เคล็ดลับป้องกันสิวจากการใส่หน้ากากอนามัย ให้หน้ากลับมาใสอีกครั้ง

สาเหตุหลักๆ ของการเกิดสิว ผื่นแพ้ ที่เกิดจากการสวมใส่หน้ากากอนามัย คือ ความอับชื้น เหงื่อ และการสะสมของสิ่งสกปรกในหน้ากากอนามัย จึงต้องใส่ใจเรื่องความสะอาดของหน้ากากอนามัยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคนที่แต่งหน้า บางครั้งเครื่องสำอางที่อยู่บนผิวหน้าอาจหลุดออกมาติดกับหน้ากากอนามัย และฝังแน่นอยู่ในเนื้อผ้า เกิดการสะสมของสารเคมี ความมันบนผิว เหงื่อ เกิดการอุดตันนำมาสู่สาเหตุการเกิดสิว เมื่อมีการเสียดสีกับหน้ากากอนามัยจะสร้างการระคายเคืองให้กับผิว ยิ่งผิวบอบบางแพ้ง่ายก็จะทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

เคล็ดลับการดูแลรักษาช่วยลดสิวจากการใส่หน้ากากอนามัย

1. เปลี่ยนหน้ากากอนามัยควรเปลี่ยนหน้ากากทุก 6-8 ชั่วโมง หรือหากใช้หน้ากากอนามัยแบบผ้า ควรหมั่นทำความสะอาดเป็นประจำทุกวัน เพราะสิ่งสกปรกจะฝังแน่นอยู่ในเนื้อผ้าทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว และควรถอดพักการสวมหน้ากากอนามัยเป็นเวลา 15 นาที ทุก 4 ชั่วโมง

2. ลดการแต่งหน้าการแต่งหน้าส่งผลทำให้ผิวหนังบริเวณที่สวมหน้ากากอนามัยเกิดการอุดตันรูขุมขน เพราะเครื่องสำอางที่ใช้ในการแต่งหน้านั้นมีทั้งสารต่าง ๆ ที่ทำให้ผิวเกิดความระคายเคือง และจะยิ่งเป็นตัวกระตุ้นทำให้ผิวเกิดการอุดตันง่ายต่อการเกิดสิว

3. ทำความสะอาดผิวหน้าเมื่อถอดหน้ากากอนามัยออกควรล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าทันที เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกและแบคทีเรียที่สะสมบนใบหน้า จากนั้นให้ทำความสะอาดผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยนเหมาะกับสภาพผิว

4. ทรีทเมนท์ฟื้นฟูผิวหน้าให้แข็งแรงการทำทรีทเมนท์จะช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวหน้า ช่วยสร้างเซลล์ผิวใหม่ เสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงได้ดียิ่งขึ้น เป็นกระบวนการปรนนิบัติผิวอย่างล้ำลึก พร้อมปรับสมดุลผิวอย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันการเกิดสิวใหม่ หนึ่งในทางเลือกสำหรับการรักษาที่ได้ผลดีแถมยังปลอดภัย เช่น

• Plasmalis เทคโนโลยีช่วยทำความสะอาดผิวล้ำลึกถึงรูขุมขนอย่างอ่อนโยน ทำลายเซลล์แบคทีเรีย ยีสต์ และราต้นเหตุของการเกิดสิว ทำให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดออกอย่างอ่อนโยน
• Pico Second Laser เลเซอร์รักษาหลุมสิว รอยสิว จุดด่างดำ รวมถึง ฝ้า กระ ระดับลึกในชั้นผิว แก้ปัญหารูขุมขนกว้างให้กลับมากระชับ ปรับสีผิวให้กระจ่างใส ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ให้กลับมาดูดีขึ้นอีกครั้ง
• PRP (Platelet Rich Plasma) เทคโนโลยีช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวภายในโดยใช้เกล็ดเลือดของตัวเอง โดยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวเรียบเนียน หลุมสิว รอยสิว รอยแผลเป็นจากสิวดูตื้นขึ้นและจางลง

พญ.รัตตินันท์ แนะนำต่อว่า หากใครที่มีอาการแพ้หรือเป็นสิวจากที่เกิดจากการใส่หน้ากากอนามัยหรือผื่นลุกลาม ควรรีบมาปรึกษาแพทย์ผิวหนังทันที เพื่อหาแนวทางการรักษา การป้องกันที่ถูกต้อง นอกจากนี้การทำทรีทเมนท์ที่ดี และปลอดภัยควรได้รับการดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เพื่อวิเคราะห์ปัญหาผิวหน้าได้ตรงจุด และเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมที่สุดกับสภาพผิวหน้าของแต่ละบุคคล

เมื่อทราบถึงเคล็ดลับการดูแลรักษาช่วยลดสิวจากการใส่หน้ากากอนามัย ก็สามารถนำไปปรับใช้เพื่อดูแลผิวพรรณได้อย่างมีประสิทธิภาพ หวังว่าเคล็ดลับที่เราได้จาก พญ.รัตตินันท์ ตรีรัตน์ ทุกคนจะลองนำไปปฏิบัติกัน เพราะการดูแลรักษาผิวพรรณของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ และถูกวิธีจะช่วยให้ผิวกลับมาแข็งแรง สำหรับผู้ที่ต้องการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณเฉพาะทาง สามารถสอบถามได้ที่รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ โทร. 086-570-7040 หรือ Line : @rattinan

• ข่าวสวมหน้ากากอนามัย
• ข่าวจำเป็น