บริษัทสตาร์ทอัพวอยซ์ เอไอ (Voice AI) ในสิงคโปร์ได้รับเงินทุนเพิ่มเติมเพียงไม่กี่เดือนหลังการระดมทุนรอบซีรีส์ เอ (Series A) เพื่อรักษาระดับการเติบโตทั่วโลก
เอไอ รัดเดอร์ (AI Rudder) สตาร์ทอัพชั้นนำด้านปัญญาประดิษฐ์เสียง ประกาศว่า บริษัทได้ปิดการระดมทุนรอบซีรีส์ บี (Series B) มูลค่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้บริษัทมีเงินทุนรวมทั้งหมด 60 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งนักลงทุนรายใหม่อย่างไทเกอร์ โกลบอล (Tiger Global), โคอาทู (Coatue), คาเธย์ อินโนเวชัน (Cathay Innovation), เฟิร์สต์ พลัส (First Plus) และเวนเจอร์สแล็บ (VenturesLab) ได้เข้าร่วมการระดมทุนสมทบกับนักลงทุนรายเดิม ซึ่งได้แก่ ซีคัวญา แคปิตอล (Sequoia Capital) และหัวซาน แคปิตอล (Huashan Capital)
เอไอ รัดเดอร์ ก่อตั้งขึ้นในปี 2562 โดยพัฒนาเทคโนโลยีเสียงเอไอขั้นสูงเพื่อช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ แก้ปัญหาด้านการสื่อสารของธุรกิจสู่ผู้บริโภค (B2C) ในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย รวมถึงการธนาคารและการเงิน ฟินเทค ประกันภัย และอีคอมเมิร์ซ ปัจจุบันมีบริษัทมากกว่า 200 แห่งทั่วโลกใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้าของตนโดยการเพิ่มจำนวนตัวแทนที่เป็นมนุษย์ด้วยผู้ช่วยด้านเสียงเอไอ เพื่อเพิ่มผลกำไร ประสิทธิภาพ และความสามารถในการขยายขนาดระดับสูงสุด
คุน หวู่ (Kun Wu) ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการเอไอ รัดเดอร์ กล่าวว่า "ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีแมชชีนและการเรียนรู้เชิงลึกกำลังเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับวอยซ์ เอไอ (Voice AI) ที่จะมีความเหมือนมนุษย์มากขึ้น ซึ่งการเพิ่มเงินทุนรอบใหม่นี้จะช่วยสนับสนุนการปรับปรุงชุดผลิตภัณฑ์ของเราอย่างต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้าของเราสามารถมอบประสบการณ์ดิจิทัลที่ราบรื่นยิ่งขึ้นให้กับลูกค้า ด้วยความแพร่หลายของเทคโนโลยีและการให้บริการในด้านซอฟต์แวร์ (SaaS) ช่วยให้เราสามารถสร้างผลกระทบต่อธุรกิจข้ามทวีป ในประเทศต่าง ๆ เช่น เม็กซิโก เคนยา ออสเตรเลีย และอื่น ๆ เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะเป็นผู้นำการเติบโตในระยะต่อไปในเขตแดนและอุตสาหกรรมใหม่เพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้าแบบหลายช่องทาง (Omnichannel) ให้กับลูกค้าของเรา"
ความต้องการจากทั่วโลกในด้านการบริการลูกค้าเชิงตอบสนองซึ่งเกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งเอไอ รัดเดอร์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในปีที่ผ่านมา โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่งถึง 400% เมื่อเทียบเป็นรายปี นอกจากนี้ รายได้ที่เกิดต่อเนื่องทุกปี (ARR) ของบริษัทก็เพิ่มขึ้น 3 เท่าในปี 2564 เนื่องจากมีจำนวนลูกค้ามากขึ้น
นิโคลัส ดู เครย์ (Nicolas du Cray) พันธมิตรของคาเธย์ อินโนเวชัน กล่าวว่า "เรามองหาการลงทุนในบริษัทต่าง ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีเอไอเพื่อพลิกประสบการณ์ของลูกค้า และตำแหน่งของเอไอ รัดเดอร์ในตลาดเทคโนโลยีเอไอด้านการสนทนาระดับโลกที่เติบโตอย่างรวดเร็วนั้นเหมาะสมกับหลักการของเรา เนื่องด้วยแนวทางแรกระดับโลกและตลาดทั้งหมดที่เป็นไปได้ (TAM) ซึ่งขยายตัวอย่างรวดเร็วของบริษัท นอกจากนี้ เมื่อเราค้นพบว่า บริษัทจำนวนหนึ่งในพอร์ตโฟลิโอของเราใช้เทคโนโลยีของตัวเองอย่างมากเพื่อมอบประสบการณ์ลูกค้าในรูปแบบที่พลิกวงการ เราจึงต้องสนับสนุนพวกเขา และเราโชคดีอย่างเหลือเชื่อที่มีโอกาสช่วยเอไอ รัดเดอร์ ในขณะที่พวกเขาได้ปฏิวัติประสบการณ์ของลูกค้าให้กับแบรนด์ระดับโลก"
นอกจากนี้ ในการขับเคลื่อนการเติบโตในระยะต่อไป บริษัทจะใช้เงินที่ได้รับจากรอบการลงทุนนี้เพื่อเพิ่มจำนวนพนักงานเป็นสองเท่า ซึ่งจะช่วยสร้างงานให้กับตำแหน่งงานที่เชี่ยวชาญและซับซ้อนในด้านเทคโนโลยีทั่วทั้งภูมิภาค ขณะเดียวกัน เงินทุนรอบใหม่จะนำมาใช้เพื่อสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งของบริษัท รวมถึงการให้บริการลูกค้ามากขึ้นและเพิ่มการดำเนินงานในทั่วโลก ปัจจุบัน แพลตฟอร์มรองรับมากกว่า 15 ภาษา รวมถึงอังกฤษ, บาฮาซา, จีน, ฮินดี, สเปน, ตากาล็อก, ทมิฬ, ไทย, เวียดนาม และมีแผนที่จะเพิ่มภาษาอาหรับ, กวางตุ้ง, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, ญี่ปุ่น, เกาหลี และโปรตุเกสเพื่อสนับสนุนบริษัทนานาชาติได้ดียิ่งขึ้น
เกี่ยวกับเอไอ รัดเดอร์ (AI Rudder)
เอไอ รัดเดอร์ (AI Rudder) ส่งเสริมการสื่อสารด้วยเสียงของลูกค้าด้วยเทคโนโลยียุคใหม่ เพื่อสร้างการเชื่อมต่อที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างบริษัทและลูกค้า โดยเอไอ รัดเดอร์ได้ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกปรับขนาด ความเร็ว และคุณภาพของการโต้ตอบกับลูกค้าและเพิ่มความพึงพอใจของผู้ใช้ด้วยระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอ เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า ทั้งนี้ เอไอ รัดเดอร์มีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ และมีสำนักงานย่อยในเซี่ยงไฮ้และจาการ์ตา
รูปภาพ:
https://mma.prnewswire.com/media/1757814/AI_Rudder_s_Executive_Leadership_Team.jpg
คำบรรยายภาพ: ทีมผู้บริหารระดับสูงของเอไอ รัดเดอร์
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit