เอนวิชัน กรุ๊ป (Envision Group หรือเอนวิชัน) ประกาศว่าได้ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง (LOI) ร่วมกับอิมแพค เอนเนอร์ยี่ เอเซีย ดีเวลลอปเมนท์ (IEAD) เพื่อจัดหากังหันลมแก่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมชื่อดัง "มอนสูน" ขนาด 600 เมกะวัตต์ ในประเทศลาว โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวจะเริ่มการก่อสร้างขึ้นในปีนี้ และคาดว่าจะเริ่มการใช้งานเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2568 ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จ ก็จะเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมแบบข้ามพรมแดนแห่งแรกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน
โรงไฟฟ้าพลังงานลมแห่งนี้จะตั้งอยู่ในแขวงเซกองและแขวงอัตตะปือ ทางภาคใต้ของประเทศลาว โดยเอนวิชันวางแผนที่จะจัดหากังหันลม EN-171 จำนวน 133 เครื่อง ที่มีระดับไฟฟ้าอยู่ที่ 4.51 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมมอนสูนจะผลิตพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อมได้มากกว่า 1,700 กิกะวัตต์ต่อชั่วโมง และจะส่งมอบกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้นี้จากลาวไปยังเวียดนามกลาง ผ่านสายส่งไฟฟ้า 500 กิโลโวลต์ของทางโครงการโดยเฉพาะ
นายนัต หุตานุวัตร (Nat Hutanuwatr) กรรมการผู้จัดการของ IEAD ให้ความเห็นว่า "ดังที่เรามีความคืบหน้าอย่างยอดเยี่ยมในด้านการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานลมแบบข้ามพรมแดนแห่งแรกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยอัตราภาษีศุลกากรที่ต่ำนั้น เราก็ขอต้อนรับเอนวิชันมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในเส้นทางที่น่าตื่นเต้นของเรา ในการส่งมอบกระแสไฟฟ้าที่มีการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งเทคโนโลยีล้ำสมัยของเอนวิชันสำหรับโซลูชันกังหันลมที่เสนอมา ตลอดจนประวัติการดำเนินการที่สำเร็จด้วยดีนั้น จะเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับโครงการนี้ในการบรรลุตามวัตถุประสงค์ได้อย่างคุ้มค่า น่าเชื่อถือ"
ทั้งนี้ โครงการมอนสูนได้รับความสนใจจากทั้งโลกมาตั้งแต่ช่วงแรกเริ่ม โดยบริษัทอิมแพค อิเลคตรอนส์ สยาม (IES) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ IEAD นั้น เริ่มพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานลมในปี 2554 และ IEAD ได้ลงนามในข้อตกลงซื้อขายพลังงานกับการไฟฟ้าแห่งเวียดนาม (EVN) ในเดือนกรกฎาคม 2564
นอกจากนี้ เอนวิชันยังร่วมมือกับ IES ในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม "เซกอง" อีก 1,000 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ติดกับโครงการมอนสูน โดย IES เพิ่งประกาศเมื่อไม่นานนี้ว่า บริษัทได้สิทธิ์ขาดแต่ผู้เดียวจากรัฐบาลลาวเพื่อจัดทำการศึกษาความเป็นไปได้และรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมในเบื้องต้นสำหรับโครงการเซกอง
เกี่ยวกับอิมแพค เอนเนอร์ยี่ เอเซีย ดีเวลลอปเมนท์
อิมแพค เอนเนอร์ยี่ เอเซีย ดีเวลลอปเมนท์ (IEAD) พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม "มอนสูน" โดยมีอิมแพค วินด์ อินเวสท์เมนท์ (Impact Wind Investment Limited) เป็นผู้ถือหุ้น 55% และบีซีพีจี (BCPG Public Company Limited) บริษัทพลังงานหมุนเวียนชั้นนำของไทยและเอเชียแปซิฟิก เป็นผู้ถือหุ้น 45%
เกี่ยวกับอิมแพค อิเลคตรอนส์ สยาม
อิมแพค อิเลคตรอนส์ สยาม (IES) เป็นผู้พัฒนาและบุกเบิกด้านพลังงานหมุนเวียนที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศไทย บริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์รวมกว่า 1,900 เมกะวัตต์ในไทย, ญี่ปุ่น, ลาว และเวียดนาม IES เป็นบริษัทเอกชนที่ก่อตั้งเมื่อปี 2554 ที่พัฒนาโซลูชันพลังงานหมุนเวียนที่สะอาด ราคาประหยัด และไว้วางใจได้ และเป็นผู้บุกเบิกการใช้งานนวัตกรรมที่เปี่ยมวิสัยทัศน์ในภาคอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน ด้วยเป้าหมายที่จะสร้างอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับชุมชนทั่วทั้งภูมิภาคนี้
ปัจจุบัน IES เป็นผู้นำในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม "มอนสูน" และ "เซกอง" ในภาคใต้ของประเทศลาว ซึ่งจะมีความจุไฟฟ้ารวมกัน 1,600 เมกะวัตต์ เมื่อไม่นานมานี้ IES ได้ประกาศว่าโครงการมอนสูนได้ลงนามในข้อตกลงซื้อขายพลังงานกับการไฟฟ้าแห่งเวียดนาม โดยคาดว่าโครงการจะบรรลุข้อตกลงทางการเงินได้ภายในปี 2565
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.impactelectrons.com/
เกี่ยวกับเอนวิชัน กรุ๊ป
เอนวิชัน กรุ๊ป คือบริษัทเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมชั้นนำของโลกและพันธมิตรด้านเทคโนโลยีเพื่อการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ ด้วยพันธกิจในการฝ่าอุปสรรคในเส้นทางสู่อนาคตอันยั่งยืนของมนุษยชาติ เอนวิชันออกแบบ จำหน่าย และบริหารจัดการกังหันลมและระบบจัดเก็บพลังงานอัจฉริยะในชื่อ "เอนวิชัน เอนเนอร์ยี่" (Envision Energy), แบตเตอรี่ที่ขับเคลื่อนด้วย AIoT ในชื่อเอนวิชัน เออีเอสซี (Envision AESC) และระบบปฏิบัติการ AIoT ที่ใหญ่ที่สุดของโลกในชื่อเอนวิชัน ดิจิทัล (Envision Digital) นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นเจ้าของทีมแข่งรถเอนวิชัน เรซิง ฟอร์มูลา อี (Envision Racing Formula E) ทั้งนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าส่งเสริมพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ในฐานะ "ถ่านหินแบบใหม่", แบตเตอรี่และเชื้อเพลิงไฮโดรเจนในฐานะ "น้ำมันเชื้อเพลิงแบบใหม่", เครือข่าย AIoT ในฐานะ "กริดพลังงานแบบใหม่", นิคมอุตสาหกรรมที่คาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ในฐานะ "โครงสร้างพื้นฐานแบบใหม่" ตลอดจนผลักดันการสร้างและบ่มเพาะ "อุตสาหกรรมใหม่" ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เอนวิชัน กรุ๊ปได้รับการจัดให้อยู่ใน 10 อันดับแรกของรายชื่อ 50 บริษัทอัจฉริยะประจำปี 2562 โดยวารสารเอ็มไอที เทคโนโลยี รีวิว (MIT Technology Review) เมื่อเดือนตุลาคม 2564 เอนวิชันคว้าอันดับ 2 ของโลกในรายชื่อ "เชนจ์ เดอะ เวิลด์" (Change the World) ของฟอร์จูน ทั้งนี้ เอนวิชัน กรุ๊ปได้เข้าร่วมโครงการริเริ่มระดับโลกอย่าง RE100 และเป็นบริษัทแรกในจีนแผ่นดินใหญ่ที่ตั้งเป้าหมายในการเปลี่ยนไปใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนแบบ 100% ภายใน 2568 เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2564 เอนวิชันได้ประกาศว่า บริษัทจะบรรลุเป้าหมายการเป็นกลางทางคาร์บอนในทุกส่วนของห่วงโซ่คุณค่าภายในปี 2571
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.envision-group.com
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/747745/Envision_Logo.jpg
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit