ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของบริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด (หรือ KTZ) ที่ 'AA- (tha)' และ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น (National Short-Term Rating) ที่ 'F1+ (tha)' โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTZ พิจารณาจากความคาดหวังของฟิทช์ว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งก็คือ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB (BBB+/AAA(tha)/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) จะให้การสนับสนุนเป็นพิเศษนอกเหนือจากการสนับสนุนในด้านการดำเนินงานปรกติ (extraordinary support) แก่ KTZ เมื่อมีความจำเป็น
อันดับเครดิตของ KTZ ต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTB อยู่ 3 อันดับ เพื่อสะท้อนถึงสัดส่วนการถือหุ้นของ KTB ใน KTZ ที่ 50% และการที่ผู้ถือหุ้นส่วนน้อยของ KTZ มีสัดส่วนการถือหุ้นในระดับที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งส่งผลให้ KTB มีระดับการควบคุมการบริหารงานและการร่วมมือกันที่ต่ำกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นลูกของธนาคารรายอื่นที่ได้รับการจัดอันดับจากฟิทช์
อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงความคาดหวังของฟิทช์ว่า KTB จะยังคงให้การสนับสนุนเป็นพิเศษนอกเหนือจากการดำเนินงานปรกติ เนื่องจากมีการใช้ชื่อทางการค้าร่วมกันและมีการผสานความร่วมมือกันในการดำเนินงานที่มีมาอย่างต่อเนื่องระหว่าง KTZ และ KTB โดย KTZ เป็นบริษัทภายในกลุ่มเพียงบริษัทเดียวที่ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ และมีการร่วมมือในการดำเนินธุรกิจกับ KTB เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ของธุรกิจหลักทรัพย์ให้กับลูกค้าของธนาคาร นอกจากนี้ธนาคารยังมีการให้การสนับสนุนในด้านการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง เช่น ในรูปแบบของวงเงินสินเชื่อให้กับ KTZ
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
อันดับเครดิตภายในประเทศของ KTZ มีความเชื่อมโยงกับโครงสร้างเครดิตของผู้ให้การสนับสนุน ซึ่งก็คือ KTB ดังนั้นการปรับตัวด้อยลงของโครงสร้างเครดิตสกุลเงินภายในประเทศของ KTB ซึ่งบ่งชี้ได้จากอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว สามารถนำไปสู่การปรับลดอันดับเครดิตของ KTZ ได้เช่นกัน
ฟิทช์อาจปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTZ ถ้าฟิทช์มองว่ามีการลดลงของสำคัญในเชิงกลยุทธ์ของบริษัทที่มีต่อธนาคารซึ่งจะนำไปสู่การลดลงในโอกาสที่ธนาคารแม่จะให้การสนับสนุนเป็นพิเศษแก่บริษัทลูก โดยเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้ เช่นกรณีที่ KTB มีการลดสัดส่วนการถือหุ้นใน KTZ และไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่หรือมีอำนาจในการบริหารงานในบริษัทอีกต่อไป หรือ การปรับลดความร่วมมือในการทำธุรกิจและการเชื่อมโยงในการดำเนินงานระหว่างกัน ซึ่งอาจส่งผลให้โอกาสที่ธนาคารแม่จะให้การสนับสนุนแก่บริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นลูกปรับตัวลดลงได้ แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์มองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้น
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
ฟิทช์อาจปรับเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศของ KTZ ได้ หากฟิทช์เชื่อว่าโอกาสที่ KTB จะให้การสนับสนุนแก่ KTZ มีการปรับตัวดีขึ้น โดยตัวอย่างของเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้ ในกรณีที่ KTB มีการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นมากกว่า 75% ขึ้นไปควบคู่ไปกับการเชื่อมโยงของการดำเนินงานและการควบคุมในการบริหารงานที่มากขึ้นจากธนาคารแม่
อันดับเครดิตของ KTB ไม่น่าจะได้รับการเพิ่มอันดับขี้นได้อีก เนื่องจากอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTB อยู่ในระดับสูงสุดของอันดับเครดิตภายในประเทศแล้ว
อันดับเครดิตที่มีความเชื่อมโยงกับอันดับเครดิตอื่น
อันดับเครดิตของ KTZ มีความเชื่อมโยงกับโครงสร้างเครดิตสกุลเงินในประเทศของ KTB ซึ่งบ่งชี้ได้จากอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคารแม่
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit