นายวิเศรษฐ์ สนธิชัย รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด และ ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ร่วมลงนามในสัญญาสนับสนุนทางการเงินของ EXIM BANK ในรูปแบบวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนโครงสร้างพิเศษเพื่อรักษาการจ้างงาน (Structured Revolving Payroll Financing) จำนวน 50 ล้านบาท ให้สายการบินไทยสมายล์นำไปใช้เสริมสภาพคล่องเพื่อรักษาการจ้างงาน ฟื้นธุรกิจการบินให้พร้อมรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทย ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2565
นายวิเศรษฐ์ สนธิชัย รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยสมายล์ เปิดเผยว่า "การได้รับการสนับสนุนสินเชื่อจาก ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) ในครั้งนี้ เป็นการเข้ามาเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้แก่สายการบินฯ โดยเฉพาะการจัดการค่าใช้จ่ายด้านพนักงานเพื่อรักษาการจ้างงาน ซึ่งปัจจุบันมีพนักงานกว่า 800 คน โดยสายการบินฯ ได้รับสนับสนุนสินเชื่อ วงเงิน 50 ล้านบาท ทั้งนี้ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เกิดวิกฤตโควิด-19 ส่งผลกระทบโดยตรงกับธุรกิจท่องเที่ยว ทำให้สายการบินฯ ต้องปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินให้องค์กรสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ทั้งการบริหารต้นทุนอย่างเข้มงวดและรัดกุม รวมถึงการลดค่าใช้จ่าย ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากพนักงานทุกคนเป็นอย่างดี อีกทั้งสายการบินฯ ยังมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ การให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศ เป็นต้น"
"การได้รับสนับสนุนสินเชื่อของสายการบินฯ ในครั้งนี้ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้องค์กรสามารถขับเคลื่อนธุรกิจต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง สายการบินฯ สามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายของพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เตรียมพร้อมรองรับการเดินทางและการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยวที่จะเกิดขึ้นอันใกล้ ทั้งนี้ ไทยสมายล์ยังคงยึดมั่นในการนำเสนอสินค้าและบริการตามมาตรฐานการบินและบริการยอดเยี่ยมระดับโลก ตอบสนองความต้องการแก่ลูกค้า คู่ค้า และพันธมิตร เพื่อมุ่งสู่การเป็นสายการบินแบบฟูลเซอร์วิสของคนไทยที่ให้บริการในระดับสากลต่อไป" นายวิเศรษฐ์ กล่าวเพิ่มเติม
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า EXIM BANK สนับสนุนทางการเงินให้แก่สายการบินไทยสมายล์ในครั้งนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสภาพคล่องสำหรับค่าใช้จ่ายพนักงานและรักษาการจ้างงานให้มากที่สุด ประกอบกับช่วยฟื้นฟูธุรกิจสายการบิน ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำของการท่องเที่ยว ให้กลับมาดำเนินกิจการได้เต็มรูปแบบโดยเร็ว ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนท้องถิ่นและประเทศไทยโดยรวม ทั้งนี้ ก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยปีละไม่ต่ำกว่า 40 ล้านคน สร้างรายได้รวมกว่า 1.93 ล้านล้านบาท จนกระทั่งการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลให้ธุรกิจสายการบินได้รับผลกระทบทางตรงจากจำนวนผู้โดยสารที่ลดลงมาก และส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังภาคการจ้างงาน โดยธุรกิจสายการบินมีการจ้างงานรวมกว่า 40,000 คน
EXIM BANK ในฐานะบทบาทธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย มุ่งทำหน้าที่ "ซ่อม สร้าง เสริม และสานพลัง" เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ดังนั้น การซ่อมธุรกิจสายการบินซึ่งประสบวิกฤตในช่วงเวลาที่ผ่านมา อันเป็นผลจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ธุรกิจสายการบินหลายแห่งต้องหยุดบินในบางช่วงเวลาเพื่อปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 จนถึงปัจจุบันประชาชนเริ่มปรับตัวและมีภูมิคุ้มกันโรคมากขึ้น อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกำลังจะกลับมาเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์หลักที่ช่วยฟื้นฟูและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย EXIM BANK จึงพร้อมเติมเงินทุนให้เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากการช่วยพักชำระหนี้และปรับตารางการผ่อนชำระให้สอดคล้องกับสถานการณ์และแนวโน้มการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมา
"EXIM BANK ให้ความช่วยเหลือทั้งธุรกิจการบินและที่เกี่ยวเนื่อง ให้สามารถดำเนินต่อไปได้ ซึ่งครอบคลุม Supply Chain ของธุรกิจสายการบิน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างสังคมที่แข็งแรงให้เติบโตไปด้วยกันกับการพัฒนาเศรษฐกิจแล สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยซ่อมแซมจุดอ่อน สร้างจุดแข็ง เสริมศักยภาพ และสานพลังการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามภารกิจของ EXIM BANK" ดร.รักษ์ กล่าว
HTML::image(