งานมหกรรมการเงินระยอง ครั้งที่ 3 ยอดธุรกรรมออฟไลน์และออนไลน์ 3 วัน พุ่งทะลุเป้ากว่า 6,900 ล้านบาท แบงก์แข่งโปรโมชั่นหนุนสินเชื่อบ้านกว่า 3,900 ล้านบาท ประชาชนสนใจซื้อประกันภัย/ประกันชีวิต ทุนประกันรวมกว่า 1,400 ล้านบาท ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ยื่นขอกู้กว่า 800 ล้านบาท
นางสาวภาคนี วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานร่วม งานมหกรรมการเงินระยอง ครั้งที่ 3 Money Expo Rayong 2021 ภายใต้แนวคิด "Future Wealth" วันที่ 28-30 มกราคม 2565 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ระยอง เปิดเผยว่า งานมหกรรมการเงินระยอง ครั้งที่ 3 มียอดธุรกรรมทางการเงินและการลงทุนสูงกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ โดยมีธุรกรรมในแบบออฟไลน์ที่เดินทางมาทำธุรกรรมภายในงาน และแบบออนไลน์ที่ทำธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์ม Money Expo Online รวม 6,952.28 ล้านบาท จากผู้สมัครใช้บริการกว่า 10,066 ราย
นางสาวภาคนีกล่าวว่า งานมหกรรมการเงินระยอง ครั้งที่ 3 ที่จัดขั้นในปีนี้ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีอีกครั้งหนึ่ง โดยมีประชาชนและนักธุรกิจในจังหวัดระยองและจังหวัดในภาคตะวันออก เดินทางเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่องตลอดทั้ง 3 วัน แม้ว่าจะยังอยู่ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งผู้เข้ามาใช้บริการส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าในระดับกลาง-บน มีรายได้ 25,000-100,000 บาทต่อเดือน มีทั้งที่เป็นพนักงานเอกชนในนิคมอุตสาหกรรม และนักธุรกิจ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธนาคาร ที่นอกจากจะได้ให้บริการภายในงานแล้ว ยังเป็นฐานข้อมูลเพื่อนำไปต่อยอดบริการบนแพลตฟอร์มออนไลน์ของธนาคารได้อีกด้วย
สำหรับธุรกรรมที่มีผู้สมัครใช้บริการสูงเป็นอันดับ 1 คือ สินเชื่อบ้านและรีไฟแนนซ์บ้าน รวมวงเงิน 3,935.14 ล้านบาท จากโปรโมชั่นพิเศษประเดิมต้นปี เช่น สินเชื่อบ้านดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% สินเชื่อบ้านดอกเบี้ย 1.75% นาน 1 ปี ผ่อนต่ำปีแรกล้านละ 2,500 บาท/เดือน สินเชื่อบ้านดอกเบี้ยพิเศษแบบลอยตัวเฉลี่ย 3 ปี เริ่มต้น 2.77% และผู้กู้ยังได้รับเงื่อนไขพิเศษภายในงาน เช่น การยกเว้นค่าบริการสินเชื่อ ค่าประเมินราคา ค่านิติกรรมสัญญา ค่าจดจำนอง รวมทั้งบางธนาคารยังได้ทำพรีเซลส์ร่วมกับโครงการอสังหาริมทรัพย์ในระยองและจังหวัดในภาคตะวันออกด้วย
ผลิตภัณฑ์ประกันมียอดธุรกรรมสูงเป็นอันดับ 2 รวมทุนประกันมูลค่า 1,486.26 ล้านบาท โดยในส่วนของประกันชีวิต แบบประกันที่ลูกค้าให้ความสนใจมากในปีนี้คือ แบบประกันสะสมทรัพย์จ่ายเบี้ยระยะสั้น-กลาง แต่ให้ความคุ้มครองระยะยาว นอกจากนี้ ยังมีแบบประกันด้านการลงทุนที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล/หุ้นกู้เอกชน และลงทุนในหุ้น โดยให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากและสามารถนำไปใช้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีประจำปี
ประกันภัยยอดฮิตในงาน ได้แก่ แบบประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) ที่คุ้มครองกรณีเสียชีวิต ทุพพลภาพและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ แบบประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายมีวงเงินคุ้มครองให้เลือกตั้งแต่ 1-120 ล้านบาท และประกันอัคคีภัยสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมที่มีทุนประกันสูงเป็นหลักร้อยล้านบาท
ส่วนสินเชื่อเอสเอ็มอี มีผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ยื่นขอกู้ในงานสูงเป็นอันดับ 3 รวมวงเงิน 888.56 ล้านบาท บางธนาคารได้มีการทำพรีเซลส์ในกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั้งธุรกิจบริการ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ โดยนำเสนอโปรโมชั่นพิเศษตั้งแต่ต้นปี เช่น สินเชื่อฟื้นฟูธุรกิจ ดอกเบี้ยพิเศษเฉลี่ย 2 ปี ไม่เกิน 2% วงเงินกู้ 50 ล้านบาท ผ่อนนานสูงสุด 10 ปี สินเชื่อเอสเอ็มอีดอกเบี้ยพิเศษคงที่ 4% ใน 2 ปีแรก สินเชื่อเอสเอ็มอีดอกเบี้ยเริ่มต้น 4.5% เป็นต้น
สำหรับบริการอื่นๆ นางสาวภาคนีกล่าวว่า มีผู้ยื่นขอกู้สินเชื่อบุคคลและสินเชื่อเงินสดรวม 379.81 ล้านบาท จากผู้สมัคร 1,083 ราย และมีผู้สมัครทำบัตรเครดิต 1,626 ราย รวมวงเงิน 81.30 ล้านบาท
ด้านผลิตภัณฑ์การออมและการลงทุน มีการฝากเงิน/ซื้อสลากออมทรัพย์ รวม 108.84 ล้านบาท ผู้เข้าชมงานยังได้เปิดบัญชีซื้อขายหุ้น/กองทุน/ตราสารอนุพันธ์/ทองคำ 278 บัญชี และสมัครใช้บริการออนไลน์และดิจิทัล เช่น บริการอินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง โมบายล์แบงกิ้ง บริการพร้อมเพย์อีก 486 ราย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit