'บมจ.ซีวิลเอนจีเนียริง' หรือ CIVIL นำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรกในวันที่ 27 มกราคมนี้ โดยชื่อย่อหลักทรัพย์ 'CIVIL' ชูศักยภาพการดำเนินธุรกิจส่งเสริมความสามารถทำกำไรขั้นต้นและอัตราทำกำไรสุทธิสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม จากแผนงานนำเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพบริหารโครงการก่อสร้างที่หลากหลายทั้งประเภทและขนาดโครงการ ส่งมอบงานที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ภายใต้งบประมาณที่กำหนด รับแผนรุกขยายงานโครงการภาครัฐและเอกชน ควบคู่การมุ่งสร้างฐานรายได้กลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น ก้าวสู่การเป็นบริษัทก่อสร้างชั้นนำที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยให้เจริญก้าวหน้า
นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CIVIL ผู้นำด้านงานก่อสร้างและวิศวกรรมโยธาแบบครบวงจรของไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้นำหลักทรัพย์เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรกในวันที่ 27 มกราคม 2565 โดยใช้ชื่อย่อ CIVIL ในการซื้อขายหลักทรัพย์ฯ และเชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีด้วยศักยภาพการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่มีประสบการณ์ความชำนาญในอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยมากกว่า 50 ปี บริหารโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่และโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศมากกว่า 1,000 โครงการ ครอบคลุมตั้งแต่ งานทาง งานรถไฟรางคู่และรถไฟความเร็วสูง งานท่าอากาศยาน เขื่อนและอ่างเก็บน้ำ นิคมอุตสาหกรรมและงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ที่มุ่งใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจพร้อมนำข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขัน CIVIL มีความพร้อมด้านบุคลากรเชี่ยวชาญวิศวกรรมโยธา เครื่องจักรอุปกรณ์และเป็นเจ้าของโรงงานผลิตชิ้นส่วนวัสดุก่อสร้าง ส่งเสริมการบริหารต้นทุนโครงการก่อสร้างที่มีประสิทธิภาพ ส่งมอบงานมีคุณภาพ ปลอดภัย ภายใต้งบประมาณที่กำหนด จึงได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานราชการขึ้นทะเบียนเป็นผู้รับเหมาขั้นสูงสุด ตอกย้ำความสามารถบริหารโครงการก่อสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนงานนำเทคโนโลยีสมัยใหม่และวิธีการใหม่ๆ เครื่องมือเครื่องจักรที่ทันสมัย เข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพการบริหารโครงการก่อสร้างให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิด Economy of Speed จากการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้วางแผนการดำเนินโครงการก่อสร้างตั้งแต่ต้นจนบจบ รวมถึงนำหลักบริหารจัดการสมัยใหม่เน้นความคล่องตัว (Agility) และความยืดหยุ่น (Resilience) ปรับตัวสอดคล้องการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม ทำให้ CIVIL เพิ่มความสามารถในการดำเนินธุรกิจ รองรับแผนขยายงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐ ทั้งรูปแบบการเข้าประมูลโครงการภายใต้บริษัทฯ หรือเข้าร่วมในโครงการลงทุนระหว่างภาครัฐหรือภาคเอกชน (PPP) รวมถึงร่วมมือพันธมิตรทางธุรกิจเข้าบริหารโครงการขนาดใหญ่จากภาครัฐและขยายงานไปยังกลุ่มลูกค้าภาคเอกชน รับโอกาสการเติบโตของอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย สร้างสมดุลแก่การดำเนินธุรกิจก่อสร้างและบริหารโครงการก่อสร้าง เอื้อต่อการสร้างผลตอบแทนที่ดีทั้งในแง่การทำกำไรขั้นต้นและอัตราการทำกำไรสุทธิให้โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน CIVIL ยังนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในภาคการผลิตโรงงานชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูป คอนกรีตผสมเสร็จ แอสฟัลท์ติกคอนกรีต คอนกรีตอัดแรงและราวเหล็กลูกฟูกกันรถและท่อระบายน้ำ เพื่อสร้างการเติบโตที่ดีให้แก่กลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้างเพื่อและจำหน่ายให้แก่คู่ค้าและใช้บริหารโครงการก่อสร้าง รวมถึงการได้ต่ออายุสัมปทานเหมืองหินปูนที่เป็นวัตถุดิบหลักในงานก่อสร้างและผลิตปูนซีเมนต์ ยังทำให้บริษัทฯ คงความได้เปรียบเชิงบริหารต้นทุนโครงการก่อสร้างที่ดีต่อเนื่อง
"เรามีเป้าหมายก้าวสู่การเป็นบริษัทก่อสร้างชั้นนำที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยเสริมศักยภาพการดำเนินงานในทุกมิติ เพื่อสนับสนุนการบริหารโครงการก่อสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐ และขยายงานสู่ภาคเอกชน ส่งมอบผลงานที่มีคุณค่า ปลอดภัย ภายใต้งบประมาณที่กำหนด เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยให้เจริญก้าวหน้า" นายปิยะดิษฐ์ กล่าว
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า CIVIL มีศักยภาพการเติบโตสูงกับโอกาสการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของภาครัฐที่อยู่ในช่วงขยายตัวที่ดี ทำให้บริษัทฯ ใช้ความได้เปรียบเชิงการแข่งขันที่โดดเด่นจากการนำเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารโครงการ สร้างโอกาสการเข้าร่วมงานโครงการก่อสร้างภาครัฐและขยายงานลูกค้าภาคเอกชนเพิ่มขึ้น พร้อมรักษาความสามารถในการสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการดำเนินงาน จึงเชื่อมั่นว่า CIVIL เป็นหุ้นกิจการที่อยู่ในช่วงเติบโต หรือ Growth Stock ที่จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างแน่นอน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit