นายสำเริง แสงภู่วงค์
อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตรมีภารกิจในการปฏิบัติการฝนหลวงให้เกิดฝนในปริมาณและการกระจายที่เหมาะสม เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่การเกษตรและป่าไม้ทั่วประเทศ เพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้กับเขื่อนและอ่างเก็บน้ำที่สำคัญ ตลอดจนบรรเทาภัยพิบัติทางธรรมชาติ ได้แก่ ไฟป่า หมอกควัน และพายุลูกเห็บ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติการฝนหลวงให้ได้อย่างทันท่วงที ถูกที่ ถูกเวลาและตอบสนองความต้องการของพื้นที่ให้ทันต่อสถานการณ์ กรมฝนหลวงและการบินเกษตรจึงได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่มีความรู้ ความชำนาญเฉพาะด้าน ทั้งด้านงานวิจัยและพัฒนา ด้านข้อมูล เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ ตลอดจนการควบคุมคุณภาพการปฏิบัติการฝนหลวง ด้วยการเพิ่มขีดความสามารถของห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำฝนจากการปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนที่ใช้น้ำฝนจากการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อการอุปโภค บริโภคและเพื่อการเกษตรว่าเป็นน้ำฝนที่มีความปลอดภัยไม่ต่างจากน้ำฝนธรรมชาติ"...ความร่วมมือกับ วว. ในครั้งนี้ เป็นการเพิ่มขีดความสามารถของห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ทดสอบตามมาตรฐานสากล ISO/IEC 17025 ให้เป็นที่ยอมรับทั้งภายในและต่างประเทศ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในผลการวิเคราะห์ทดสอบคุณภาพน้ำฝน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคน้ำฝนที่ได้จากการปฏิบัติการฝนหลวง นอกจากนี้ในอนาคตห้องปฏิบัติการดังกล่าวยังสามารถขยายขีดความสามารถเพื่อรองรับการวิเคราะห์คุณภาพสารฝนหลวง ช่วยให้สามารถควบคุมคุณภาพได้อย่างครบวงจรและมีประสิทธิภาพ..." อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรกล่าวสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม รับคำแนะนำปรึกษา และรับบริการด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม จาก วว. ติดต่อได้ที่ โทร. 0 2577 9000 โทรสาร 0 2577 9009 เว็บไซต์ www.tistr.or.th อีเมล [email protected] Line@TISTR
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit