผลหุ้นละ 0.0157 บาท กำหนดจ่ายวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 มองแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 1/65 สัญญาณดี ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ทั้งในประเทศ และส่งออก โตต่อเนื่อง ในประเทศขยายช่องทางจำหน่ายออนไลน์และโมเดิร์นเทรดปั๊มรายได้ ตั้งเป้ารายได้ปี 65 โต 12-15%

ECF โชว์ผลประกอบการปี 2564 รายได้รวม 1,600.80 ล้านบาท กำไรโต 23.54%    บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลหุ้นละ 0.0157 บาท

นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF) ผู้ผลิตและจำหน่าย เฟอร์นิเจอร์ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา จำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานปี 2564 บริษัทมีรายได้รวมทุกกลุ่มธุรกิจ 1,600.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 185.18 ล้านบาท หรือ 13.08 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,415.63 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่เท่ากับ 50.85 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 23.54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 41.16 ล้านบาท

ขณะที่ ผลประกอบการไตรมาส 4/64 บริษัทมีรายได้รวม 445 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 422 ล้านบาท จำนวน 23 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 5.47 % และ มีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 15 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 4 ล้านบาท เท่ากับเพิ่มขึ้นจำนวน 11 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 286.56 %

ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากมาจากรายได้การจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ทั้งในประเทศและการส่งออกในช่วงที่ผ่านมาเติบโต สำหรับการจำหน่ายภายในประเทศเติบโตอยู่ที่ 16.37% ในขณะที่การส่งออกเติบโตขึ้นจากกลุ่มลูกค้าประเทศสหรัฐอเมริกา 50.33% และอินเดีย 70.46% ส่งผลให้ภาพรวมของการส่งออกเติบโต 9.27% ในรอบปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายปันผลหุ้นละ 0.0157 บาท หรือคิดเป็นอัตราจ่ายปันผล 121.53 % ของกำไรสุทธิของบริษัท (งบเฉพาะกิจการ) หลังหักสำรองตามกฎหมาย โดยจะทำการกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 14 มีนาคม 2565 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 (ภายหลังวันที่ขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 21 เมษายน 2565 )

นายอารักษ์ กล่าวต่อว่า แนวโน้มธุรกิจช่วงไตรมาส 1/65 มีสัญญาณดี จากนโยบายการเปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยว และมาตรการที่ผ่อนคลายของภาครัฐ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและกำลังซื้อ ประกอบกับเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ตลาดในประเทศ มุ่งเน้นกระตุ้นยอดขายผ่านช่องทางจำหน่ายใหม่ สร้างความหลากหลายของช่องทางการจำหน่ายสินค้า ลดการพึ่งพิงเพียงช่องทางใดช่องทางหนึ่ง อาทิ จำหน่ายผ่านออนไลน์ ร้านโมเดิร์นเทรดชั้นนำที่มีสาขาทั่วประเทศ และเพิ่มตัวแทนจำหน่ายในต่างจังหวัดหัวเมืองใหญ่ อีกทั้ง การขยายตลาดต่างประเทศ มีสัญญาณการเติบโตที่ดีอย่างมีนัยสำคัญ จากกลุ่มลูกค้ารายใหม่ที่บริษัทขยายฐานการจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ส่งออกไปประเทศอินเดีย และสหรัฐอเมริกา ซึ่งมียอดคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

สำหรับภาพรวมธุรกิจในปี 2565 บริษัทมุ่งเน้นสร้างการเติบโต พร้อมเพิ่มความสามารถการทำกำไรจากธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ธุรกิจพลังงาน ซึ่งขณะนี้ทางโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เมียนมาร์ อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการก่อสร้างเฟส 2 ให้แล้วเสร็จคาดว่าภายในปีนี้ และจะเร่งการก่อสร้างเฟส 3 และ เฟส 4 สำหรับกำลังการผลิตรวม 220 เมกะวัตต์ ให้เริ่มการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์โดยเร็วต่อไป รวมถึงธุรกิจอื่น ๆ ที่อยู่ระหว่างเริ่มต้นการดำเนินธุรกิจ อาทิ ธุรกิจเหมืองขุดสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งที่ผ่านมาดำเนินการด้วยความรอบคอบระมัดระวัง รวมถึงธุรกิจการเพาะปลูกและจำหน่ายพืชผลทางการเกษตร อีกทั้งปีนี้คาดว่า จะสามารถพัฒนาแพลทฟอร์มออนไลน์และเริ่มการจำหน่ายสินค้าบนแพลทฟอร์มที่บริษัทเป็นผู้พัฒนาขึ้นได้ภายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้

สำหรับปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมเติบโตไม่ต่ำกว่า 12-15 % และตั้งงบลงทุน 50 ล้านบาท สำหรับธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ เพื่อเพิ่มเครื่องจักรและปรับปรุงไลน์การผลิต รองรับปริมาณคำสั่งซื้อทั้งในและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

HTML::image(