ทีมนักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) หรือ MST กล่าวว่าท่ามกลางสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนที่รุนแรง คาดส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลก แต่เราเชื่อว่าหลายอุตสาหกรรมของไทยกระทบจำกัด และมีโอกาสที่จะกลับมาขยายตัวได้ดีกว่าที่ตลาดประเมินไว้ ผสานกับกระแสเงินทุนที่ยังมีแนวโน้มไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยเป็นแรงหนุนเพิ่มเติม โดยเราคัดสรรกลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ และวิเคราะห์เจาะลึกเปรียบเทียบหุ้นเด่น ใน 5 แง่มุม จนได้เพชรเม็ดงาม ทั้งหมดจึงเป็นที่มาของบทวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ "เพชร"ตัดเพชร ฉบับนี้ โดยเลือก CPALL, JMT เป็นหุ้นเด่นที่น่าสะสม
โดยหลายอุตสาหกรรมของไทยยังมีแนวโน้มฟื้นตัวดีกว่าคาด ภาพระยะสั้นตลาดยังคงได้รับผลกระทบจากเหตุความรุนแรงระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ยังคงยืดเยื้อและรุนแรงขึ้น แต่อย่างไรก็ดีเรายังคาดไทยจะได้รับผลกระทบที่จำกัด และหลายอุตสาหกรรมของไทยยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดี ดังนั้นเราเชื่อว่าการย่อตัวลงยังคงเป็นโอกาสค่อยๆทยอยสะสม โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจเน้นอิงกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลัก เช่น กลุ่มค้าปลีก, ไฟแนนซ์, ธนาคาร, รับเหมาก่อสร้าง, อสังหาฯ, ท่องเที่ยว และกลุ่มสื่อฯ
หากเปรียบเทียบหุ้นใน 5 แง่มุมที่น่าสนใจในแต่ละอุตสาหกรรม ประกอบด้วยบริษัทจดทะเบียนที่มีความสามารถที่ค่อนข้างสูสีกัน ดังนั้นเราจึงพยายามวิเคราะห์ในเชิงเปรียบเทียบกับหุ้นใน 7 กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการเติบโต โดยแบ่งออกเป็น 5 แง่มุมในการวิเคราะห์ ได้แก่ 1) โครงสร้างธุรกิจ 2) แนวโน้มผลประกอบการ 3) ปัจจัยหนุนในอนาคต 4) การประเมินมูลค่า และ 5) การเติบโตอย่างยั่งยืน (ESG) โดยได้ 7 หุ้นจาก 7 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ CK (รับเหมาฯ), CPALL (ค้าปลีก), JMT (ไฟแนนซ์-บริหารสินทรัพย์), KBANK (ธนาคาร), LH (อสังหาฯ), MINT (ท่องเที่ยว), PLANB (สื่อฯ)
เน้นกลุ่มที่กำไรมีโอกาสดีกว่าตลาดคาดและเป็นเป้าหมายกองทุน จากการคัดกรองหุ้นเพิ่มเติมผ่านธีมการลงทุนที่เหมาะสม โดยเน้นกลุ่มที่มีปัจจัยบวกที่จะหนุนให้ผลการดำเนินงานมีโอกาสทำได้ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ นำไปสู่การปรับประมาณการขึ้น และอาจเป็นเป้าหมายกองทุนทั้งในและต่างประเทศในการเพิ่มน้ำหนักในการลงทุน โดย 2 หุ้นที่เราแนะทยอยสะสม ได้แก่
1) CPALL (TP@79) คาดการบริโภคปี 65 ฟื้นตัว +4.5% จาก +0.3% ในปีที่ผ่านมา ผสานเงินเฟ้อทีเร่งขึ้น หนุนการปรับราคาขาย เป็นบวกต่อ SSSG มีโอกาสดีกว่าคาด อีกทั้งภาคท่องเที่ยวไทยฟื้นตัว และการต่อยอด S-Curve จะช่วยเพิ่มโอกาสการทำกำไรที่ดีกว่าคาด
2) JMT (TP@80) เศรษฐกิจในประเทศกำลังฟื้นตัว หนุนโอกาสในการเก็บหนี้ได้ดีขึ้น ผสานกับการต่อยอด JV กับธนาคารในธุรกิจ AMC เพื่อแก้ปัญหาหนี้จะเป็น Upside เพิ่มเติม และโอกาสในการถูกคัดเลือกเข้า SET50 หนุน Fund Flow ไหลกลับเข้าสะสม
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit